ตอนที่ 527 ท้องฟ้าอันขุ่นมัว
เจี้ยนเฉินและหมิงตงทั้งคู่ได้ออกจากตระกูลหวง แต่หมิงตงเองนั้นยังไม่ได้เป็นเซียนสวรรค์และยังไม่สามารถบินได้ นั่นจึงทำให้เจี้ยนเฉินต้องแบกเขาไป
เมื่อเห็นขาของตัวเองค่อย ๆ ลอยขึ้นในอากาศ หมิงตงก็ได้แสดงสีหน้าชื่นชมออกมา เขาพูดขึ้น “เจี้ยนเฉิน การได้เป็นเซียนสวรรค์นี้มันช่างยอดเยี่ยมเสียจริง ๆ ไม่เพียงแค่จะลอยในอากาศได้ เจ้าสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วอีกด้วย ข้าหวังว่าข้าจะได้เป็นเซียนสวรรค์ในไม่ช้า”
เจี้ยนเฉินยักไหล่และตอบกลับไป “เจ้าจะรีบเข้าถึงระดับนั้นเพื่ออะไร ? การได้เข้าถึงระดับเซียนปฐพีขั้น 6 ตอนอายุเท่านี้ก็ไม่ใช่บางอย่างที่คนทั่วไปสามารถทำได้ ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้ ข้าไม่รู้เลยว่าจะมีกี่คนกันที่อิจฉาในความแข็งแกร่งของเจ้า ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่เจ้าจะได้เป็นเซียนสวรรค์ ข้าคาดไว้ว่าภายใน 2 ปีเจ้าก็ได้เข้าถึงระดับนี้ได้แล้ว ตอนนี้เจ้าแค่มุ่งมั่นไปที่การฝึกฝนและฟังคำสั่งสอนของลุงเทียน—เจ้าควรจะนำสิ่งที่เขาสั่งสอนมาปฏิบัติ”
“ข้ารู้ดีแต่เมื่อข้าได้เห็นว่าท่านขึ้นบินบนอากาศได้ง่ายแค่ไหน ข้าก็รู้สึกโหยหาพลังนั่น ข้าไม่ได้ต้องการสิ่งใดนอกจากได้เป็นเซียนสวรรค์ เพราะเมื่อข้าได้เป็นแล้ว ข้าจะสามารถบินบนอากาศได้ด้วยตัวข้าเอง” หมิงตงพูด
“วันนั้นจะมาถึงในไม่นาน ตอนนี้มันก็ผ่านมาครึ่งปีได้ ที่เหลืออีก 2 ปีครึ่งนั้นไม่ใช่เวลานาน มันจะมาถึงในไม่ช้า” เจี้ยนเฉินตอบกลับไป
“อื้อ ท่านพูดถูก ข้าแค่รอวันนั้นไม่ไหว ก็แค่นั้นเอง” หมิงตงพูดพร้อมกับแสดงสีหน้าคาดหวัง การได้เป็นเซียนสวรรค์นั้นเป็นความใฝ่ฝันของผู้ฝึกตนทุกคนที่ยังไม่เข้าถึงในระดับนั้น
ทันใดนั้นเองหมิงตงก็จดจำบางอย่างได้ สายตาของเขาหันไปมองที่เจี้ยนเฉิน “อ่า เจี้ยนเฉิน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าและหวงหลวน ? “
เจี้ยนเฉินฉุกคิดถึงตอนที่เขาได้กอดหวงหลวนในศาลาของเธอ ความรู้สึกอันซับซ้อนแสดงขึ้นใบหน้าของเขาพร้อมกับที่เขาได้เงียบไป ” อย่าพูดถึงสิ่งนั้นเลย ข้ายังไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้น ข้ายังมีอีกหลายอย่างต้องทำและมีอีกหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ”
“รึว่านั่นเป็นเพราะตระกูลชิและตระกูลเจียเต๋อ ? ” หมิงตงถามพร้อมกับแสดงสีหน้าเคร่งเครียด ตระกูลชิและตระกูลเจียเต๋อ นั้นเป็นปัญหาสำหรับพวกเขาซึ่งปัญหานี้ลุงเทียนจะไม่ช่วยแก้ไข เขาทิ้งปัญหานี้ไว้ให้เจี้ยนเฉินและหมิงตงแก้ไขด้วยตัวเอง ด้วยการที่ทั้งสองตระกูลนั้นมีเซียนผู้คุมกฎอยู่ในตระกูล ทำให้ทั้งสองนั้นมีความแข็งแกร่งซึ่งนั่นกดดันเจี้ยนเฉินและหมิงตงเป็นอย่างมาก
เจี้ยนเฉินได้พูดขึ้นมา “ย้อนกลับไปตอนที่ข้าได้ฆ่าผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลชิและตระกูลเจียเต๋อ อีกทั้งยังได้ทำลายยุทธภัณพ์ผู้คุมกฎของทั้งสองตระกูล นั่นทำให้พวกเขามีความแค้นกับข้า และเนื่องจากข้าเองยังไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎ ข้าจึงไม่มีทางใดที่จะสามารถคุ้มกันตัวเองจากพวกเขาได้”
“เซียนผู้คุมกฎ ! ” เมื่อได้ยินคำนั้นหมิงตงก็ได้แสดงสีหน้าโหยหาออกมา การได้ก้าวเข้าถึงขั้นเซียนผู้คุมกฎนั้นเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่นัก นั่นมันเป็นก้าวต่อไปสำหรับการฝึกตน
“เจี้ยนเฉิน ลุงเทียนเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งว่าการได้เป็นเซียนผู้คุมกฎนั้น บุคคลนั้นต้องเข้าใจถึงความลึกลับของโลก เจ้าได้ลองพยายามทำความเข้าใจเรื่องนั้นหรือยัง ? ” หมิงตงถาม
เจี้ยนเฉินส่ายหน้า “การเข้าใจความลึกลับของโลกนั้นต้องใช้พลังงานของโลก ตราบใดที่บุคคลนั้นยังควบคุมพลังของโลกไม่ได้ พวกเขาจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ถึงความลึกลับของโลกใบนี้ได้ แม้ว่าพลังของข้านั้นจะแข็งแก่งกว่าเซียนสวรรค์ผู้อื่น แต่ความเข้าใจของพลังงานของโลกนั้นยังคงเพียงแค่ผิวเผิน และนั่นยังไม่ได้เข้าใกล้ถึงการเข้าใจความลึกลับของโลกที่แท้จริง เมื่อวันใดที่ข้าได้เข้าใจถึงความลึกลับของโลกใบนี้ในระดับที่ลึกซึ้งแล้ว ข้านั้นต้องพยายามทำความเข้าใจถึงหลักการของความลึกลับของโลกใบนี้ด้วย ซึ่งนั่นไม่มีทางลัดใด ๆ “
หมิงตงแสดงสีหน้าสลดออกมา “งั้นนี่ดูเหมือนพวกเราคงต้องค่อย ๆ ก้าวไปเรื่อย ๆ “
สองวันต่อมา เจี้ยนเฉินและหมิงตงก็ได้กลับมายังตระกูลเจียงหยาง เซียวเทียนและคนอื่น ๆ รู้สึกสับสนมากว่าพวกเขาสองคนได้หายไปในตอนนั้นได้อย่างไร เป็นเพราะเขามั่นใจถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน พวกเขาจึงไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใดเมื่อทั้งสองคนได้หายไป แต่พวกเขาได้แค่สงสัยว่ามีธุระใดกันที่สำคัญนักที่ทำให้ทั้งสองได้หายไปทันทีแบบนี้
ไม่มีใครมีความกล้าพอที่จะเอ่ยปากถามว่าเจี้ยนเฉินไปที่ใดมา สำหรับพวกเขาแล้วพวกเขาไม่มีสิทธิที่จะถามสิ่งนั้นได้ แม้แต่พ่อแม่ของเจี้ยนเฉิน เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนเองก็ไม่ได้ถามสิ่งนั้น ในฐานะพ่อแม่พวกเขารู้ดีว่าลูกของเขาได้เป็นเติบโตเป็นผู้ใหญ่และมีสิทธิที่จะทำสิ่งใดก็ได้ตามใจตนเอง ตอนนี้การกระทำและหน้าที่นั้นไม่ใช่เรื่องของทั้งสองอีกต่อไป
หลังจากได้พูดคุยและทักทายกับทุกคนแล้ว เจี้ยนเฉินก็ได้เดินไปยังที่พักของตนเอง เขาเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดเขาก็ได้เข้ามาถึงห้องนอนซึ่งมีเตียงนอนของตนเองอยู่
เขานั่งลงที่หัวเตียงที่ซึ่งลูกพยัคฆ์ขาวได้นอนซึมอยู่ ข้าง ๆ มันมีโสมจีนอายุหลายพันปีและส่วนผสมอื่น ๆ วางไว้ข้าง ๆ
เมื่อเห็นส่วนผสมระดับสวรรค์แบบนั้นเหลืออยู่ เจี้ยนเฉินก็ได้แสดงสีหน้ากังวลออกมา “ข้าได้ทิ้งส่วนผสมระดับสวรรค์ไว้มากมายแต่ตอนนี้มันกลับเหลืออยู่น้อยนิด ลูกพยัคฆ์นี่ช่างเติบโตเร็วขึ้นจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินได้เอาส่วนผสมระดับสวรรค์อีกกองหนึ่งมาวางไว้ใกล้ ๆ ลูกพยัคฆ์นั่นก่อนจะเดินจากออกไป
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้อยู่ในตระกูลเจียงหยางอีกสองวัน ในสองวันนั้นเขาใช้เวลาทั้งหมดกับสหายของเขาและองค์หญิงโหยวเยว่ ในวันที่สองนั้นฉินจี๋ได้รับสารจากอาณาจักรฉินหวงเพื่อเรียกตัวให้เขากลับไปยังอาณาจักรให้เร็วที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...