เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 313

ตอนที่ 313: ร่วมมือ

ใบหน้าของชิเซียงกราน ยังคงขาวซีดอยู่อย่านั้น เมื่อเห็นเลือด เขาก็เริ่มเหงื่อออกมากขึ้น ตอนนี้เองที่เขาได้ตระหนักว่าเขาอยู่ห่างจากประตูนรกเพียงก้าวเดียว

ความโกรธและโมโหเริ่มคุกกรุ่นมาที่หน้าอกของชิเซียงกราน ในตอนนี้เขาได้จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างมาดร้าย ดวงตาของเขาแสดงออกให้เห็นถึงความต้องการฆ่าออกมาอย่างโต้ง ๆ ตอนนี้ถ้าเขาไม่อาจใช้ม่านพลังได้ทันเงลา เขาจะกลายเป็นศพ ยิ่งกว่านั้นการตายด้วยน้ำมือของคนที่อายุน้อยกว่าอีกด้วย มันจะน่าขายหน้ามากแค่ไหนกันสำหรับชิเซียงกรานที่นับได้ว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะรุ่นเดียวกัน หากว่าเขาตายมันจะต้องเป็นความอัปยศสำหรับตระกูลของเขาอย่างไม่มีวันลืม

หากว่าข้าไม่ฆ่าเจ้าในวันนี้ ข้าจะไม่ยอมใช้ชื่อว่าชิเซียงกรานอีกต่อไป ! ชิเซียงกรานที่สองตาแดงกล่ำพุ่งเข้าหาเจี้ยนเฉินและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เขาโยนโลหะขนาดเล็กออกมาจากเข็มขัดมิติและโยนมันขึ้นไปบนอากาศ

ผนึกภูเขาขยายตัวอย่างรวดเร็วกลางอากาศและปิดกั้นแสงแดดจากด้านบนด้วยรูปร่างของมันที่ใหญ่กว่า 200 เมตร มันผนึกท้องฟ้าและทุกคนที่อยู่ใกล้กับผนึกก่อนที่จะกดลงมาพร้อมกับคลื่นพลังมหาศาล

ในเวลานั้นตู่กูเฟิงที่ได้เห็นผนึกภูเขาอยู่เหนือหัว ดวงตาของเขาก็ส่อแววถึงความอันตรายก่อนที่จะหยิบดาบยาวออกมาทันทีและโจมตีไปยังผนึกด้วยเปลวไฟ ทันทีที่เขาฟันขึ้นไปอากาศโดยรอบก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ

แม้ว่าดาบจะยาวเพียง 1 เมตร เจียเต๋อหวูคังก็ยังมองอย่างเหยีนดหยาม เขากระโดดขึ้นไปบนอากาศและจู่โจมผนึกด้วยดาบของเขาทำให้เกิดประกายวูบวาบ

ทันใดนั้นอุณหภูมิโดยรอบก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้วัชพืชรอบ ๆ แห้งเหี่ยวทันที แม้แต่ต้นไม้ที่ลอยขึ้นไปในอากาศก็เริ่มเหี่ยวเฉาลงราวกับว่าน้ำในต้นของมันทั้งหมดระเหยไป เปลวเพลิงนั้นร้อนแรงอย่างมากราวกับว่าทุกคนกำลังอยู่ในทะเลเพลิง

ใบหน้าของฉินจี๋มืดหม่นอย่างยิ่ง มือของเขาพลันปรากฏมีดยาวเล่มหนึ่งที่เรืองแสงสีฟ้า แต่รูปร่างของมีดยาวนั้นแปลกมาก มันมีใบเลื่อยที่ดูเหมือนกับฟันเป็นซี่ ๆ ซึ่งเพียงแค่เห็นก็บอกได้เลยว่ามันคมมาก

ฉินจี๋พุ่งขึ้นไปบนอากาศและปะทะกับผนึกภูเขา ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวแสงสีฟ้าก็พุ่งเข้าหาผนึก

ในเวลาเดียวกันเทียนหลิงมู่ก็เผยให้เห็นแส้ยาวก่อนที่จะหัวเราะและพูดว่า น้องชาย เจ้าค่อนข้างเจ้าอารมณ์ ข้าไม่ได้ทำให้เข้าขุ่นเคือง ดังนั้นเจ้าไม่อาจใช้อะไรก็ตามทำในสิ่งที่เจ้าพอใจกับคนอื่น ๆ ? พร้อมกับสะบัดแขนของนาง แส้ก็พุ่งไปยังผนึก

“วูช ! “

แสงสีทองวาบผ่านเจี้ยนเฉินขณะที่หญิงสาวได้ปล่อยศรออกมา ศรของนางเต็มไปด้วยพลังเซียนที่บริสุทธิ์มันควบแน่นจนเป็นรูปเป็นร่างและพุ่งออกไปยังผนึกด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

ในขณะนี้จอมยุทธทั้งห้าได้ปลดปล่อยการโจมตีของพวกเขาแต่ละคนด้วยยุทธ์ภันฑ์ผู้คุมกฏ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือจอมยุทธทั้งสี่รวมกับหญิงสาวชุดเหลืองกำลังต่อสู้ร่วมกันเพื่อต้านคนเพียงคนเดียว

ผนึกสมบัติภูเขาของชิเซียงกรานมีฐานกว้างกว่า 200 เมตรซึ่งมันสูงตระหง่านเหนือทุกคนที่อยู่ที่นั่น ด้วยความโกรธจนหน้ามืดตามัวทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่าเขาได้ทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ขุ่นเคือง

เวลานี้แม้ว่าชิเซียงกรานได้ตระหนักถึงมันก็สายไปเสียแล้ว

“ปัง ! “

ยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎทั้ง 6 ปะทะกันจนเสียงดังสนั่นอย่างรุนแรง ทันใดนั้นผืนดินก็เริ่มสั่นและภูเขาก็สะท้านเนื่องจากการปะทะกันของพลังจำนวนมากที่กระจายเป็นวงคลื่นออกมา และทำให้จอมยุทธทั้งห้ารวมถึงเจี้ยนเฉินไม่อาจที่จะทรงตัวอยู่บนพื้นได้อีก ทำได้เพียงถอยหลังออกห่างเพียงเท่านั้น ในแต่ละก้าวของพวกเขาต่างก็พยายามที่จะรั้งตัวให้อยู่ทำให้เกิดรอยลากเท้าเป็นแนวยาวตามเท้าของพวกเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ