เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 296

ตอนที่ 296: หน้าไม้

เมื่อเห็นว่าดาบของเขาเขาโดนป้องกัน ศัตรูก็ร้องตกใจออกมาก่อนที่จะดึงดาบกลับไปเพื่อที่จะฟันไปที่เจี้ยนเฉินอีกครั้ง

กระบี่ของเจี้ยนเฉินกระพริบหายไปอีกครั้ง ทำให้คนอื่น ๆ ได้ยินเพียงเสียงของกระบี่ที่พุ่งมาที่พวกเขาอย่างรวดเร็วเท่านั้น แม้ว่าจะมีดินบังการมองเห็นของเขาอยู่ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา มันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อความสามารถในการต่อสู้ของเขามากนัก

ในพริบตาเดียว เจี้ยนเฉินและคนอื่นก็ผลัดกันโจมตีหลายครั้ง ก่อนที่เขาจะอาศัยจังหวะได้เปรียบที่คนอื่น แทงไปที่ข้างหน้าด้วยความเร็วดุจสายฟ้าไปที่คอของชายคนหนึ่ง

กระบี่นั้นรวดเร็วมาก และมันก็พุ่งไปถึงข้างหน้าของชายคนนั้นทันที ปราณกระบี่จำนวนมหาศาลได้กระเพื่อมออกจากปลายกระบี่และเริ่มกัดกินไปที่คอของเขา

ชายคนนั้นร้องออกมาอย่างขวัญหาย แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เขาก็เอาอาวุธเซียนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาเอามันขึ้นมาบังที่คอแล้วเตะเจี้ยนเฉินออกไปในทันที

กระบี่วายุโปรยแทงไปถูกดาบของชายคนนั้นจนเป็นรอยสีขาวลึก ในขณะที่มือซ้ายของเจี้ยนเฉินก็กระแทกลงไปที่ขาของชายคนนั้นด้วยพลังเซียนปริมาณมหาศาล

“แกร๊ก!”

เสียงกระดูกหักดังออกมาจากขาของชายคนนั้นทันที แรงจากการโจมตีส่งให้ชายคนนั้นลอยกระเด็นออกไปจากเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินใช้โอกาสนี้กระโจนออกมาจากฝุ่นดินที่ล้อมเขาเอาไว้และจ้องไปที่คนที่โจมตีเขา เขาเห็นชายวัยกลางคนที่อยู่ในชุดสีน้ำตาลที่มีดวงตาเล็กแต่ค่อนข้างดุร้าย เขามีเครายาวและถือดาบที่ยาวเกือบเท่าความสูงของเขา

เจี้ยนเฉินจ้องมองชายผู้นั้นอย่างเย็นชา “ตั้งแต่เมื่อไรกันที่มีเซียนปฐพีที่ลอบโจมตีคนอื่นจากด้านหลัง?”

เมื่อได้ยินดังนั้นชายวัยกลางคนก็พ่นลมออกมาทางจมูก “ฮืม อย่าอ้างความชอบธรรมแบบนั้นเลย นี่มันเป็นการคัดเลือกทางธรรมชาติ ใครก็ตามที่ได้รับชัยชนะสุดท้ายก็คือผู้ชนะ ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม” ชายคนนี้จ้องไปที่เจี้ยนเฉินแล้วพูดออกมา “เจ้าหนุ่ม เจ้าไม่ได้ดูแก่มาก แต่ความแข็งแกร่งของเจ้านั้นเหลือเชื่อจริงจริง เจ้าหนุ่มขนาดนี้แต่ก็ยังเป็นถึงเซียนปฐพี ! “

“ขอบคุณสำหรับคำชม” เจี้ยนเฉินยิ้มออกมา “ในตอนนี้ เจ้าอยากจะให้ป้ายของเจ้ากับข้าเองหรือจะให้ข้าไปเอามันมาด้วยตัวเองจากเจ้าล่ะ?”

“เจ้าช่างโอหังนักที่ต้องการจะเอาป้ายของข้า ขอข้าดูความแข็งแกร่งของเจ้าหน่อยสิว่ามากพอที่จะทำแบบนั้นหรือไม่” ชายคนนี้พ่นลมออกมาทางจมูกก่อนที่จะเหวี่ยงดาบเพื่อเตรียมตัวที่จะสู้อีกครั้ง ในเวลาเดียวกัน พลังเซียนธาตุดินจำนวนมากก็เริ่มควบแน่นอยู่ที่ร่างกายของเขาเหมือนชุดเกราะ ทำให้เขามีการป้องกันที่แข็งแกร่งมากขึ้น

กระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ในชั่วขณะเดียว การโจมตีจากกระบี่เพียงกระบวนท่าเดียวของเขาก็เห็นเหมือนมันออกมาจากหลายมุม ภาพติดตาของแต่ละกระบี่ยากที่จะบอกได้ว่าอันไหนของจริงหรือปลอม

ในตอนนี้ ภายใต้การโจมตีของเจี้ยนเฉิน ชายวัยกลางคนแทบไม่มีเวลาที่จะหายใจ เขาถอยกลับอย่างยากลำบาก ร่างของเขาเต็มไปด้วยรอยกระบี่ ในขณะที่เกราะพลังเซียนธาตุดินของเขาก็เกือบจะถูกทำลาย มันคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก

ชายผู้นี้นิ่งอึ้งไปในตอนนี้ เขาไม่คิดว่า เจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเซียนปฐพีก็ตาม แม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เขาก็สู้เจี้ยนเฉินไม่ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบี่ของเจี้ยนเฉิน กระบี่นั้นเร็วเกินไปกว่าที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ได้ทัน และภาพติดตาของกระบี่ก็ทำให้เขาตกอยู่ในความมึนงง

เมื่อรู้ว่าเขาเทียบไม่ได้ เขาจึงล้มเลิกที่จะสู้ เขาหลอมรวมเข้ากับพื้นดินให้หายไปจากสายตาเพื่อที่จะหลบหนี

การเคลื่อนไหวแปลก ๆ ของชายผู้นี้ทำให้เจี้ยนเฉินนิ่งไป เมื่อเห็นว่าชายคนนี้หายจากสายตาลงไปที่พื้นดิน เจี้ยนเฉินก็ตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นวิธีการหนีแบบนี้

ทักษะการหนีของชายคนนี้ไม่ได้ทำให้ตัวตนของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง ทุกการเคลื่อนไหวของเขา จะสังเกตเห็นได้ถึงดินกองเล็ก ๆ ที่โผล่ขึ้นมาเป็นทาง ใครก็ตามที่มีสายตาที่แหลมคมก็สามารถที่จะตรวจจับได้

เจี้ยนเฉินแสยะยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะกระโจนออกไป 30 เมตรกลางอากาศและจากนั้นเขาก็ใช้กระบี่วายุโปรยที่ส่องแสงของเขาแทงลงไปที่กองดินเล็ก ๆ ที่ปูดขึ้นมาด้วยความเร็วสูง

“ฉึก ! “

ในขณะที่กระบี่แทงลงไปที่พื้นดิน เลือดก็พุ่งเหมือนน้ำพุไปบนอากาศ ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินแทงถูกชายวัยกลางคน

ชายคนนี้ไม่มีเวลาที่จะมาตกใจ เขาพยายามที่จะเคลื่อนที่ให้ไวขึ้นเพื่อที่จะหนีในตอนนี้ เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดครั้งก่อนแล้วเขาก็มุดลึกลงไปในพื้นดินมากกว่าเดิมเพื่อที่จะให้เจี้ยนเฉินจับไม่ได้

เจี้ยนเฉินนั้นไม่สามารถบินในอากาศได้ เขาสามารถร่อนอยู่กลางอากาศได้ชั่วขณะโดยใช้พลังงานเซียนจำนวนมาก เขาร่อนอยู่ 30 เมตรกลางอากาศ จากนั้นสายตาที่เย็นชาของเขาก็มองลงไปบนพื้นดินเพื่อที่จะมองหาทิศทางที่เป็นไปได้ที่ชายวัยกลางคนคนนั้นจะหนีไป การที่เขาดำลึกลงไป ทำให้เจี้ยนเฉินไม่สามารถตรวจจับเขาได้

ในเสี้ยววินาที่ต่อมา หญ้ากองเล็ก ๆ ก็ขยับเล็กน้อย เจี้ยนเฉินจึงแทงลงไปอย่างไม่ลังเล ในขณะที่ปราณกระบี่ของเขาก็เริ่มครอบคลุมบริเวณนั้น

ปราณกระบี่กระจายอยู่ทั่วบริเวณเหมือนน้ำในถังที่สาดกระจายไปทั่ว

“เจ้าสารเลว อย่าให้มันมากไปนัก ! ” ชายคนนี้ตะโกนออกมาในขณะที่เขากระโจนออกมาจากพื้นดินด้วยเลือดที่ชุ่มไปทั้งร่างของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ