เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 514

ตอนที่ 514 การเจรจาต่อรอง

ยามเมื่อเห็นผู้อาวุโส ดวงตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายขึ้นด้วยแสงจ้า ที่ซึ่งมันยากที่จะสังเกตเห็น ไม่มีใครที่จะสังเกตเห็นมัน แม้จะเป็นเซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกร

เจี้ยนเฉินหยัดยืนท่ามกลางความเงียบงันและสังเกตไปยังเซียนผู้คุมกฎ โดยปราศจากถ้อยคำทักทายหรือการขยับกายเคลื่อนไหว มันไม่ได้นับว่าเป็นการดีนักสำหรับเซียนผู้คุมกฎ ในเมื่อความทรงจำเกี่ยวกับการถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นมันยังคงสดใหม่ในความทรงจำของเจี้ยนเฉิน

ผู้อาวุโสไม่ได้ให้ความสนใจต่อการเงียบงันหรือการนิ่งไม่ไหวติงของเจี้ยนเฉิน เขาเพียงเริ่มจ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่ลึกลงไปอย่างผิดธรรมชาติ พวกเขาสามารถมองผ่านความลับของเจี้ยนเฉิน โดยปราศจากความผิดพลาดใด ๆ ด้วยรอยยิ้ม เขากล่าวขึ้น “มันไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมเจ้าถึงได้เป็นผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวง แม้ว่าเจ้าจะเป็นเซียนสวรรค์ก็ตาม ด้วยพรสวรรค์ที่เหนือผู้อื่น มันยังคงหาได้ยากนักสำหรับเด็กหนุ่มเช่นเจ้าที่จะก้าวไปยังขอบเขตเซียนสวรรค์”

เซียนผู้คุมกฎหยุดคำกล่าวของเขาชั่วขณะ เมื่อเขาไม่ได้เห็นการตอบรับของเจี้ยนเฉิน แต่ยังคงกล่าวต่อ “มันเป็นห้วงเวลาแห่งความเป็นความตายที่จะตัดผ่านจากเซียนปฐพีไปยังเซียนสวรรค์ มันเป็นความอดทนต่ออันตรายเพื่อบ่มเพาะพลังเพื่อที่จะก้าวผ่าน สำหรับเซียนปฐพีที่จะตัดผ่านระดับไปยังเซียนสวรรค์ พวกเขาจำเป็นต้องควบคุมพลังงานของโลกได้เป็นอย่างดี นี่นับเป็นย่างก้าวที่เซียนปฐพีที่มีพรสวรรค์นับไม่ถ้วนไม่อาจที่จะกระทำให้สำเร็จได้ แท้จริงแล้ว พวกเขานับว่ามันเป็นจุดจบ มันมีเพียงผู้คนน้อยนักที่จะก้าวผ่านจากปราการขัดขวางเช่นนี้เพื่อก้าวไปยังขอบเขตเซียนสวรรค์”

“มันเป็นการยากยิ่งกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปราการขวางกั้นเพื่อที่จะตัดผ่านไปยังระดับเซียนผู้คุมกฎ สำหรับการกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎนั้น เขาจะต้องเข้าใจอย่างสมบูรณ์เกี่ยวกับพลังงานลึกลับของโลก พลังงานลึกลับของโลก ที่มันลึกลับซับซ้อนยิ่งกว่าพลังงานโลก พรสวรรค์ในการบ่มเพาะไม่นับว่าขาด ในทวีปเทียนหยวน พรสวรรค์ในการบ่มเพาะพลัง ทว่าพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมกว่านั้นมีไม่มากนัก แต่มันยังคงไม่เพียงพอที่จะก้าวไปยังเซียนสวรรค์ ภายใต้อายุเพียง 50 ปี ผู้หนึ่งสามารถก้าวไปยังระดับเซียนผู้คุมกฏสามารถมีเพียงหยิบมือ อย่างไรก็ตาม มันก็มีคนจำนวนมากก้าวไปเพียงแค่ครึ่งทางและไม่อาจเข้าใจพลังงานลึกลับของโลกและยังคงเป็นเซียนสวรรค์”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเจี้ยนเฉินขมวดเข้าหากัน และกล่าวขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง “ผู้อาวุโส ท่านพอจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นให้กับข้าได้หรือไม่ ? “

เซียนผู้คุมกฎเผยให้เห็นรอยยิ้มบาง ๆ “อย่าได้รีบร้อนไปนัก ฟังที่ข้ากล่าวก่อน เจี้ยนเฉิน ข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นอันดับหนึ่งของงานชุมนุมทหารรับจ้างในงานเมื่อเร็ว ๆ นี้ และเจ้าอาจจะเข้าไปภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อบ่มเพาะพลัง แม้กระทั่งในอดีตกาล ผู้คนที่จะสามารถเข้าไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นจะต้องเป็นเซียนผู้คุมกฎ มันก็เป็นแค่เพียงความเป็นไปได้ คิดว่ามันนานแค่ไหนกันที่เมืองทหารรับจ้างได้คงอยู่ในทวีป และมันมีหลายคราที่ผู้คนเข้าไปภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในทุก ๆ 50 ปี ผู้คนจำนวนมากต่างใช้เวลากันภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างยาวนาน แต่ในที่สุดแล้ว มีสักกี่คนกันที่จะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ”

เซียนผู้คุมกฎมองไปที่เจี้ยนเฉินและยังคงกล่าวต่อ “เจี้ยนเฉิน ข้ามีม้วนคัมภีร์ ที่ซึ่งข้าได้ค้นพบเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนในถ้ำอันอยู่ในความครอบครองของเซียนผู้คุมกฎ ม้วนคัมภีร์นี้บันทึกเกี่ยวกับการตระหนักรู้ เกี่ยวกับเซียนสวรรค์ที่จะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ และข้าใช้เวลาอย่างหนักเมื่อหลายปีก่อนที่จะได้ศึกษาและตัดผ่านไปยังระดับเซียนผู้คุมกฎ แม้ว่าม้วนคัมภีร์นี้จะไม่มีประโยชน์สำหรับเซียนผู้คุมกฎ แต่ทว่ามันก็ยังเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับเซียนสวรรค์ เพราะม้วนคัมภีร์เล่มนี้แท้จริงคือทางลัดไปยังเส้นทางของเซียนผู้คุมกฎ”

ได้ยินเช่นนั้น เจี้ยนเฉินที่ซึ่งมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปยังระดับเซียนผู้คุมกฎ ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ท่านผู้อาวุโส ท่านกล่าวเช่นนั้น หมายความว่าท่านปรารถนาที่จะให้ม้วนคัมภีร์นี้แก่ข้า เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนบางสิ่งจากข้า นั่นถูกต้องหรือไม่ ? “

“นั่นถูกต้องแล้ว” เซียนผู้คุมกฎยอมแพ้กับการที่จะหว่านล้อมต่อไป และยังคงกล่าวต่อด้วยสิ่งที่เขาต้องการอย่างตรงไปตรงมา “เจี้ยนเฉิน ชายชราผู้นี้ยกม้วนคัมภีร์นี้เพื่อแลกเปลี่ยนบางอย่าง แต่เงื่อนไขเพียงหนึ่งเดียว คือชายชราผู้นี้ปรารถนาจะทราบความลับเกี่ยวกับพลังอำนาจลึกลับ ซึ่งมันเป็นความลับและมันมีวิธีการบ่มเพาะพลังเช่นไร”

เจี้ยนเฉินไม่ได้ลังเลที่จะสั่นศีรษะของเขาด้วยรอยยิ้มเย็น “ข้าต้องขออภัยผู้อาวุโส ได้โปรดยกโทษกับข้าที่ไม่อาจที่จะตอบคำถามนั้นได้”

เซียนผู้คุมกฎไม่ได้ขุ่นเคืองแต่อย่างใด มันดูราวกับว่าเขาได้คาดการณ์ล่วงหน้าแล้วเกี่ยวกับสิ่งนี้และกล่าวอย่างใจเย็นว่า “เจี้ยนเฉินลองตรองดูสักนิดเถิด แม้ว่าเจ้าอาจจะแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เจ้าก็อยู่ภายใต้เซียนผู้คุมกฎ ด้วยพลังอำนาจนั้น และเจ้ายังคงอ่อนแอมาก ประหนึ่งมดภายใต้เท้าของเซียนผู้คุมกฎ เพื่อที่จะแลกเปลี่ยนพลังอำนาจลึกลับ ที่ซึ่งพลังนั้นแลกมาซึ่งทางลัดที่จะกลายเป็นเซียนผู้คุมกฎ นั่นไม่ได้เป็นผลร้ายกับเจ้าเลยแม้แต่น้อย”

“นั่นไม่จำเป็นต้องพิจารณา ผู้อาวุโส หากว่าไม่มีเรื่องอันใดมากกว่านี้แล้ว เช่นนั้น ข้าผู้นี้คงต้องขอตัวอำลาท่าน” เจี้ยนเฉินป้องมือขึ้นและเตรียมการจะจากไป

“เจี้ยนเฉิน หากว่าเจ้ายังคงไม่ยินยอม จากนั้นแล้วข้อเสนอที่ข้าเสนอเจ้าไปคงต้องกลายเป็นโมฆะไป” เซียนผู้คุมกฎแน่วแน่และปรารถนาอย่างแท้จริงเพื่อที่จะเรียนรู้พลังอำนาจลึกลับบางอย่างที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินลังเลใจเพียงชั่วขณะ แต่สำหรับเซียนผู้คุมกฎ เพื่อที่จะเรียนรู้พลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณสีม่วง-ฟ้า ที่ซึ่งมันย่อมเป็นเป็นสิ่งดี แม้ว่าเขาจะกังวล เจี้ยนเฉินกลับไม่ได้แสดงท่าทีใด ๆ “ข้าเสียใจกับความผิดหวังของท่านผู้อาวุโส แต่นั่นมันไม่ได้ล้ำค่าเช่นสมบัติที่ท่านเสนอให้กับข้า ข้าไม่ได้มีความลับใด ๆ ท่านผู้อาวุโส โปรดละทิ้งความตั้งใจ” ด้วยกล่าวจบเช่นนั้น เจี้ยนเฉินหมุนกลับและเดินจากไป แม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฎ แต่เขาก็ไม่ได้หวั่นกลัวแต่อย่างใด

หลังจากเจี้ยนเฉินจากไป ท่าทีอบอุ่นของเซียนผู้คุมกฎก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว เริ่มที่จะจับจ้องไปยังร่างของเจี้ยนเฉินที่หายลับไป ดวงตาของเขาเผยให้เห็นแสงเย็นชา “หากว่าเจ้าปฏิเสธสุราอวยพรกลับชมชอบสุราจับกรอก” ด้วยเช่นนั้น ภายในพื้นถ้ำ มันก็ดูราวกับว่าจะเย็นขึ้นและมันดูราวกับว่า ช่วงเวลาได้หยุดนิ่งภายในนั้น

หลังจากออกจากนิกาย เจี้ยนเฉินรู้สึกหนักใจอย่างมาก ยามนี้ เซียนผู้คุมกฎของนิกายพยัคฆ์มังกรรับรู้เกี่ยวกับพลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้า ที่ซึ่งมันมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อเจี้ยนเฉิน แม้ว่าเขาจะมีอาณาจักรฉินหวงหนุนหลังอยู่ แต่ทว่านิกายพยัคฆ์มังกรกลับไม่ได้เกรงกลัวต่อพวกเขาเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย

เจี้ยนเฉินเข้ามารวมกลุ่มกับเสียวเทียนและคนอื่น ๆ ขณะที่พวกเขาต่างมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทีเคร่งเครียด คนหนึ่งในนั้นถามขึ้นด้วยท่าทีกังวล “ท่านผู้พิทักษ์จักรพรรดิ เซียนผู้คุมกฎผู้นั้นได้ทำอะไรท่านหรือไม่ ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ