เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 613

ตอนที่ 613: การตายของเซียนผู้คุมกฎตระกูลชิ (3)

เจี้ยนเฉินได้แต่หัวเราะออกมา เมื่อได้ยินเซียนผู้คุมกฎทั้งสองกล่าวเช่นนั้น พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณน้อยกับเขา ? ด้วยคำรับรองของวิญญาณน้อย เจี้ยนเฉินสามารถต่อสู้ภายในเมืองทหารรับจ้างได้โดยไม่คำนึงถึงกฎและการละเมิด หลังจากตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างวิญญาณน้อยกับชายที่รู้จักกันในชื่อโมเทียนหยุนมากขึ้น คนที่รู้จักกันในชื่อผู้ก่อตั้งเมืองทหารรับจ้าง ด้วยตัวตนที่แปลกประหลาดเช่นนั้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิญญาณน้อยเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากของเมืองนี้ แต่ทว่าไม่อาจแน่ใจว่าวิญญาณน้อยมีสถานะมากกว่าเทียนเจี้ยนหรือไม่

โดยไม่ลังเลใจใด ๆ เจี้ยนเฉินพุ่งวูบไปยังเซียนผู้คุมกฎทั้งสองคน ขณะที่เขาแทงที่หน้าผากของเซียนผู้คุมกฎที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยปราศจากความเมตตา

เซียนผู้คุมกฎจากตระกูลเจียเต๋อได้ก้าวถอยหลังด้วยความรู้สึกงงงวย เขาไม่คิดว่าเจี้ยนเฉินจะเริ่มการสู้รบในเมืองทหารรับจ้าง แทนที่จะตอบโต้ เขาถอยหลบการโจมตีและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่กลัวอะไรจริง ๆ ถ้าเจ้ายินดีที่จะต่อสู้ในเมืองทหารรับจ้าง ความตายของเจ้าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในขณะนี้ ไม่มีใครสามารถช่วยเจ้าอีกต่อไปได้

เจี้ยนเฉินไม่ตอบ กลับกัน ร่างของเขากลายเป็นภาพพร่ามัวกลางอากาศ ขณะที่เขาพุ่งอีกครั้งไปยังเซียนผู้คุมกฎ โดยไม่จำเป็นต้องหวั่นกลัวการตอบโต้ ดังนั้นพลังงานดั้งเดิมของจิตวิญญาณกระบี่สีม่วง-ฟ้าถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มความสามารถของเขา แสงสีฟ้าและสีม่วงสดใสสว่างไสวไปทั่วบริเวณ ราวกับว่าเป็นโคมไฟยามค่ำ

เซียนผู้คุมกฎจากตระกูลเจียเต๋อไม่กล้าสู้กับเขาในขณะที่เขาอยู่ในเมืองทหารรับจ้าง เขารู้ถึงผลที่ตามมาของบรรดาผู้ที่ทำ ดังนั้นเขาจึงหลบเลี่ยงการโจมตีของเจี้ยนเฉินแทนการโต้กลับ เฉพาะร่างกายของเขาเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ว่ากระพริบไปมาระหว่างสถานที่ต่าง ๆ ในขณะที่เขาหลบการโจมตีในแต่ละครั้งอย่างไม่ยากเย็น แม้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นจะพยายามสุดกำลัง แต่การโจมตีของเขาก็ไร้ประโยชน์ต่อหน้าเซียนผู้คุมกฏ

เซียนผู้คุมกฎนั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างจากเซียนสวรรค์ พวกเขาเป็นกลุ่มบุคคลที่เข้าใจความลึกลับที่สุดของโลกในระดับหนึ่งและสามารถควบคุมพื้นที่มิติในระดับเล็ก ๆ ได้ ด้วยการยืมพลังแห่งมิติ พวกเขาสามารถยืนนิ่งเหมือนเสาไม้ที่ตระหง่านอยู่ในพื้นดินและยังคงเป็นอันตรายต่อเซียนสวรรค์

เซียนสวรรค์นั้นเป็นดั่งมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียนผู้คุมกฎ

แม้ว่าเจี้ยนเฉินไม่สามารถทำร้ายเซียนผู้คุมกฎได้ เขาก็ไม่รู้สึกท้อแท้ เขาสามารถต่อสู้ได้โดยไม่ต้องกลัวหรือต้องระงับความรู้สึก แตกต่างจากอีก 2 คน เขาไล่ตามเซียนผู้คุมกฎอย่างไม่หยุดยั้ง เขาสามารถบังคับให้เซียนผู้คุมกฏหลบหนีได้ นี่เป็นความสุขอย่างหนึ่งของเขา ในระดับหนึ่ง ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการระบายอารมณ์หงุดหงิดที่สะสมไว้ในตัวเขาออกไป

กระโดดขึ้นไปในอากาศ เจี้ยนเฉินใช้พลังงานดั้งเดิมเป็นกระบี่ ขณะที่เขาแทงไปที่เซียนผู้คุมกฏตระกูลเจียเต๋อ

อีกครั้งหนึ่งที่เซียนผู้คุมกฎหายไปและทิ้งภาพติดตาไว้ที่จุดเดิม เขาโผล่ขึ้นมาอีกหลายร้อยเมตรบนหลังคาที่อยู่ใกล้ ๆ

พลังงานดั้งเดิมที่เจี้ยนเฉินยิงออกมากระทบกับพื้นดินส่งผลให้เกิดการระเบิดอันยิ่งใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดการสั่นสะเทือนทั่วทั้งบริเวณและทำให้อาคารหลายแห่งในบริเวณใกล้เคียงสั่นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามไม่มีสัญญาณของความเสียหายสามารถมองเห็นได้จากการที่พลังงานดั้งเดิมได้โจมตีพื้น แม้จะมีพลังที่ระเบิดออกมา

การระเบิดอย่างฉับพลันได้ถูกนำออกไปไกลออกไป ส่งผลให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเสียง พวกเขาแต่ละคน ‘เปิดเผย’ ท่าทีตกใจ ไม่ทราบว่าบ่อยแค่ไหนที่พวกเขาได้ยินเสียงการต่อสู้เกิดขึ้นในเมืองทหารรับจ้าง แต่ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดว่าจะมีคนที่กำลังพยายามทำเช่นนั้น

มีคนต่อสู้อยู่ที่นั่น! ใครเป็นคนโง่ที่พยายามฆ่าตัวตาย ? ถึงได้ทำการต่อสู้ในเมืองทหารรับจ้าง เขาไม่ทราบข้อห้ามและการลงโทษที่จะเกิดขึ้นงั้นหรือ ?

ฟังจากเสียงระเบิด คนผู้นั้นคงจะแข็งแกร่งมาก ข้าเดิมพันว่าอย่างน้อยต้องเป็นเซียนสวรรค์

รีบไปดู ! เรามาดูกันว่าผู้กระทำความผิดจะตายอย่างไร …

รีบไปดูว่า การลงโทษจะเกิดขึ้นกับเขาอย่างไร ข้าเคยได้ยินมาก่อนว่า การพยายามต่อสู้ในเมืองนี้นำไปสู่ประสบการณ์ที่เจ็บปวด แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นความตายที่จะเกิดขึ้นกับผู้กระทำความผิด …

หลายคนเริ่มคุยกันบนถนน ขณะที่พวกเขาเดินออกมาจากทุกทิศทางไปยังพื้นที่ที่เจี้ยนเฉินและเซียนผู้คุมกฎกำลังต่อสู้อยู่ ทุกคนอยากจะเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่จะถูกลงโทษโดยเมืองทหารรับจ้างก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

ในพริบตา ทั่วทั้งถนนที่เจี้ยนเฉินยืนอยู่ ต่างก็กระจัดกระจายไปด้วยผู้คนที่อยู่ก่อนหน้านี้ ได้กลายเป็นเสียงขรมของเสียงพ่อค้าและทหารรับจ้างได้ละทิ้งสิ่งที่พวกเขากำลังทำ เพื่อรีบไปยังพื้นที่โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยการเดินเท้าหรือบนสัตว์อสูร