เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 312

ตอนที่ 312: การรวมตัวของจอมยุทธทั้งห้า (3)

แสงสีทองปรากฎอยู่ด้านหลังของเจี้ยนเฉินทันใดนั้นก็เกิดการปะทะเข้ากับยุทธภัณฑ์พร้อมกับเสียงดังสนั่น แรงกระแทกของพลังงานที่กระจายออกมาทำให้ทุกคนรู้สึกได้ คนที่อยู่ในขอบเขตเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษในระยะ 100 เมตรต่างก็กระเด็นไปทันที เมื่อมองจากแรงกระแทกของพลังงานมหาศาลแบบนี้ มีแต่คนที่อยู่ในขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้นที่จะต้านไหวได้

แสงสีทองที่มาจากข้างหลังของเด็กหนุ่มปะทะกับยุทธภัณฑ์ที่เขาถือทำให้เกิดการระเบิดของพลัง ทำให้เขากระเด็นถอยหลังออกไป เมื่อเขาตั้งหลักได้ ใบหน้าของเขาก็เริ่มซีดจาง

ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎนั้นทรงพลังอย่างมากและเมื่อยุทธภัณฑ์ทั้งสองปะทะกัน แม้กระทั่งเซียนปฐพีเองหากอยู่ใกล้ก็ต้องกระเด็นถอยหลังออกมาเหมือนกัน ยิ่งการระเบิดจากแรงปะทะทำให้เด็กหนุ่มมีบาดแผลที่เห็นได้อยู่บ้าง แต่เนื่องจากความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เขาจึงไม่อาจต้านทานยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎได้ เขาจึงยังคงด้อยกว่าเจ๋อกู่อยู่เล็กน้อย

เด็กหนุ่มที่กำลังถือยุทธภัณฑ์มองไปที่หญิงสาวที่กำลังถือธนูที่อยู่ข้างหลังเจี้ยนเฉินด้วยท่าทางที่น่ากลัวขณะที่เขาพูดติดอ่างว่า ยะ-ยุทธ-ทะ-ภัณฑ์ ผะ-ผู้คุมกฎ !

หญิงสาวไม่ตอบกลับชายคนนั้นและก้มหัวลงเล็กน้อย จากนั้นมือของนางก็โก่งคันศรเตรียมที่จะยิงออกมาอีกครั้ง

ข้าไม่คิดว่ายุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎชิ้นอื่นจะอยู่ที่นี่ ดูท่าแล้วธนูคันนั้นคงเป็นอีกชิ้นหนึ่ง ชายที่ควงดาบไฟเป็นคนพูดขณะที่เขาจ้องไปที่คันธนู

ฉินจี๋ถอนหายใจยาวขณะที่เขามองด้วยสายตาที่ซับซ้อน ลุงรอง ดูเหมือนว่าการคาดเดาของท่านจะถูกต้อง ธนูนั่นเป็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎอีกชิ้น

ชายกลางคนที่ยืนอยู่ถัดจากฉินจี๋ยิ้มน้อย ๆ ข้าไม่คิดว่าธนูคันนั้นจะเป็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ นั่นหมายความว่ามียุทธภัณฑ์ถึง 6 ชิ้นรวมกันอยู่ที่นี่ โอกาสที่จะฆ่าสัตว์อสูรนั้นก็เพิ่มขึ้นมา หากว่าเจ๋อกู่ตาย มันคงทำให้เกิดความเสียหายต่อกองกำลังของพวกเราเป็นอย่างมาก

ฉินจี๋ถอนหายใจ ลุงสอง แม้ว่าเจ๋อกู่จะตาย แต่อีกคนก็ทรงพลังอย่างไม่คาดคิด สำหรับข้าดูเหมือนว่าเขาจะไม่อ่อนแอนักและอาจจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพวกเราด้วยซ้ำ

ถูกต้อง

…..

การปรากฏของธนูสุริยันจันทราทำให้เด็กหนุ่มที่ออกมาล้างแค้นแทนเจ๋อกู่ลังเลก่อนที่จะยืนนิ่งและตะโกนว่า เจ้าเป็นใคร ?

นั่นเป็นคำถามที่ข้าต้องการถามเจ้าเช่นกัน เจี้ยนเฉินพูดอย่างสงบ แม้ว่าเขาจะกลัวที่จะถูกโจมตีด้วยยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎเหล่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงมันออกมา

เด็กหนุ่มมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างดูถูกก่อนที่จะหันไปถามหญิงสาวและพูดอย่างภูมิใจว่า ข้าชื่อ เจียเต๋อหวูคัง ภายในโลกรกร้างแห่งนี้ ชื่อของเจียเต๋อหวูคังเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับทุกคนในฐานะห้าจอมยุทธ

เจี้ยนเฉินที่ถูกเจียเต๋อหวูคังเย้ยหยันและหัวเราะอย่างเย็นชา งั้นเจ้าก็เป็นเจียเต๋อหวูคัง เจ้าก็ไม่ได้มีอะไรมาก หากว่าเจ้าไม่ได้มียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎของเจ้า เจ้ายังไม่มีค่าพอที่จะทำให้ข้าฆ่าเจ้าด้วยซ้ำ

เจ้า ! เจ้ารนหาที่ตาย ! คำพูดของเจี้ยนเฉินทำให้เจียเต๋อหวูคังโกรธทันที เขาถือยุทธภัณฑ์ของเขาพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉิน แต่ก่อนที่เขาจะไปได้ไกลก็มียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎอีกอันยื่นขวางเขา ทำให้เขาหยุดทันที

หญิงสาวได้เหนี่ยวธนูสุริยันจันทราอีกครั้งและได้เล็งมาที่เขาแล้ว

ใบหน้าของเจียเต๋อหวูคังซีดอยู่พักแวบหนึ่ง ในขณะที่พวกเขาทั้งสองมียุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎเหมือนกัน หากแต่คันศรนั้นได้เปรียบในการต่อสู้ระยะไกล หากว่าเขาถูกอีกครั้งแม้ว่าเขาจะใช้ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎป้องกัน แรงกระแทกก็ยังคงส่งเขาลอยกลับไปและบังคับให้เขาต้องเป็นฝ่ายตั้งรับแต่ฝ่ายเดียว สำหรับเขา การพ่ายแพ้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาจะกลายเป็นผู้แพ้อย่างแน่นอนเรื่องจากลูกศรสีทองนั้นเร็วเป็นอย่างมาก เกินกว่าที่เขาจะหลบได้ เจียเต๋อหวูคังจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

เมื่อเห็นว่าเจียเต๋อหวูคังกำลังติดอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากโดยจะถอยก็ถอยไม่ได้ จะเดินหน้าต่อก็ไปไม่ได้ ฝูงชนจึงหัวเราะเสียงดัง

ฮิฮิฮิ ยังมีสิ่งที่น่าขำอีกขณะที่เขากำลังสู้กัน มันเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่มากหากว่ามีการระเบิดภูเขาเผากระท่อม ถ้าเจ้ายังคงกลัวหญิงสาวนั่นอยู่ เจ้าก็ตายไปครึ่งนึงแล้ว หญิงสาวที่สวมชุดสีชมพูเดินผ่านฝูงชนเข้ามา ที่ด้านข้างของนางก็มีจอมยุทธอีก 2 คนตามมาด้วย

นี่เป็นหญิงสาวที่โตเต็มวัยซึ่งมีอายุราว ๆ 20-26ปี ร่างกายของนางเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างมากและทุกการเคลื่อนไหวก็ดูเหมือนว่าทำให้ทุกคนที่อยู่ใกล้หลงเสน่ห์

การปรากฏตัวของหญิงสาวชุดสีชมพูนั้นสามารถอธิบายได้ว่าเป็นสาวงามที่หาได้ยากยิ่งภายใต้สวรรค์ชั้นฟ้า ด้วยเสน่ห์ที่นางได้แผ่ออกมา ทำให้หญิงสาวชุดเหลืองดูจืดจางไปเลยในแง่ทั้งความงามและจิตสังหาร คนอื่น ๆ รู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยความต้องการที่จะพิชิตใจของนาง

ฮ่าฮ่าฮ่า แม่นางผู้นี้ดูเหมือนจะมาจากตระกูลเทียนมู่ ชื่อหลิง ! ข้าหวังว่าชายทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้อนรับนางเป็นอย่างดี หญิงสาวชุดชมพูพูดพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างน่าหลงใหล คนที่มีการควบคุมต่ำก็เริ่มที่จะสูญเสียการควบคุม

เทียนมู่หลิง นางอาจจะเป็นเทียนมู่หลิงจากห้าจอมยุทธ หนึ่งในนั้นร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ

ในขณะที่ทุกคนรู้จักชื่อของจอมยุทธทั้งห้า แต่บางคนก็ยังไม่เคยเห็นพวกเขามาก่อน

ทุกคนมองไปที่เทียนมู่หลิงด้วยท่าทางแปลก ๆ เพราะทุกคนต่างก็ตกใจอยู่ในความคิด พวกเขาไม่ใครคิดว่าเทียนมู่หลิงจะเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์และในเวลาเดียวกันนางก็มีความคิดที่แปลก ๆ อยู่ด้วย

เทียนมู่หลิงมองไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ ก่อนที่จะหยุดอยู่ที่เจียเต๋อหวูคังและหัวเราะ น้องชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก ดาบในมือของเจ้าต้องเป็นอาวุธเซียนที่แข็งแกร่งมาก ๆ จนทำให้หัวใจของสาวน้อยคนนี้กลัว จากนั้นเทียนมู่หลิงก็แสดงท่าทางหลาดกลัวออกมาให้คนอื่น ๆ เห็นว่านางหวาดกลัวจริง ๆ

เจียเต๋อหวูคังมีรอยยิ้มที่เอียงอายขณะที่เขาใช้วิธีการนี้หนีรอดไปจากสถานการณ์ของเขา เขาค่อย ๆ เก็บอาวุธกลับไปอย่างช้า ๆ และพูดอย่างภูมิใจว่า ข้าชื่อว่าเจียเต๋อหวูคัง อาวุธเซียนนี้เป็นของบรรพชนรุ่นแรกของตระกูลเจียเต๋อของข้า ตามข่าวลือที่บอกกันมา มันเป็นของบรรพชนรุ่นแรกที่ทรงพลังอย่างมาก มันแข็งแกร่งอย่างมากจนถูกพูดว่าหากเซียนปฐพีวัฎจักรที่ 6 ถือดาบเล่มนี้ เขาก็สามารถฆ่าเซียนสวรรค์ลงได้

ว้าว ทรงพลังมาก! เทียนมู่หลิงมองดูพร้อมกับแสดงความตกใจบนใบหน้าของนาง ขณะที่ยกมือขึ้นปิดปากด้วย ปฏิกิริยานี้ทำให้เจียเต๋อหวูคังภูมิใจอย่างมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ