เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 776

ตอนที่ 776: ความสงบก่อนพายุจะมา

เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจเรื่องที่วัตถุจิตวิญญาณช่วยให้ผู้เข้าแข่งขันหนีไปได้เลยแม้แต่น้อย เขาไม่ได้รู้สึกว่าวัตถุจิตวิญญาณนั้นทำผิด เพราะว่าการปกป้องผู้เข้าแข่งขันนั้นเป็นความรับผิดชอบของวัตถุจิตวิญญาณ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงนั้นไม่ได้หาได้ทั่วไปอย่างกับนักสู้ ยิ่งเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 ด้วยแล้ว พวกเขาไม่สามารถเสี่ยงที่จะสูญเสียพวกนี้ไปได้

เจี้ยนเฉินยืนขึ้นและสำรวจทั่วร่างกายเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาพบว่าบาดแผลทั้งหมดนั้นหายสนิทดีแล้ว ความตกตะลึงก็บังเกิดขึ้นในจิตใจของเขา

แม้ว่าเขาจะไม่ได้สติก่อนหน้านี้ แต่เขาก็รู้ดีว่าบาดแผลที่ร่างกายของเขานั้นร้ายแรงถึงเพียงใด แม้ว่าจะมีการฟื้นฟูที่สุดยอดของร่างบรรพกาล อาการบาดเจ็บก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยวันหรือสองวันถึงจะหายสนิทดี แต่เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันเพิ่งผ่านมา 2 เค่อเท่านั้นที่เขาได้รับบาดเจ็บมา แต่ร่างกายของเขาก็หายสนิทดีแล้ว มันค่อนข้างที่จะเหลือเชื่อจริง ๆ

แม้แต่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ก็ไม่สามารถรักษาให้หายสนิทอย่างรวดเร็วราวกับเทพเจ้านี้ได้ เขาได้การโจมตีจากเซียนราชามา ถ้าไม่เป็นเพราะการป้องกันที่สูงสุดยอดของร่างบรรพกาลละก็ เขาคงยากที่จะรอดชีวิตมาได้ แม้แต่จะเป็นการโจมตีจากเซียนผู้คุมกฎเองก็ตาม และถึงแม้เขาจะรอดมาได้ เขาก็คงต้องใช้เวลาหลายปี หรือแม้แต่สิบปีที่จะหายดีได้

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินจำได้เลือนรางว่ามีพลังเซียนธาตุแสงที่บริสุทธิ์เข้ามาสู่ร่างกายของเขาตอนที่เขาหมดสติไป เขาอดไม่ได้ที่จะเกิดความคิดแล้วมองไปที่ชายผู้นั้น “วัตถุจิตวิญญาณ ข้าถูกรักษาโดยพลังดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงใช่ไหม?”

วัตถุจิตวิญญาณพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ฝ่าบาท นั้นคือพลังดั้งเดิมของวัตถุเซียน แต่โชคไม่ดีที่มันถูกทำให้บริสุทธิ์โดยข้าน้อยเองและไม่มีใครที่จะสามารถใช้มันได้ ไม่เช่นนั้น ข้าน้อยก็คงจะช่วยให้ท่านสำเร็จระดับ 7 ไปแล้ว” แม้ว่าวัตถุจิตวิญญาณจะเปรียบเสมือนเทพเจ้าในวัตถุเซียน แต่เขาก็ยังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและเคารพในเจี้ยนเฉิน แม้ว่าในสายตาของเขาแล้วเจี้ยนเฉินนั้นอ่อนแอมาก แต่วัตถุจิตวิญญาณนั้นหวาดกลัวจิตวิญญาณกระบี่มากที่สุด เขาจึงไม่กล้าที่จะไม่แสดงความนอบน้อมเลยแม้แต่น้อย จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนที่ถูกเรียกว่านายท่านจากจิตวิญญาณกระบี่จะเป็นคนธรรมดาสามัญได้?

สายตาของเจี้ยนเฉินฉายแววผิดหวัง วัตถุจิตวิญญาณจากไปหลังจากที่ได้รับคำขอบคุณ

เมื่อวัตถุจิตวิญญาณจากไป คนที่เหลืออยู่ในถ้ำก็มีเพียงแต่เจี้ยนเฉินและเสือขาว เจี้ยนเฉินยืนขึ้นและจ้องไปที่เสือที่มีขนาดเท่ามนุษย์ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ในสายตาของเขามีความยินดีแฝงอยู่และเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างมีอารมณ์ “เสี่ยวไป๋ เจ้าในตอนนี้น่าเกรงขามกว่าแต่ก่อนมาก”

เสือที่มีขนาดเท่ามนุษย์นั้นน่าแรงขามมากกว่าเมื่อก่อนอย่างมากจริง ๆ มันมีสัมผัสของราชาและผู้มีอำนาจที่น่าเลื่อมใส คนที่เป็นผู้นำของคนและม้าหลายพันตัว

“บรืออ….” เสี่ยวไป๋ครางเสียงทุ้มออกมา มันถูหัวของมันกับใบหน้าของเจี้ยนเฉินอย่างรักใคร่ แม้ว่ามันจะเป็นระดับ 6 แล้วในตอนนี้ แต่สถานะของเจี้ยนเฉินก็ยังเหมือนเดิมกับมัน

ในตอนนี้ เสี่ยวไป๋ดูเหมือนลูกแกะน้อยที่อ่อนโยนซึ่งห่างไกลจากความเป็นสัตว์อสูรที่ทรงพลังและดุร้ายซึ่งได้สลายวิญญาณของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงสิบกว่าคน พร้อมทั้งตอนที่ไล่หยุนเทียนไปและต่อต้านวัตถุจิตวิญญาณไปก่อนหน้านี้

สายตาที่เจี้ยนเฉินมองไปที่เสือเต็มไปด้วยความอ่อนโยน แม้ว่าเสี่ยวไป๋จะติดตามเขาได้เพียงไม่กี่ปี แต่เจี้ยนเฉินก็ได้เห็นเสือเติบโตขึ้นจากตั้งแต่ที่ลูกเสือที่เดินไม่ได้ ความสัมพันธ์นั้นลึกซึ้งเหมือนพ่อกับลูก มากกว่าที่คนทั่ว ๆ ไปจะสามารถจินตนาการได้

เจี้ยนเฉินลูบขนที่หัวของเสี่ยวป่ายก่อนที่จะเอาเสื้อสะอาดสีขาวออกมาจากแหวนมิติแล้วเอามาสวม เขาพูด “เสี่ยวไป๋ จุดประสงค์ที่เรามาที่นี่ยังไม่ลุล่วง พวกเราไปจัดการเรื่องที่เหลือกันก่อน เราจะไม่ยอมให้คนอื่นเก็บคะแนนเหล่านั้นไปแบบนี้” เมื่อเจี้ยนเฉินพูดจบและใส่เสื้อเสร็จ เขาก็เดินมาที่ทางออกของถ้ำ

“บรืออ….” ร่างกายที่ใหญ่โตของเสือขาวก็หดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียงขนาดเท่าแมวตัวเล็ก ๆ อีกครั้ง ด้วยการกระโดดเพียงเบา ๆ มันก็ขึ้นมาอยู่ที่ไหล่ของเจี้ยนเฉินอย่างนุ่มนวลและนอนลงอย่างเกียจคร้าน

เจี้ยนเฉินยิ้มก่อนที่จะลูลไปที่หัวขนาดเท่ากำปั้นอย่างรักใคร่ก่อนที่จะออกไปข้างนอก

ในตอนนี้เพิ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วยามหลังจากที่เจี้ยนเฉินบาดเจ็บ ดังนั้นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกก็ยังกระจัดกระจายกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีจากเซียนราชาจากซาร์ ทิลอสหรือจะเป็นเสียงคำรามของสัตว์อสูรโบราณที่คร่าวิญญาณคนไปมากกว่าสิบคน เรื่องทั้งหมดนี้ได้มีผลกระทบอย่างหนักหนาภายในจิตใจของพวกเขาอยู่

ในตอนที่เจี้ยนเฉินโผล่ออกมาจากถ้ำและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ทุกคนที่รวมตัวกันอยู่ด้านนอกนั้นสั่นกลัว พวกเขาถอยกลับไปไกลอย่างไม่รู้ตัวและจ้องไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนกับจ้องไปที่สัตว์ร้าย ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ไม่มีใครในพวกเขาที่เชื่อว่าหลังจากการโจมตีจากเซียนราชาแล้ว ไม่เพียงแต่เจี้ยนเฉินจะรอดชีวิตมาได้ แต่เขายังกลับมาหายดีภายในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย เขาดูเหมือนจะหายดีราวกับว่าการโจมตีก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเลย

“อะ อะไรกันนี่ ? หยางยู่เทียนได้รับบาดเจ็บปางตายชัด ๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ตาย มันก็คงไม่น่าพอใจนัก ทำไมเขาถึงได้ฟื้นตัวได้เร็วมากขนาดนี้ ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ