เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 46

Chaotic Sword God ตอนที่ 46 ผลประโยชน์มหาศาล

ฮ่า ๆ สิ่งที่น้องสี่กล่าวมานั้นถูกต้อง นี่คือสิ่งที่เราทุกคนทำงานอย่างหนัก ดังนั้นปล่อยให้เป็นไปตามที่น้องสี่คิด ครึ่งหนึ่งของมันให้กับน้องสี่และเพื่อนอีกคนของเขา ที่นี้อีกครึ่งหนึ่งจะถูกแบ่งเท่า ๆ กันในหมู่พวกเราทั้งสี่คน เจียงหยางหู่หัวเราะ เขาและเจี้ยนเฉินเป็นพี่น้องต่างมารดา แต่นั่นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เขาจะไม่ตระหนี่กับมัน

ด้วยการตัดสินใจของเจียงหยางหู่ สำหรับลูกศิษย์คนอื่น ๆ ทั้งสามคนไม่สามารถปฏิเสธใด ๆ เพิ่มเติมได้อีกและรับแกนอสูรด้วยความตื่นเต้น หลังจากแบ่งมันเป็นกอง ๆ พวกเขาตื่นเต้นไม่น้อยเลย ด้วยจำนวนนี้ มันเป็นมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับกันในช่วงสองวันสุดท้ายเสียอีก

หลังจากเหตุการณ์นี้ ไม่มีใครมีแผนการที่จะอยู่ที่อีกต่อไปและหลังจากการย้ายที่พักของพวกเขา พวกเขาเริ่มที่จะจุดไฟกองใหม่และย่างเนื้อ

คนหกคนนั่งอยู่เป็นวงกลมล้อมรอบกองไฟ ขณะที่เจียงหยางหู่หัวเราะ น้องสี่ ให้ข้าแนะนำให้เจ้าได้รู้จักกับทุกคน ทั้งสามคนนี้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของข้า ออซ อาโอบะ และดาเรี่ยน เขาชี้ไปที่สามชายทั้งสามคน “น้องสี่ ออซและอาโอบะเป็นฝาแฝดกัน ข้ากล้ารับประกันว่า เมื่อพวกเขาล้างคราบสกปรกบนใบหน้าของพวกเขาออก เจ้าจะไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าใครเป็นใคร !

เจี้ยนเฉินยิ้มและทักทายทั้งสามคน หลังจากที่พูดคุยในขณะที่พวกเขาได้เริ่มต้นที่จะได้คุ้นเคยกัน แม้กระทั่งเถี่ยต้าก็ยังเป็นที่รู้จักกัน

ทันใดนั้น ใบหน้าของเจียงหยางหู่ยังคงสงสัยและเอ่ยถาม น้องสี่ ข้าจำได้ว่าก่อนที่จะเดินเข้าไปในป่า พลังของเจ้ายังไม่ถึงระดับเซียนเลย ดังนั้นทำไมเจ้าถึงได้มาอยู่ในเขตแดนชั้น 3 ? และตอนนี้เจ้ายังโค่นล้มได้แม้กระทั่งหลิวเจี้ยนที่เป็นเซียนธาตุลมขั้นกลาง มันอาจจะเป็นไปได้ว่า ในช่วงสามวันที่เจ้าอยู่ในป่า หรือเจ้าได้สามารถตัดผ่านระดับได้แล้ว?

เพื่อนของเจียงหยางหู่อีกสามคนก็ได้ให้ความสนใจของคำถามนี้ ทั้งดาเรี่ยนและสองแฝดหันมาสนใจหลังจากที่ได้ยินคำถามของเจียงหยางหู่ และเบนความสนใจของพวกเขามายังเจี้ยนเฉิน เจียนเฉียนสามารถโจมตีหลิวเจี้ยนได้ นั่นเป็นผลกระทบอย่างใหญ่หลวงนัก แม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินมานานตั้งแต่ข่าวลือที่ลือกันอยู่ตลอดทั้งสำนักที่ว่าเขาแข็งแกร่งนัก ก็ดูว่าข่าวลือนั้นจะไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด

เจี้ยนเฉินหัวเราะและยกแท่งเหล็กของเขาขึ้นไปให้เจียงหยางหู่ พี่ใหญ่ดู ถ้าข้าเป็นเซียน ข้าจะยังคงใช้อาวุธเช่นนี้หรือ?

เจียงหยางหู่เงยหน้าขึ้นและก้มลงมองแท่งเหล็ก แต่มันดูเหมือนกับว่าเขาจะได้ตระหนักถึงแท่งเหล็กในมือของเจี้ยนเฉินและและมันยังคงเป็นเพียงแท่งเหล็กสนิมเขรอะที่ใกล้จะหักอยู่รอมร่อ

“นั่นคือ … นั่น … ตาของเจียงหยางหู่เบิกกว้างขึ้น เขาตกอยู่ในภาวะที่ตกตะลึง ในขณะที่เขาคิดเป็นรอบที่ล้าน เขาก็ไม่เคยคิดว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถเอาชนะหลิวเจี้ยนโดยใช้เพียงแท่งเหล็กสนิทเขรอะ และถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของตัวเอง ต่อให้เขาตาย เขาก็ไม่มีทางที่จะเชื่อมัน

ในขณะเดียวกัน ดาเรี่ยนและสองฝาแฝดมองที่แท่งเหล็กในมือขงเจียงหยางหู่ ทั้งสามคนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ และจ้องมองเจี้ยนเฉินราวกับว่าเป็นสัตว์ประหลาด

เห็นความไม่เชื่อบนใบหน้าของพวกเขา เจี้ยนเฉินหัวเราะและกล่าวว่า ด้วยการผสานพลังระหว่างข้าและเถี่ยต้า ไม่มีสัตว์อสูรตัวใดที่จะสู้กับพวกเราได้ ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะย้ายมายังเขตแดนชั้น 3

ได้ยินอย่างนี้แล้ว เจียงหยางหู่และคนอื่นอีกสามคนไม่อยากจะเชื่อหูของพวกเขา เขตแดนชั้นสองก็เต็มไปด้วยสัตว์อสูรระดับ 1 จำนวนมาก แม้ว่าพวกมันจะถูกทำให้อ่อนแอลงและมีพลังโจมตีระดับต่ำ แม้กระทั่งเซียนปกติยังพบว่าการอยู่ในป่าเป็นงานที่ยาก และเจี้ยนเฉิน ซึ่งเห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้เป็นเซียนเลย การที่พูดออกมาว่าในเขตแดนชั้น 2 ไม่มีอะไรที่พอจะท้าทาย แม้กระทั่งเจียงหยางหู่และเพื่อนของเขาก็ยังต้องคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ

หลังจากนั้น เจียงหยางหู่และเพื่อนของเขาก็ได้สติกลับคืนมาในที่สุด เจียงหยางหู่ยังคงถามว่า น้องสี่ เจ้าไม่ได้เป็นแม้แต่เซียน เจ้ายังยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ หากวันหนึ่ง เจ้ากลายเป็นเซียน ข้าไม่อาจคาดเดาความแข็งแกร่งของเจ้าได้เลย เจียงหยางหู่ส่ายหน้าด้วยความหวาดกลัว อ่า ใช่ น้องสี่ เมื่อใดที่เจ้าคิดว่าเจ้าจะกลายเป็นเซียน?

เขาพึมพำกับตัวเองมากขึ้น ในตอนนี้ ข้าอยู่ที่จุดสูงสุดของระดับ 10 หลังจากที่ออกจากป่าแห่งนี้ ข้าตั้งใจที่จะกลายเป็นเซียน

เจียงหยางหู่ถอนหายใจของเขาด้วยความประหลาดใจและตกตะลึง ขณะที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉิน น้องสี่ เจ้าน่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว ไม่แม้กระทั่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ เจ้าพึ่งเป็นลูกศิษย์ใหม่สำนักคากัต ที่เป็นเพียงที่ระดับ 8 ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะถึงขั้นสูงสุดของระดับที่ 10 ด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เช่นนี้

ได้ยินอย่างนี้แล้ว ดาเรี่ยนและสองฝาแฝดยิ่งปรากฎท่าทีเหลือเชื่อ และมุมมองของพวกเขาที่มีต่อเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินนั้นสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าไม่อาจดูแคลนได้ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาช่างมากนัก และไปยังขอบเขตที่ไม่อาจจินตนาการได้ มันแน่ชัดว่า เจี้ยนเฉินเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ขณะนี้เพื่อนทั้งสามคนของเจียงหยางหู่ได้ตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่า ในอนาคตพวกเขาจะต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างดีและหลีกเลี่ยงการผิดใจกับอีกฝ่าย

เจี้ยนเฉินหัวเราะออกมาอย่างผ่อนคลาย พี่ใหญ่ ข้าได้สังเกตเห็นว่า ภายในเขตแดนชั้น 3 หลายคนหันไปขโมยแกนอสูรจากคนอื่น ๆ นี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

เจียงหยางหู่ถอนหายใจออกก่อนที่จะพูดว่า ข้าไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ริเริ่ม แต่ก็กล่าวว่าในช่วงวันที่ 2 บางคนเริ่มต้นที่จะขโมยแกนอสูรจากคนที่มีแกนอสูรจำนวนมาก ภายหลังจากที่ข่าวนี้แพร่กระจายไป ทุกคนในเขตชั้น 3 เริ่มที่จะทำตาม สร้างกลุ่มปล้นแกนอสูร อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรระดับ 2 เป็นสัตว์หายากเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์อสูรระดับ 1 และจะยิ่งยากที่จะฆ่า ฆ่าสัตว์เหล่านั้น เจ้าได้เพียงหนึ่ง แต่ขโมยจากคนอื่นจะง่ายกว่าการล่าสัตว์และหากโชคดี ก็ได้รับมากกว่า 1 ..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ