เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 279

ตอนที่ 279: ปัญหาที่หินหลากสีนำมาให้

เทียนเจว๋ไม่รวดเร็วพอที่จะตอบสนองต่อหมัดที่ดุดันของฉินเซียวได้ ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้คือการจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินและฉินเซียวพร้อมกับอ้าปากพะงาบ ๆ หลายครั้งและตะโกนออกมาอย่างสับสน ฉินเซียว เจ้าพูดว่าอะไรนะ เขา…เขาเป็น…น้องชายเจ้า ?

ตอนนี้ถ้าเทียนเจว๋อยากจะตายก็มีทางเดียวคือกระโดดออกจากหน้าต่างไป เดิมทีเขาต้องการใช้เจี้ยนเฉินเพื่อทำให้ฉินเซียวโกรธและห้ำหั่นกันเอง สิ่งที่เขาไม่คิดเลยว่ามันจะมีความสัมพันธ์แบบไม่ตั้งตัว ไม่เพียงแต่เขาจะดูถูกน้องชายร่วมสาบานของฉินเซียว ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะใช้ฉินเซียวสั่งสอนเจี้ยนเฉิน เพราะฉินเซียวเป็นพวกเดียวกับเจี้ยนเฉิน ถ้ามันจะเป็นเช่นนี้ เทียนเจว๋ก็ไม่มีโอกาสอีกต่อไป

ฉินเซียวเดินไปหาเทียนเจว๋และชกไปที่หน้าอกของเขาอีกครั้ง หมัดนี้แรงมากจนเทียนเจว๋ต้องลอยออกไปอีกหลายก้าว หากนี่ไม่ใช่เพราะว่าเขาพยายามแข็งใจฝืนไว้ละก็ เขาคงจะถูกส่งไปไกลกว่านี้และตกลงพื้นด้านหลัง

หลังจากที่โดนชกเข้าที่ร่างกายไปถึง 2 ครั้ง เทียนเจว๋ก็ไม่อาจรับได้อีกต่อไปและเขาก็ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ฉินเซียว อย่าได้ทำให้มันมากเกินไป !

มากเกินไป ? เจ้าต่างหากที่มากเกินไป ! เทียนเจว๋ เจ้าจะไม่พูดอะไรหลังจากที่รังแกน้องชายข้าเลยงั้นรึ เจ้าต่างหากที่กล้ามากเกินไป ! หืม น้องชายของข้าไม่ได้ถูกรังแกกันง่าย ๆ ฉินเซียวคำรามด้วยความโกรธโดยไม่ไว้หน้าเทียนเจว๋เลย เขายังกดดันเทียนเจว๋ต่อไป

ทุกคนที่อยู่บนชั้น 4 ต่างก็มองดูฉากเหล่านี้อย่างสนใจ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ประหลาดใจกับผลลัพธ์ดังกล่าว

ฉินเซียว เจ้าอย่ามาพูดเหลวไหล ข้าไปรังแกน้องชายของเจ้าตอนไหน ? เทียนเจว๋พูดออกมาเสียงดัง ด้วยสีหน้าไม่พอใจราวกับว่าเขากำลังถูกปรักปรำ อย่างไรก็ตามเขาได้พยายามใช้ความสามารถของกลุ่มคนพวกนั้นเพื่อคุกคามเจี้ยนเฉินและบังคับให้เจี้ยนเฉินยกหินหลากสีให้กับเขา มันโชคไม่ดี ไม่เพียงแต่เจี้ยนเฉินจะยังไม่กลัวเขา แต่เขายังทำร้ายผู้คุ้มกันของเขา ทำให้เทียนเจว๋รู้สึกเดือดดาลมาก ตอนนี้เขาหมดทางเลือก

เทียนเจว๋อย่ามาพูดมาก เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าเจ้าเป็นคนแบบไหน เจ้ากลั่นแกล้งผู้คนมากมายในเมืองหว่าลู่เหริน ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าหาญชาญชัยถึงขั้นมารังแกน้องชายของข้า เจ้าไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจริง ๆ รึ ! วันนี้ข้าจะสั่งสอนสารเลวเทียนเจว๋และให้บทเรียนดี ๆ กับเจ้าเอง ! ฉินเซียวคำรามก่อนที่จะชกหมัดใส่เทียนเจว๋อีก 2 ครั้ง

เทียนเจว๋อ่อนแอกว่าฉินเซียวมาก เขาจึงไม่มีแรงพอที่จะต่อสู้กลับ หมัดของฉินเซียวชกเทียนเจว๋จนเกิดเสียงดังออกมา อย่างไรก็ตามแม้ว่าเสียงมันจะทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนเจ็บมาก แต่ฉินเซียวก็ไม่ได้ออกแรงทำร้ายเทียนเจว๋มากเกินไป

ฉินเซียว ฝากไว้ก่อนเลย เราจะได้เห็นดีกันหลังจากที่บิดาของข้าได้ยินเรื่องนี้อย่างแน่นอน เจ้าจะต้องถูกลงโทษ ! เทียนเจว๋พยายามหลบหมัดของฉินเซียวขณะที่ตะโกนใส่เขา

ฮึ่ม ข้าจะถือว่าเจ้าไม่ได้พูดเมื่อกี้นี้ ฉินเซียวหัวเราะอย่างรังเกียจ

แม้กระทั่งเจี้ยนเฉินที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่ด้านหน้าของเขาก็มองอย่างงงงวย เขาไม่คิดว่าเทียนเจว๋ที่หยิ่งหยองผู้นี้ที่บังคับให้เขาขายหินหลากสีจะเป็นไอ้ขี้แพ้เช่นนี้ ความโอหังของเขาดูหายไปหมดเลยในทันที

ตอนนี้เจี้ยนเฉินสามารถเดาได้แล้วว่าเทียนเจว๋และฉินเซียวทั้งคู่มาจากตระกูลเทียนฉินเหมือนกัน ฉินเซียวมาจากตระกูล ฉิน ขณะที่เทียนเจว๋มาจากตระกูล เทียน

เจี้ยนเฉินเก็บกระบี่วายุโปรยอย่างช้า ๆ เขาเฝ้ามองดูการไล่ทำร้ายกันระหว่างเทียนเจว๋และฉินเซียวอย่างขมขื่น ตอนนี้เทียนเจว๋ได้เป็นคนที่แตกต่างออกไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

พี่ฉินเซียว ปล่อยเรื่องนี้ไปเถิด เจี้ยนเฉินบอกกับฉินเซียวเช่นนี้

ฉินเซียวหยุดไล่ทำร้ายเทียนเจว๋ก่อนที่จะทำท่าคันไม้คันมือของเขา ในเมื่อน้องชายของข้าไม่ต้องการเอาเรื่องและยกโทษให้เจ้า เทียนเจว๋ ลองมารังแกเขาอีกครั้งสิ ข้า ฉินเซียว ขอบอกได้เลยว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอย่างแน่นอน

เทียนเจว๋มองไปที่ฉินเซียวด้วยความหวาดกลัว เขาไม่กล้าโกรธและพูดอะไร เขาเป็นคนที่ชอบรังแกผู้ที่อ่อนแอและหวาดกลัวผู้ที่แข็งแกร่งกว่า และตำแหน่งของฉินเซียวในตระกูลก็เหนือกว่าเขา แทบทุกคนในตระกูลก็ใส่ใจเขาราวกับว่าเขาเป็นลูกรัก การเอาใจใส่ที่มากกว่าคนปกติและทรัพยากรการบ่มเพาะก็มากเท่าที่เขาต้องการ

หลังจากนั้นไม่นานเทียนเจว๋ก็มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่มืดมัวและความอัปยศในวันนี้ที่เขาได้รับนั้นเป็นเพราะเจี้ยนเฉิน

ฉินเซียวเดินไปหาเจี้ยนเฉินเพื่อดูว่าเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ก่อนที่จะตบไหล่ถามเขา น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ?

ฮ่าฮ่า ข้าไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องดีที่พี่ฉินเซียวมาอย่างรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นผลลัพธ์มันอาจจะแตกต่างออกไป เจี้ยนเฉินหัวเราะพร้อมกับเหล่สายตาไปยังชายสองคนที่เฝ้าบันได ชายสองคนที่เฝ้าบันไดต่างก็มองเขามาด้วยสายตาที่อ่อนโยน เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินเป็นสหายกับฉินเซียว พวกเขามีความลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะหายไปและไม่ได้พูดอะไร

หลังจากที่เยี่ยมชมศาลาสมบัติ เจี้ยนเฉิน, หมิงตงและฉินเซียวก็เดินออกมาจากตัวอาคารและกลับไปยังตระกูลเทียนฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ