เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 278

ตอนที่ 278: นายน้อยเทียนเจว๋

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินกลายเป็นมืดครึ้ม เขามองไปยังชายกลางคนที่เข้ามาขวางทางเขาอย่างดุดัน ท่านทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ?

ราวกับว่ามีลางสังหรณ์เกิดขึ้นผ่านในหน้าของเจี้ยนเฉิน ชายคนนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างสดใส อย่าเข้าใจผิดข้า น้องชาย ข้าเป็นหนึ่งในตระกูลเจ๋อกาน หินหลากสีที่เข้าเพิ่งจะซื้อทำให้ข้าสนใจ ดังนั้นในฐานะตัวแทนของตระกูลเจ๋อกาน ข้าหวังว่าเจ้าจะขายหินหลากสีให้กับข้า

เมื่อถึงตอนนี้ คนอื่น ๆ ที่รู้สึกอิ่มเอมก็หยุดลง พวกเขาทั้งหมดล้อมรอบเจี้ยนเฉินทันที พวกเขาเริ่มให้ข้อเสนอมากมายเพื่อซื้อหิน แต่ละครั้งที่เสนอราคาก็แพงกว่าครั้งล่าสุดเสมอ

เจี้ยนเฉินได้แต่ลอบถอนใจ สิ่งที่เขากังวลได้เกิดขึ้นแล้ว ด้วยความสามารถพิเศษของหินหลากสีทำให้หลายคนไม่อาจหยุดตัวเองจากการพยายามเสนอซื้อด้วยราคาที่สูงกว่า

แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะเคยได้ยินเกี่ยวกับการอธิบายของผู้จัดการ แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริงและสมควรที่จะซื้อ มันก็เปลี่ยนไปหลังจากที่หินหลากสีได้ปล่อยแสงแปลกประหลาดออกมาและพวกเขาทุกต่างก็สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้น ตอนนี้พวกเขาต้องการซื้อสมบัติลึกลับชิ้นนี้อย่างแท้จริง

ทุกท่าน ข้าต้องขออภัย แต่ข้าไม่ขายหินหลากสีนี้ เจี้ยนเฉินกล่าวกับทุกคน

น้องชาย เจ้าน่าจะขายให้ข้า ข้ายินดีที่จะซื้อมันในราคา 30,000 เหรียญม่วง มันเป็นหินหลากสีที่ไร้ประโยชน์สำหรับเจ้าและจะเอาเรื่องที่น่าปวดหัวมาให้ อย่าดื้อรั้นเลย ผู้อาวุโสผมเปียพูดออกมาราวกับว่าเขาได้ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดกับเจี้ยนเฉินจริง ๆ

ถูกต้อง น้องชาย หินหลากสีนี้จะไม่ปลอดภัยหากอยู่ในมือเจ้า เจ้าควรขายให้ข้า

หินหลากสีจะดึงดูดความสนใจมายังเจ้ามากเกินไป ใครจะรู้ว่ามีใครบางคนพยายามที่จะฆ่าเจ้าหรือไม่ กำไรเหล่านี้ถือว่าเป็นการชดเชยความสูญเสียของเจ้า เจ้าควรจะขายให้กับตระกูลเมเปิ้ลของข้า ข้ายินดีที่จะซื้อในราคา 35,000 เหรียญม่วง

ทุกคนเริ่มเสนอราคาที่สูงไปเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากด้านหลัง หินหลากสีนี้คือสิ่งที่ข้าต้องการ ทุกคนไม่ควรจะมาต่อสู้แย่งชิงกับข้า

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เสียงที่จอแจก็หยุดลงทันที ทุกคนหันไปทางด้านหลังเพื่อดูว่าใครกันที่หยิ่งยโสได้ถึงเพียงนี้? ทุกคนที่เข้ามายังชั้น 4 ของศาลาสมบัติได้ ล้วนแต่ไม่ใช่คนธรรมดาทั้งนั้น

มีชายสองคนที่สวมเสื้อคลุมสีขาวล้วนกำลังเดินมาและหยุดอยู่หน้าเจี้ยนเฉิน มีชายคนหนึ่งอายุประมาณ 28 เท่ากับหมิงตง ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขายืนนิ่งโดยไม่ได้ทำอะไร ใบหน้าของเขาเรียบเฉย ตาทั้งสองข้างของเขาก็ส่องประกายขณะที่พวกเขามองไปยังฝูงชนด้วยท่าทีที่ทรงพลัง

นั้นมันนายน้อยเทียนเจว๋…

ทันทีที่ทุกคนเห็นชายหนุ่มอายุ 28 ปีคนนี้ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป หลายคนเริ่มยิ้มอย่างประจบไปยังชายหนุ่มผู้นั้นราวกับว่าพวกเขาเป็นสหายที่ดีต่อกัน คนอื่นที่มีสีหน้ามืดครึ้มและต่างก็พากันถอนหายใจ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้รับหินหลากสีอีกต่อไป

เห้อ ข้าได้เจอกับเทียนเจว๋ที่นี่ได้อย่างไร มันจบแล้ว หินหลากสีจะไม่ได้เป็นของข้าอีกต่อไป แม้ว่าน้องชายผู้นี้จะขายให้ข้า ข้าก็ต้องส่งมันให้กับนายน้อยผู้นั้น ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพูดอย่างหดหู่

ฮ่าฮ่า นั่นมันนายน้อยเทียนเจว๋ ข้าไม่คิดว่าจะได้พบเจอท่านในศาลาสมบัติวันนี้…

ในเมื่อนายน้อยสนใจหินก้อนนี้ งั้นเราก็จะไม่รบกวนเจ้าอีกต่อไป..

ทุกคนเริ่มพูดคุยอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้ต่อสู้กันเพื่อที่จะซื้อหิน แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็ยกเลิกข้อเสนอไป ไม่มีใครสักคนที่ทำหน้าไม่พอใจ พวกเขาต่างก็ยิ้มไปให้นายน้อยผู้นั้น

เมื่อเห็นทุกคนต่างพูดประจบ ชายหนุ่มก็ก้าวมายังเบื้องหน้าเจี้ยนเฉินและพูดด้วยน้ำเสียงที่หยิ่งผยอง เอาหินหลากสีมา ข้าจะให้เงินเจ้า 15,000 เหรียญม่วงกับเจ้าในภายหลัง

เจี้ยนเฉินหรี่ตาแคบและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า ข้าขออภัย แต่ข้าบอกแล้วว่าไม่ขายหินหลากสี

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทียนเจว๋ก็โกรธ เขาจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยตาที่ลุกวาวอย่างดุดัน เจ้าหนู เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร ภายในเมืองหว่าลู่เหริน ข้า เทียนเจว๋ เมื่ออยากได้อะไร ข้าก็ต้องได้

คำพูดของเทียนเจว๋นั้นทำให้เจี้ยนเฉินโกรธเล็กน้อย เจี้ยนเฉินจ้องมองเขาด้วยความตั้งใจที่หนักแน่น ขณะที่เขาเอ่ยว่า ข้าไม่สนใจว่าเจ้าจะเป็นใคร ถ้าข้าบอกว่าไม่ขาย ข้าก็ไม่ขาย

น้ำเสียงที่คุกคามของเจี้ยนเฉินทำให้คนรอบ ๆ ตกตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อ แม้กระทั่งตัวเทียนเจว๋เอง เขาก็พูดไม่ออกแม้แต่น้อย ไม่เคยมีใครพูดกับเขาเช่นนี้มาก่อน

เมื่อถึงนึกถึงตัวเอง เขาก็แค่นยิ้มออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ก่อนที่จะจ้องมองเจี้ยนเฉินและพูดว่า ดี ! ดีมาก! เจ้าหนู เจ้ากล้ามากที่พูดเช่นนี้กับข้าในเมืองหว่าลู่เหริ่น ที่จริงเจ้าเป็นคนแรกที่พูดอย่างนี้ ! เทียนเจว๋มองไปยังชายกลางคนข้าง ๆ เขาและพูดว่า ผู้คุ้มกันเฉิง ไปเอาหินหลากสีมาจากตัวเด็กโอหังผู้นี้ ! ฮึ่ม ! เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้มาพูดกับข้าด้วยท่าทางเช่นนี้ เขาคงจะเบื่อชีวิตไม่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ