เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 513

ตอนที่ 513 คำเชิญของเซียนผู้คุมกฎ

การมาถึงของเซียนผู้คุมกฎทั้งสองนำมาซึ่งความเชื่อมั่นจำนวนมากของเจี้ยนเฉิน จิตใจของเขาตอนนี้ไม่ได้เกรงกลัวต่อนิกายพยัคฆ์มังกร หลังจากที่พวกเขามาถึง ทั้งกลุ่มก็ปิดกั้นเส้นทางของนิกาย นำทางโดยเหล่าเซียนผู้คุมกฏทั้งสอง

วันต่อมา เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ จากอาณาจักรฉินหวงได้มาถึงนิกายพยัคฆ์มังกรอีก ไม่มีใครเห็นอาคารของนิกายบนภูเขา ด้วยความรู้สึกกดดันใด ๆ เพิ่มเติมในหัวใจของพวกเขา แรงกดดันที่เคยมีอยู่กลับได้หายไป โดยเซียนผู้คุมกฎ เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าเซียนผู้คุมกฎทั้งสองนั้นซึ่งมาจากอาณาจักรฉินหวงนั้นมีอำนาจเหนือจากนิกายพยัคฆ์มังกรเสียอีก

ท่านเซียนผู้ทรงเกียรติจากอาณาจักรฉินหวง ถ้าไม่เป็นปัญหา กรุณาเข้ามาพักในนิกายพยัคฆ์มังกร

เมื่อทุกคนเข้าไปภายในประตูภูเขา เสียงอันสงบนิ่งของชายชราอาจได้ยินจากภายใน นี่คือเสียงของเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกร

บางทีมันอาจเป็นเพราะความเกี่ยวเนื่องของเซียนผู้คุมกฎทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวง แต่ท่าทีของเซียนผู้คุมกฎจากนิกายพยัคฆ์มังกรก็สงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ หลายวันที่ผ่านมา เจี้ยนเฉินและเซียนสวรรค์คนอื่น ๆ ไม่อาจที่จะหาที่มาของเสียงเซียนผู้คุมกฎได้ อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ พวกเขาสามารถที่จะระบุอย่างชัดเจนว่ามันมาจากภายในนิกายในตอนนี้

เสียงของเซียนผู้คุมกฎได้ลอยเข้าไปในหูของหลายคนในนิกายนี้ ในความตกตะลึง พวกเขามองออกจากอาคาร และจ้องอยู่ที่กลุ่มคนที่บินออกไปในระยะไกล

เมื่อผู้นำนิกาย คริส และเซียนสวรรค์คนอื่น ๆ ได้ยินเสียงของเซียนผู้คุมกฎพูด พวกเขาก็ทวีความตึงเครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยามเมื่อพวกเขารู้ว่า ถ้าเซียนผู้คุมกฎมาถึง นั้นหมายถึงความสามารถที่เท่าเทียมกับพวกเขามาถึง และเมื่อพวกเขามาถึงสองคนนั้นทำให้ความกดดันนั้นทบทวีคูณเป็นอย่างมาก

ฉินหยุนหลงเผยให้รอยยิ้มเย็นชา หลังจากที่จ้องเขม็งไปที่นิกายพยัคฆ์มังกร “เจ้าทั้งหมดรออยู่ที่นี่ แฮร์รี่และข้าจะไปพบกับเซียนผู้คุมกฎ”

หลังจากนั้น ฉินหยุนหลงและแฮร์รี่ก็กลับกลายเส้นแสง และบินไปยังนิกายด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อ มันรวดเร็วมหาศาล แม้แต่พื้นที่รอบ ๆ ร่างกายก็สั่นไหวเล็กน้อย

ในช่วงเวลาอันสั้น ร่างทั้งสองของเซียนผู้คุมกฎจากอาณาจักรฉินหวงก็หายลับไปจากสายตาของเจี้ยนเฉิน ด้วยความเร็วที่มหาศาล จนแม้กระทั่งเจี้ยนเฉินก็ยังประหลาดใจ

เจี้ยนเฉินและคนอื่น ๆ จ้องมองไปยังสถานที่ในนิกายด้วยความสงสัย “วิธีการใดที่ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ จะจัดการกับสถานการณ์ในตอนนี้” เซียวเทียนถาม

นั่นไม่จำเป็นที่จะพูด นิกายพยัคฆ์มังกรอาจเป็นนิกายสำคัญในทวีปเทียนหยวน แต่พวกเขามีเซียนผู้คุมกฏเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถต่อกรกับอาณาจักรฉินหวงของเราได้ เกียรติของอาณาจักรของเราไม่สามารถละเมิดได้ ดังนั้น ข้าสามารถดูว่า ถ้านิกายพยัคฆ์มังกรปรารถนาที่จะอยู่อย่างสงบ พวกเขาไม่มีทางเลือกใด นอกจากต้องชดใช้อย่างหนัก”

ถูกต้อง ตอนนี้ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสองได้มาถึง เซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรไม่กล้าที่จะทำท่าแบบเดียวกัน นิกายพยัคฆ์มังกรจะต้องพินาศวอดวายลงไปพื้นวันนี้

ข้าหวังว่า การทำลายนิกายพยัคฆ์มังกรนั้นจะไม่สงผลกระทบใหญ่นัก แต่สิ่งสำคัญแท้จริงคือ ว่า เรานั้นโชคดีที่ได้เฝ้ามองการต่อสู้ระหว่างเซียนผู้คุมกฎ ข้าเองอยู่มาหลายปี แต่ข้าไม่เคยเห็นการต่อสู้ระหว่างเซียนผู้คุมกฏมาก่อน ฉินหวู่เจี้ยนยิ้มด้วยท่าทีปิติยิ่ง

ฉินหวู่เทียนได้ยินเรื่องนี้ ผงกศีรษะลงอย่างเห็นด้วย ใช่ ข้าต้องการดูว่า เซียนผู้คุมกฎนั้นแข็งแกร่งเช่นไร เราจะสามารถเห็นความแข็งแกร่งของเซียนผู้คุมกฎ ในสายตาของสองพี่น้องนั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะเห็นเซียนผู้คุมกฎทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวงต่อสู้กับเซียนผุ้คุมกฎจากนิกายพยัคฆ์มังกร

ได้ยินการพูดคุยของทั้งสอง ฉินหวู่หมิงหน้ามืดลงเล็กน้อย เขาคำรามออก “เจ้าเหิมเกริมมากเกินไปแล้ว เจ้าสามารถคุยเรื่องผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสองเช่นนั้นได้อย่างไร”

ฉินหวู่หมิงกล่าวด้วยท่าที่ชัดเจน ทำให้ฉินหวู่เจี้ยนและฉินหวู่เทียนทันทีเงียบ แม้กระทั่งเซียนสวรรค์ทั้งหมดของพวกเขา ทั้งสองพี่น้องไม่กล้าที่จะขัดขืนต่อคำของบิดาของเขา

หลังจากนั้น ไม่มีใครใส่ใจที่จะพูดคุยอีกต่อไป ดูพื้นที่ว่างเหนือนิกายของมังกรพยัคฆ์ในความเงียบ หลายคนได้คาดการณ์ไว้แล้วเป็นอย่างดี

ในช่วงเวลานี้เงียบสงบนี้ เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ ไส้เทียนหมดไปเรื่อย ๆ เป็นการบอกถึงเวลาที่ผ่านไป แต่ไม่มีระเบิดหรือเสียงของการต่อสู้ให้ได้เห็นหรือได้ยินจากภายในนิกาย ไม่ได้มีการต่อสู้แม้แต่น้อยราวกับว่าเป็นโลกที่เงียบสงบ

เมื่อเห็นช่วงเวลาของความสงบในนิกายเช่นนี้ คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากัน นี่คือสิ่งที่เขารู้สึกแตกต่างสิ่งที่เขาคิด

เวลา 1 ชั่วยามได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เซียนผู้คุมกฎทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวงสุดท้ายกลับออกมา

เมื่อเห็นภาพนี้ แววตาของเจี้ยนเฉินมีประกายผิดหวังแว่บหนึ่ง ก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็วจากใบหน้า เซียนผู้คุมกฎทั้งสองจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ค่อนข้างแตกต่างจากเจี้ยนเฉินคาดหวังไว้ ในใจของเขา เขาจะไม่ปล่อยวางเรื่องเช่นนี้อย่างง่ายดาย หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกร ถ้าไม่เพราะความจริงที่ว่าเซียนผู้คุมกฎนั้นเกรงใจเรื่องตำแหน่งผู้พิทักษ์จักรพรรดิแล้ว เจี้ยนเฉินอาจไม่สามารถจากไปได้ในวันนั้น

นั่นเป็นเพราะเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรโลภมาก อยากได้ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้าที่เจี้ยนเฉินมี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ