เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 58

ตอนท่ี่ 58: การรบกวนจากปราณ

เจี้ยนเฉินถอนลมหายใจยาวออกมาเพื่อทำให้อารมณ์ของเขาคงที่ในขณะที่เขามองไปที่แกนอสูรที่อยู่ในมือ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดูดซับพลังงานจากแกนอสูรมานานแล้ว แต่เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานในแกนอสูรระดับหนึ่งนั้นน้อยกว่าแต่ก่อน แกนอสูรยังมีขนาดลดลงมาอีกด้วย

เจี้ยนเฉินสูดลมหายใจเข้าไปลึกด้วยความตกตะลึงในการเปลี่ยนแปลงนี้ แม้ว่าแกนอสูรระดับหนึ่งจะไม่ได้มีพลังงานในปริมาณมาก แต่ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นเซียน การดูดซับพลังงานจากแกนอสูรระดับหนึ่งจนหมด เขาต้องใช้เวลาถึง 3 คืน แต่ในเวลาสั้น ๆ ที่เขาในการดูดซับพลังงานจากแกนอสูรระดับหนึ่งในครั้งนี้ พลังงานในแกนก็ลดลงไปอย่างมากจนเจี้ยนเฉินไม่กล้าจะคิดว่ามีพลังงานมากมายขนาดไหนกันที่เข้าไปในร่างกายของเขาในเวลาอันสั้นขนาดนี้

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ตรวจสอบดูร่างกายด้านในของเขาทันทีอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาก็ประหลาดใจที่เขาไม่พบพลังงานที่เขาเพิ่งดูดซับเข้าไปเลย ปราณของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงและพลังงานด้านในก็ไม่มีทีท่าว่าจะเติบโตเช่นกัน มันเหมือนว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นภาพลวงตาและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ถ้าไม่ใช่ว่าเจี้ยนเฉินสามารถสัมผัสได้ว่าพลังงานจากแกนอสูรนั้นน้อยลงกว่าแต่ก่อน เจี้ยนเฉินก็คงคิดว่าปัญหานั้นเกิดขึ้นเพราะเขาเอง แต่เหตุการณ์นี้มันแปลกเกินกว่าที่จะเข้าใจได้

คิ้วของเขาขมวดเพราะคิดมาก แต่ไม่ว่าเขาจะคิดสักเพียงใด เจี้ยนเฉินก็สับสนเป็นที่สุด ในตอนท้าย เจี้ยนเฉินจึงทำได้แค่ปล่อยปัญหาไว้ก่อนและเริ่มฝึกฝนเพื่อดูดซับพลังงานอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประสบกับอัตราในการดูดซับพลังงานที่รวดเร็วไปแล้ว เจี้ยนเฉินก็ระวังมากกว่าเดิมมากและเขาก็มุ่งความสนใจไปทั่วทั้งร่างของเขาเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

แต่ใครจะคิดล่ะว่าตอนที่เขากำลังจะเริ่มฝึกฝน เหตุการณ์เหมือนครั้งที่แล้วก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แกนอสูรในมือของเขาเปล่งแสงจาง ๆ ออกมาในขณะที่พลังงานข้างในก็พุ่งออกมาด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึง ก่อนที่มันจะสลายเข้าไปในเส้นปราณที่แขนของเขา

เจี้ยนเฉินนิ่งเหมือนรูปปั้นหินอยู่บนเตียงของเขาโดยไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้ เขามั่นใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันจริง และมันไม่ใช่ภาพลวงตา ในตอนที่เจี้ยนเฉินกำลังจะหยุดดูดซับพลังงานที่อยู่ในแกนอสูร เขาก็เปลี่ยนใจทันที เขายกระดับการทำสมาธิให้สูงขึ้นเท่าที่เขาจะทำได้ ในขณะที่เขาพยายามที่จะทำตัวให้คุ้นเคยกับสถานการณ์นี้ เขาต้องการที่จะเข้าใจให้แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขา และอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ความเร็วในการดูดซับมันน่ากลัวขนาดนี้ นอกเหนือไปจากนั้น เจี้ยนเฉินยังต้องการที่จะรู้ว่าทำไมพลังงานถึงได้หายไปในปราณของเขาเหมือนโดยโยนหินลงไปในมหาสมุทรโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย

แกนอสูรในมือของเจี้ยนเฉินหดลงอย่างสังเกตได้ และพลังงานข้างในก็ไหลเข้าไปในเส้นปรานของแขนของเขาผ่านทางรูขุมขน เนื่องด้วยมีด้วยพลังงานจำนวนมากไหลเข้าไปในแขนของเขา ผิวหนังของเจี้ยนเฉินจึงรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเหมือนว่ามีน้ำจำนวนมากมากระแทก

ในตอนที่เขาดูดซับพลังงานของโลกไปเมื่อสองวันก่อน มันนุ่มนวลมากกว่านี้ ดังนั้นการดูดซับอย่างเร็วในตอนนั้นจึงไม่ได้รบกวนใจเขามาก แต่กับแกนอสูรนั้นมันต่างไป แกนอสูรมีพลังงานของสัตว์อสูรที่หนาแน่นอยู่ด้านใน ไม่ว่าพลังงานจะแข็งแกร่งขนาดไหนหรือวิญญาณจะบริสุทธิ์แค่ไหน มันก็เหนือกว่าความสามารถของพลังงานของโลกมาก แกนอสูรนั้นมีธาตุที่บ้าระห่ำอยู่ด้านใน ดังนั้นเมื่อเจี้ยนเฉินดูดซับพลังงานจากมันเข้าไป เขาจึงรู้สึกมีผลย้อนกลับ

เจี้ยนเฉินไม่สนใจในความเจ็บปวดเลย และแทนที่กันเขากลับสนใจไปที่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร่างของเขา พลังงานส่วนใหญ่จากแกนอสูรไปตรงเข้าไปที่ปราณของเขาแล้วก็หายไป มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถูกดูดซึมเข้าไปในร่างกายของเขา

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เจี้ยนเฉินพบว่าพลังงานไปไหน ใบหน้าของเขาก็สดใสขึ้น พลังงานกำลังไหลไปที่แสงสีฟ้าและสีม่วงที่อยู่ภายในปราณของเขา พลังงานถูกดูดไปโดยบอลเปล่งแสงสองดวงนั้นจนหมดอย่างคาดไม่ถึง

เจี้ยนเฉินลืมตาขึ้นช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องเขม็งไปที่แกนอสูรที่อยู่ในมือ เขาโยนมันทิ้งไปแล้วก็หลับตาอีกครั้ง เขาเริ่มฝึกฝนโดยใช้พลังงานของโลกเหมือนที่เขาทำอย่างปกติ

พลังงานของโลกได้ไหลเข้ามาหาเขาเหมือนสายน้ำที่เร็วขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าความเร็วจะน้อยกว่าความเร็วปกติของเขาเป็นสิบเท่า แต่ประมาณเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของพลังงานก็ถูกดูดซึมไปโดยแสงสองดวงที่อยู่ในปราณของเขา ในขณะที่มีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเท่านั้นที่เข้าไปในร่างกายของเขา

หลังจากที่รู้แบบนี้แล้ว เจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจที่จะฝึกฝนโดยใช้พลังงานของโลก อย่างไรก็ตาม ความเร็วที่เขาฝึกฝนและกลั่นพลังงานของโลกนั้นก็ช้ากว่าสิบเท่าจากความเร็วปกติของเขา

เมื่อได้ข้อสรุปแบบนั้น ท่าทางของเจี้ยนเฉินก็น่ากลัว การฝึกฝนส่วนตัวของเขาต้องถึงลดลงเป็นสิบเท่าจากความเร็วปกติ มันเป็นอะไรที่เขาไม่ต้องการเลย เขาไม่คิดว่าแสงสองดวงในปราณของเขาจะเป็นปัญหาแบบนี้

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็พยายามที่จะดูดซับพลังงานจากแกนอสูรอีกครั้ง ใบหน้าที่เครียดของเขาค่อย ๆ ผ่อนคลายลงในขณะที่เขาเริ่มคิด ถ้าเขาฝึกฝนโดยใช้พลังงานจากแกนอสูรแบบนั้น ความเร็วในการฝึกฝนของเขาก็จะไม่น้อยไปกว่าก่อนที่เขาจะเป็นเซียน กลับกันมันจะเร็วกว่าถึง 3 เท่า สิ่งที่เป็นข้อเสียก็คือมันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการดูดซึมพลังงานนั้น เจี้ยนเฉินเริ่มเหงื่อออกจากการที่เขาออกแรงมาก เขาหยุดฝึกฝนหลังจากนั้นสักพัก เขามองไปนอกหน้าต่างไปยังท้องฟ้าที่มืดสนิท สถานการณ์ในอนาคตของเขาคงยากมากไปกว่านี้ เพราะว่าเขาพึ่งพาการดูดซับพลังงานของโลกซึ่งจะทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของเขาลดลงหนึ่งในสิบ การดูดซับพลังงานจากแกนอสูรจะทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้น 3 เท่า แต่มันก็จะใช้พลังงานและสมาธิที่เจี้ยนเฉินไม่สามารถทนได้

แกนอสูร 1 อันซึ่งเจี้ยนเฉินเคยใช้เวลา 3 คืนในการดูดซับ ในตอนนี้ การดูดซับพลังงานปริมาณเดียวกันนั้นใช้เวลาเพียงชั่วจิบชาเท่านั้น หมายความว่าเพียงแค่คืนเดียว เจี้ยนเฉินสามารถดูดซับแกนอสูรระดับหนึ่งได้ถึง 50 อัน แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ยากที่จะพูดได้ว่าเขาจะสามารถทนได้ไหมกับอัตราเร็วในการดูดซับใหม่นี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ