ตอนที่ 55: ได้รับการยอมรับจากจักรพรรดิ
อาจารย์ใหญ่หัวเราะออกมาอย่างยินดี “เจียงหยาง เซียงเทียน ดูเหมือนเจ้าจะบรรลุเป็นเซียนแล้ว”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูด “ใช่ ข้าเพิ่งควบแน่นอาวุธเซียนของข้าได้”
“แต่ข้าก็ยังไม่ไม่ใจว่าเจ้าได้กลายเป็นเซียนขั้นสูงหรือขั้นกลางกันแน่” อาจารย์ใหญ่ยิ้ม สำหรับเขาแล้วเจี้ยนเฉินนั้นแข็งแกร่งเท่ากับเซียนขั้นกลาง เพราะว่าเขาได้เห็นพลังงานของโลกปริมาณมหาศาลที่เจี้ยนเฉินดูดซับไปกับตา แม้ว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าเจี้ยนเฉินใช้วิธีการใดในการดูดซับมันเข้าไป แต่อย่างน้อยเขาก็เข้าใจว่า หลังจากที่ดูดซับพลังงานของโลกไปเป็นจำนวนมากอย่างนี้ คงไม่มีทางที่เจี้ยนเฉินจะเป็นเซียนขั้นต้นแน่
เมื่อได้เห็นว่าเจี้ยนเฉินนั้นข้ามระดับเซียนจากขั้นต้นไปเป็นขั้นกลางเลยนั้น อาจารย์ใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขมาก เพราะสิ่งนี้ สำนักคากัตก็จะสามารถภูมิใจได้ว่าพวกเขานั้นมีศิษย์ที่มีพรสวรรค์
“ท่านอาจารย์ใหญ่ ข้าเพิ่งควบแน่นอาวุธเซียนได้เท่านั้น ดังนั้น ความแข็งแกร่งของข้าควรจะอยู่ในขั้นต้น” เจี้ยนเฉินรู้ว่าอาจารย์ใหญ่เชื่อว่าเขาได้ดูดซึมเอาพลังงานของโลกไปทั้งหมดแล้วจึงถามคำถามนี้ขึ้นมา
“ขั้นต้น ! ” เสียงร้องดังออกมา ครั้งนี้ไม่ใช่อาจารย์ใหญ่ที่เป็นคนพูด แต่เป็นไป่เอินที่ยืนอยู่ด้านหลัง พูดอย่างเหลือเชื่อ
“จะเป็นไปได้อย่างไร เจ้าดูดซับพลังงานของโลกปริมาณมหาศาลเข้าไป แล้วทำไมเจ้าถึงได้อยู่แค่ระดับเซียนขั้นต้นได้ล่ะ?”
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ขมขื่น เขาไม่อยากจะเปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในปราณของเขา
“เอาล่ะ ในเมื่อเจียงหยาง เซียงเทียนสบายดี พวกเราก็ควรจะกลับ” สายตาของอาจารย์ใหญ่มองตรงไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่เขาพูดออกมา “เจียงหยาง เซียงเทียน ในตอนนี้เจ้าได้กลายเป็นเซียนแล้ว เจ้าก็ควรทำตัวให้เคยชินกับการใช้อาวุธเซียน” หลังจากพูดจบ ทั้งอาจารย์ใหญ่และรองอาจารย์ใหญ่ก็ออกจากห้องของเจี้ยนเฉินไป
หลังจากที่ออกไปจากหอ รองอาจารย์ใหญ่ไป่เอินซึ่งมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็ถามขึ้นมา “ท่านอาจารย์ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเจียงหยาง เซียงเทียนนั้นดูดซับพลังงานของโลกเข้าไปเป็นจำนวนมาก เขาจะยังเป็นเซียนขั้นต้นได้อย่างไร นี่ไม่สมเหตุผลเลย”
เมื่อได้ฟัง อาจารย์ใหญ่ก็พยักหน้าแล้วพูดออกมา “ใช่ มันไม่สมเหตุผล หรืออาจจะมีความลับที่เจียงหยางเซียงเทียนมี แต่พวกเราไม่รู้ ไม่เช่นนั้นเขาจะไปดูดซับพลังงานของโลกทั้งหมดที่ห่างออกไปสิบกว่ากิโลเมตรได้อย่างไร? มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้” หลังจากที่พูดจบ อาจารย์ใหญ่ก็หยุดสักพักก่อนที่จะพูดต่อ “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะเข้าไปยุ่ง ตราบใดที่เขาไม่ได้สร้างความวุ่นวายมาก พวกเราจะไม่เข้าไปวุ่นวาย ปล่อยให้เขาเติบโตตามใจ หนทางแห่งอัจฉริยะจะเกิดได้จากเขาเอง ถ้าเขาไม่ไปเผชิญพายุด้วยตัวเอง เขาก็จะไม่เติบโตอย่างแท้จริง และเวลาที่เขาไม่ได้เจอปัญหา เขาก็จะไม่พัฒนา”
“ขอรับ ไป่เอินเข้าใจ” รองอาจารย์ใหญ่ตอบอย่างเคารพ จิตใจของเขาโล่ง ในการที่จะฝึกฝนอัจฉริยะนั้น นี่เป็นอะไรที่สำนักคากัตควรจะต้องทำ
อาจารย์ใหญ่จ้องออกไปที่ท้องฟ้าสีครามในขณะที่เขาพึมพำออกมากับตัวเอง “เจียงหยางเซียงเทียนอายุสิบห้าในปีนี้ การที่ได้เป็นเซียนตั้งแต่อายุ 15 ปีเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่าตกใจในทวีปเทียนหยวน ดูเหมือนเจียงหยาง เซียงเทียนจะเป็นอัจฉริยะจริง ๆ ดังนั้น ข้าหวังจริง ๆ ว่าเขาจะได้เดินต่อไปตามเส้นทาง และไม่ตายก่อนวัยอันควร ไม่เช่นนั้น มันจะเป็นการสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเกอซุน เฮ้อ น่าเสียดายที่หัวหน้าตระกูลของตระกูลเจียงหยางได้หายไปเป็นร้อยปีแล้ว ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ แผนของเขาจะต้องสำเร็จแน่”
…..
หลังจากที่อาจารย์ใหญ่ออกไป เจี้ยนเฉินก็นั่งขัดสมาธิบนเตียงอีกครั้งและสำรวจไปที่แสงสีฟ้าและสีม่วงซึ่งส่องสว่างในปราณของเขา เขาถอนหายใจออกมา ไม่เพียงแต่เขาจะไม่รู้ว่าแสงนี้คืออะไร แต่เขายังควบคุมมันไม่ได้อีกด้วย
เจี้ยนเฉินถอนหายใจอีกรอบ เขาตัดสินใจที่จะลืมเกี่ยวกับมันไปเพราะว่ามันจะเป็นการเสียเวลาที่มีค่าไป เขาได้ตายไปแล้วครั้งหนึ่งและก็ได้พบเจอมาหลายสิ่ง นอกเหนือไปจากความรักที่มีให้มารดาของเขา ไป๋หยุนเทียน ก็ไม่มีอะไรที่เจี้ยนเฉินจะต้องใส่ใจมากอีกแล้ว
เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าไปลึกและสงบใจลง เขาจดจ่อไปที่มือขวาของเขา ใจของเขาเต้นแรงก่อนที่พลังงานที่แข็งแกร่งจะแว่บออกมา ในขณะที่กระบี่เล่มบางก็ปรากฎขึ้นที่มือขวาของเขา
กระบี่ยาวนี้บางกว่ากระบี่ปกติและพื้นผิวของกระบี่ก็ขาวจนเกือบเหมือนกระจกที่สะท้อนบริเวณรอบ ๆ ออกมา
กระบี่ยาวประมาณ 4 ฟุตและกว้าง 2 นิ้ว มีคำสองคำสลักอยู่ที่ตัวกระบี่ “วายุโปรย”
รูปร่างของกระบี่เกือบจะเหมือนกับกระบี่ที่เป็นสมบัติของเจี้ยนเฉินในชาติที่แล้ว แม้แต่ชื่อของมันยังเป็นชื่อเดียวกัน มันถูกเรียกว่า กระบี่วายุโปรย
วิถีกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเน้นหนักไปที่ความเร็วและความคล่องตัว ด้วยความสามารถที่โจมตีได้มากกว่าพันรูปแบบ เขาก็เหมือนลมที่ไปมาอย่างไร้เงาและจากไปโดยไร้ร่องรอย
เมื่อจับกระบี่วายุโปรย เจี้ยนเฉินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ในตอนที่เขาจับกระบี่อยู่ เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับมันเหมือนว่าเขาได้กลับไปในชาติที่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ
ลงครั้งละ สี่ ห้า บท ได้ไหม...
กรุณาลงบทครั้งละหลายบทหน่อยนะครับ ชอบ ๆ...
รออ...
ตอน 1419-1420 หายครับ...
จบแล้ว......
มีต่อไหมครับ...
เมื่อไรจะอัพเดทค้าบ รอนานแล้ว...
ต่อๆๆๆ...
เลิกอัพแล้วหรา...
good novel...