เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 332

ตอนที่ 332: ผู้แข่งขันที่เก่งกาจทั้งสิบ (2)

ในวันที่สี่ของการแข่งขัน จากทั้งหมด 500 คนส่วนใหญ่ถูกกำจัดออกไปอย่างรวดเร็วจนเหลือเพียง 31 คน ศิษย์พี่อันต้องพ่ายแพ้ไปในรอบก่อนหน้านี้ เหลือเพียงเจี้ยนเฉินและหมิงตง ในเวลาเดียวกันตู่กูเฟิง, เทียนมู่หลิงและหวงหลวนก็ยังอยู่ในนั้น

ณ จุดนี้ทุกคนใน 31 อันดับแรกไม่ได้อ่อนแอเลย พวกเขาแข็งแกร่งมากและยังมีประสบการณ์ล้นเหลือ และแต่ละคนก็มีทักษะการต่อสู้ที่สูสีกัน

เซียนธาตุแสงทั้งสามถูกเปิดเผยตัวตนมาสักพักแล้วและพวกเขาก็ถูกเจี้ยนเฉินจับตามองอย่างใกล้ชิด น่าเสียดายที่ฝ่ายตรงข้ามที่ทั้งสามคนต้องต่อสู้ด้วยไม่ได้แข็งแกร่ง ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่ได้แสดงพลังขั้นสุดยอดออกมาทั้งหมดในตอนนี้

นอกเหนือจากพวกเขา มีคู่แข่งเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ดึงดูดสายตาของเจี้ยนเฉิน: นั้นก็คือคนที่ชื่อ “จื่อ” นางอยู่ในอันดับ 4 นางเป็นผู้หญิงที่มีพลังระดับสูงซึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำและใช้กริชเป็นอาวุธ ไม่เพียงแค่นั้น แต่นางยังเป็นเซียนธาตุลมซึ่งหมายความว่าความเร็วของนางคงดุจสายฟ้า

จากรูปลักษณ์ของนาง นางดูเหมือนจะอายุประมาณ 25-26 ปี แต่ไม่มีหลักฐานที่แน่นอนเกี่ยวกับอายุของนาง แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของนางยังไม่สวยงามและโดดเด่นพอที่จะทำให้ชายหนุ่มแย่งชิง แต่ก็ไม่อาจพูดได้ว่านางขี้เหร่ นางมีรูปร่างหน้าตาดีพอใช้และเหนือกว่าที่เทียนมู่หลิงได้บอกไว้ ซึ่งหมายความว่านางเป็นคนที่ไม่ควรมีผู้ชายคนไหนมองข้าม อย่างไรก็ตามการจ้องมองของนางสามารถทำให้หนาวไปถึงกระดูกและอาจทำให้วิญญาณแข็งตัวด้วยสีหน้าที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับว่านางซ่อนความโหดเหี้ยมไว้ในดวงตาคู่นั้น. คู่ต่อสู้ของนางไม่มีใครมีชีวิตรอด ทุกคนเสียชีวิตโดยการโดนแทงเข้าไปที่หัวใจ ความเร็วในการใช้กริชของนางเปรียบได้กับความเร็วในการใช้กระบี่ของเจี้ยนเฉิน

คืนนั้น เจี้ยนเฉินใช้เวลาอยู่กับตัวเองในห้องของเขาเพื่อศึกษาทักษะมายาพริบตา พรุ่งนี้เช้าจะมีการจัดอันดับสิบหกอันดับแรกและจากนั้นก็จะมีสิบอันดับแรก

จอมยุทธ์ภายในทวีปเทียนหยวนนั้นมีมากมายเหมือนก้อนเมฆบนท้องฟ้า ไม่มีการขาดแคลนพลเรือนที่โดดเด่น แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะได้ยินเพียงแค่ชื่อจอมยุทธ์ห้าคนในช่วงเวลาที่เขารวบรวมป้าย แต่พวกเขาไม่ใช่จอมยุทธ์เพียงกลุ่มเดียวในการแข่งขัน ท่ามกลางผู้คนมากมายยังมีคนที่เก็บตัวเงียบ และเมื่อการแข่งขันครั้งสุดท้ายเริ่มขึ้นพวกเขาจึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง เพราะทุกคนที่เคยเจอกับพวกเขาต่างก็ถูกฆ่าตายเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งของพวกเขา

ตอนนี้เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าตัวเองใจแคบ ในวันพรุ่งนี้ การแข่งขันแต่ละนัดจะมีตัวแปรที่ไม่อาจรู้ได้นับตั้งแต่มีงานชุมนุมทหารรับจ้าง เนื่องจากทหารรับจ้างที่อ่อนแอกว่าทั้งหมดถูกกำจัดออกไปหมดแล้ว คนที่เหลืออีก 31 คนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่มชนชั้นสูงและอย่างน้อยพวกเขาจะแข็งแกร่งกว่าตู่กูเฟิง

ในขณะนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น

เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ลืมตาจากการทำสมาธิ เจี้ยนเฉินโบกมือ คลื่นลมกระโชกแรงทำให้สลักเกลียวโลหะอยู่ที่ประตูหลุดออกมา ” เข้ามาสิ ! “

เมื่อประตูเปิดออก,ผู้อาวุโสสี่คนที่สวมชุดหรูหราราคาแพงก็เดินเข้ามา. ในหมู่พวกเขามีชายเสื้อคลุมสีขาว 2 คนที่มีผมสีดำและมีท่าทางอ่อนโยน ชายคนที่สามสวมเสื้อคลุมสีดำ ผมของเขายาวลงมาถึงไหล่และตาข้างซ้ายของเขามีรอยแผลเป็น มีเพียงตาข้างขวาเท่านั้นที่ยังเปิดอยู่ ทำให้เขาดูท่าทางดุร้าย มันค่อนข้างชัดแจนว่าเขาได้รับบาดเจ็บมานานแล้ว ผู้อาวุโสคนสุดท้ายสวมชุดสีแดงเรียบง่ายที่ครอบคลุมร่างกำยำ ผิวของเขาค่อนข้างคล้ำ

เจี้ยนเฉินพิจารณาผู้อาวุโสทั้งสี่ด้วยท่าทางที่ค่อนข้างเคร่งเครียด ชายทั้งสี่คนไม่คิดจะปกปิดอะไร ตัดสินจากสิ่งนั้น เจี้ยนเฉินยิ่งรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าทั้งสี่คนนั้นเป็นเซียนสวรรค์

ในขณะที่เจี้ยนเฉินกำลังจ้องมองพวกเขา ทั้งสี่คนก็มองดูเขาเช่นกัน เนื่องจากผู้นำของตระกูลเทียนฉินบอกวิธีซ่อนพลังให้กับเขา แม้ว่าชายทั้งสี่จะเป็นเซียนสวรรค์ พวกเขาก็ไม่สามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินได้

“ผู้อาวุโสทั้งสี่ พวกท่านมีธุระอะไรหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถาม เขาพูดกับทั้งสี่ด้วยน้ำเสียงปกติ

“น้องชาย เจ้าคือเจี้ยนเฉินหรือ ? ” ผู้อาวุโสผู้หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ

” ใช่แล้วขอรับ ” เจี้ยนเฉินตอบ

“น้องเจี้ยนเฉิน เราได้ยินมาว่านายน้อยสามแห่งตระกูลชิ ชิเซียงกรานถูกเจ้าฆ่าตาย มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ? ” ผู้อาวุโสคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงสงบ

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินกระตุก เขาพูดว่า “พวกท่านเป็นใครกัน ? “

ผู้อาวุโสลูบเคราพลางหัวเราะและกล่าวว่า “คนอื่น ๆ เรียกเราสี่คนว่าสี่พี่น้องแห่งตระกูลไค ปัจจุบันเรารับใช้เป็นผู้ดูแลกฎของตระกูลชิ ” จากนั้นผู้อาวุโสหยุดพูดครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้งว่า “น้องเจี้ยนเฉิน เราได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว แต่เราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับเจ้า เราเพียงแต่หวังว่าน้องเจี้ยนเฉินจะคืนผนึกสมบัติภูเขาให้เรา สิ่งนั้นไม่สามารถตกอยู่ในมือของคนนอกได้ ถ้ามันอยู่กับเจ้า มันจะทำให้เจ้าเดือดร้อน”

“พี่ใหญ่พูดถูกต้อง” คนที่มีตาข้างเดียวพูดอย่างไม่บ่งบอกอารมณ์ “ผนึกสมบัติภูเขาเป็นมรดกตกทอดของตระกูลชิที่เกิดขึ้นหลังจากใช้วิธีพิเศษ เฉพาะคนในตระกูลชิเท่านั้นที่จะสามารถใช้พลังของมันได้ สำหรับเจ้าแล้ว ผลึกสมบัติภูเขาจะเป็นเพียงเหล็กไร้ประโยชน์ที่เจ้าไม่สามารถใช้งานได้”

ไม่มีผู้อาวุโสคนใดที่พยายามขู่เจี้ยนเฉิน พวกเขาลองใช้วิธีที่ง่ายกว่าแทนโดยหวังว่าเจี้ยนเฉินจะส่งคืนผนึกสมบัติภูเขา

เจี้ยนเฉินยกมือขึ้นในลักษณะที่เป็นการขอโทษ “ข้าต้องขอโทษด้วย,ข้าคงคืนผนึกสมบัติภูเขาให้ไม่ได้”

“น้องชาย เจ้าต้องเข้าใจ ถ้าเจ้าไม่คืนผนึกสมบัติภูเขา ตระกูลชิจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป มันจะนำพาหายนะมาสู่เจ้าก็เท่านั้น” ผู้อาวุโสพูดด้วยความจริงใจและความเมตตา

เจี้ยนเฉินส่ายหน้าโดยไม่ใช้ความคิด “นี่ไม่ควรเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสควรกังวล” เจี้ยนเฉินรู้ดีว่าถึงเขาจะส่งมอบมัน ตระกูลชิก็จะไม่ยอมปล่อยเขาไปอยู่ดี

“ถ้าน้องชายตัดสินใจเดินบนเส้นทางนี้ เราก็ไม่มีทางเลือก เราขอตัวกลับก่อน” ผู้อาวุโสไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

หลังจากออกมา ชายที่มีตาข้างเดียวก็ถอนหายใจ “พี่ใหญ่ เราควรทำอย่างไรต่อไป ชายหนุ่มที่ชื่อเจี้ยนเฉินปฏิเสธที่จะมอบผนึกสมบัติภูเขาให้เรา”

“ความรับผิดชอบของเรานั้นอยู่ที่การปกป้องนายน้อย ไม่ใช่การทวงคืนผนึกสมบัติภูเขา สำหรับตอนนี้ เราควรรายงานเรื่องนี้กับตระกูลชิและให้ผู้นำจัดการเอาเอง” ผู้อาวุโสที่เป็นพี่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง

“คราวนี้แผนของตระกูลชิล้มเหลว นายน้อยสามก็ต้องมาตาย อีกทั้งยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฏยังถูกแย่งชิงไป นี่เป็นตัวอย่างของการมอบเจ้าสาวและจากนั้นก็สูญเสียกองทัพ ตระกูลชิจะต้องสั่นคลอนลงไปถึงแกนกลางแน่นอน” ผู้อาวุโสชุดคลุมสีแดงหัวเราะ พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลชิ

“ลืมไปเถอะ เราไม่มีธุระเกี่ยวกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ตระกูลชิจัดการกับเรื่องน่าปวดหัวเอาเอง เราไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าตัวแทนสำหรับตระกูลชิ gราไม่ใช่แพะรับบาปสำหรับปัญหาของพวกเขา ขอให้พวกเราทุกคนจำไว้ว่าอย่าคิดว่าคนที่ทำให้ตระกูลชิโกรธแค้นเป็นคนที่เราต้องขุ่นเคือง คราวนี้ งานชุมนุมกลุ่มทหารรับจ้างได้รวบรวมนักสู้ที่แข็งแกร่งไว้จำนวนมาก แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่อำนาจที่สนับสนุนพวกเขานั้นไม่ได้เป็นเช่นนั้น นอกจากนี้อิทธิพลบางอย่างยังเป็นของคนที่แม้กระทั่งตระกูลชิเองยังไม่สามารถล่วงเกินได้ โดยเฉพาะคนที่ชื่อฉินจี๋ ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นองค์ชายคนเดียวของอาณาจักรฉินฮวง มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป บุคคลประเภทนี้เป็นคนที่เราไม่ควรไปทำให้เขาโกรธเคือง”

……..

ในวันที่สอง เจี้ยนเฉินได้เข้าสู่พื้นที่การแข่งขันเร็วกว่าเดิมเพื่อจับสลากก่อนเข้าสู่ประตูมิติและเริ่มการแข่งขัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ