เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 427

ตอนที่ 427: ล้างแค้นนิกายหยางจิ

เมื่อได้ยินคำประกาศของเจี้ยนเฉินว่าเขาจะฆ่าทุกคนในนิกายหยางจิ ทุกคนในนิกายก็โกรธจัด

แม้ทุกคนจะกลัวพลังอันน่าหวาดหวั่นของเจี้ยนเฉิน แต่อาจารย์สามก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาว่า “นิกายหยางจิมีรากฐานที่ลึกล้ำในอาณาจักรฉินกานแม้แต่กับราชวงศ์ ก่อนที่จะพูด เจ้าควรคิดถึงสิ่งที่ออกมาจากปากของเจ้า ! “

“วันนี้พวกเจ้าทุกคนจะถูกสังหาร” เจี้ยนเฉินพูดขณะที่เจตนาในการฆ่าระเบิดออกมามากขึ้น ต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดเริ่มสั่นคลอนและระเบิด มันเปลี่ยนเป็นเศษไม้ที่เปล่งประกายด้วยแสงสีฟ้าและแสงสีม่วง มันลอยขึ้นไปในท้องฟ้าและหมุนเป็นพายุพัดเข้าหานิกายหยางจิ

ในตอนนี้ผู้ชายของนิกายหยางจิทั้งหมดที่มารวมกันที่นี่ มีเพียงอาจารย์สามคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเซียนปฐพี คนที่เหลือเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษและต่ำกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะป้องกันตนเองจากเซียนสวรรค์ได้ โดยไม่มีการต่อต้านแต่ละคนเต็มไปด้วยรูทันที

แม้แต่เซียนปฐพีก็ไม่อาจป้องกันตัวเองได้ เศษไม้เจาะผ่านพลังเซียนป้องกันของเขาและพุ่งทะลุไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายของเขา

ภายในพริบตา ชายของนิกายหยางจิมากกว่าสิบคนล้มตายเกลื่อนกลาดราวกับใบไม้ เลือดของพวกเขาเปื้อนพื้นดินเบื้องล่างและแพร่กระจายไปในอากาศ มันเต็มไปด้วยกลิ่นอายมรณะไปทุกหนทุกแห่ง

“ลูกของข้า ลูกที่น่าสงสารของข้า ตื่นสิ ! อย่าทำให้แม่กลัวเช่นนี้ ถ้าเจ้าตาย แม่ก็ไม่ต้องการที่จะมีชีวิตเช่นกัน ! ” ผู้หญิงยังคงร้องไห้ต่อไปโดยไม่สังเกตว่ามีการนองเลือดเกิดขึ้นรอบตัวนาง

ความตั้งใจฆ่าของเจี้ยนเฉินค่อย ๆ จางหายไปจากดวงตาของเขาในขณะที่เขาเดินไปหาเจ้าของโรงเตี๊ยม ” ท่านป้าไม่ต้องห่วง เขายังมีชีวิตอยู่ gขาเป็นลมเพราะพิษบาดแผล” เจี้ยนเฉินพูดโดยที่ตัวเองรู้สึกผิด เขาได้ตรวจสอบบาดแผลก่อนหน้านี้ มันไม่ใช่บาดแผลที่จะคร่าชีวิต แต่อาวุธเซียนของเขาก็ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง สำหรับทุกคนในทวีป นั่นหมายความว่าชายหนุ่มจะไม่สามารถบ่มเพาะได้และจะต้องเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพลังตลอดไป

เมื่อได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน ดวงตาของเจ้าของโรงเตี๊ยมก็เปล่งประกายขณะที่นางพูดด้วยความหวังว่า “นั่นเป็นเรื่องจริงเหรอ ? นายท่าน ลูกของข้ายังไม่ตายหรือ ? “

เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ท่านป้า เราพาซานกลับบ้านกันเถอะ ซานเป็นบุตรของเคนดัล ไม่ว่าเราจะต้องลงมือแก้แค้นหรือทำอะไร ข้าจะต้องทวงความยุติธรรมจากนิกายหยางจิให้ได้ “

เจ้าของโรงเตี๊ยมประทับใจกับคำพูดของเขาและพร่ำขอบคุณเขาซ้ำ ๆ “นายท่าน ข้าขอบคุณท่านมากจริง ๆ ท่านเป็นผู้มีพระคุณของเรา ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะทำงานอย่างหนักเหมือนวัวเหมือนควายเพื่อตอบแทนท่าน..”

เจี้ยนเฉินรีบหยุดนางทันทีและพูดว่า “ท่านป้า อย่าพูดเช่นนี้ ลุงเคนดัลใจดีกับข้าตลอดในอดีต ข้าเลยอยากช่วยท่าน เราพาซานกลับกันเถอะ

หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็พาชายหนุ่มที่เปื้อนเลือดและเจ้าของโรงเตี๊ยมกลับไปที่โรงเตี๊ยม ก่อนที่พวกเขาจะจากไป เจ้าของโรงเตี๊ยมสังเกตเห็นว่าลานนั้นเกลื่อนไปด้วยซากศพ มันทำให้นางตกใจกลัว แม้ว่านางจะเคยเห็นคนตายมาก่อน แต่ตรงนี้มีศพจำนวนมากเกินไป นิกายหยางจิมีอิทธิพลในอาณาจักรฉินกาน ดังนั้นเจ้าของโรงเตี๊ยมจึงรู้สึกกังวลใจ

เมื่อเจี้ยนเฉินออกจากโรงเตี๊ยมอันหรูหรา ร่างเปื้อนเลือดของชายหนุ่มก็ดึงดูดความสนใจจากทุกคน หลังจากที่พวกเขาจากไป เสี่ยวเอ้อก็วิ่งไปที่ลานของนิกายหยางจิทันที เมื่อเห็นศพที่เกลื่อนลานตรงหน้า ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดทันที เขาวิ่งออกไปเพื่อแจ้งให้เจ้าของโรงเตี๊ยมทราบข่าว

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มชุมคลุมขาวคนหนึ่งที่ถือพัดราคาแพงก็วิ่งเข้าไปดูที่ลานพร้อมกับผู้คุ้มกันหลายคน ชายหนุ่มคนนี้เป็นนายน้อยและลูกชายคนรองของผู้นำนิกายหยางจิ ซึ่งหมายความว่าเขาเป็นที่รู้จักกันทั่วไปและสามารถยืนอยู่ในระดับเดียวกับองค์ชายแห่งอาณาจักรได้ ตอนแรกเขาออกไปเดินเล่นพร้อมกับผู้คุ้มกันหลายคนและได้รอดพ้นจากการสังหารหมู่โดยบังเอิญ

เมื่อลูกชายคนรองของนิกายหยางจิเห็นรอยเปื้อนเลือด ใบหน้าของเขาก็ซีดเซียวทันที หลังจากที่เสี่ยวเอ้อเล่าให้เขาฟังว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อกลับไปยังนิกายหยางจิโดยไม่รอช้า แม้แต่ร่างของอาจารย์สามก็ถูกทิ้งไว้ที่ลานแห่งนั้น

การสังหารหมู่คนของนิกายหยางจิมากกว่าหนึ่งโหลเป็นข่าวอันน่าทึ่งที่ไม่มีใครสามารถปิดปากได้ ในช่วงพริบตาข่าวได้เดินทางไปทั่วทั้งเมืองแม้แต่กับกลุ่มทหารรับจ้างที่อาศัยอยู่ที่นั่น ขณะที่พวกเขาเดินทาง พวกเขาก็กระจายข่าวมากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เจี้ยนเฉินไม่ทราบข่าวของโลกภายนอก สิ่งเดียวที่เขาใส่ใจในตอนนี้คือการฟื้นตัวของชายหนุ่ม

เจี้ยนเฉินวางชายหนุ่มบนเตียง หลังจากนั้นเขารีบหยิบยาจิตวิญญาณธาตุแสงออกมาให้เขากินทันที เมื่อชายหนุ่มกลืนยาลงไป แผลของเขาก็เริ่มรักษาตัวเองอย่างว่องไว บาดแผลของเขาสาหัสมากแต่คุณภาพของยาก็สูงมากเช่นกัน ดังนั้นบาดแผลจึงเริ่มสมานตัวต่อหน้าต่อตาพวกเขา

หลังจากนั้นไม่นานซานก็ฟื้นสติขึ้นมา แต่เขาก็ยังอ่อนแอมาก แม้ว่ายาจิตวิญญาณธาตุแสงจะรักษาบาดแผลของเขา แต่อาวุธเซียนของเขาก็พังทลายไปแล้ว นั่นหมายความว่าหากไม่มีพลังเซียนการฟื้นกำลังของเขาจะเป็นเรื่องยากมากในระยะเวลาสั้น ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ