เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 819

ตอนที่ 819: การต่อสู้ที่ป่าเถื่อนกับศพมีชีวิต (1)

เจี้ยนเฉินถอนหายใจยาวในขณะที่เขามองไปรอบ ๆ ที่ดูเหมือนกันไปหมด เขารู้สึกถึงคลื่นแห่งความกลัวที่คืบคลานเข้ามาในขณะที่เขาคิดถึงสถานการณ์ก่อนหน้านี้ก่อนที่พวกเขาจะหลงเข้าไปในอาคมสังหารของเซียนผู้คุมกฎ

อาคมสังหารนั้นมีความสามารถในการกำจัดเซียนผู้คุมกฎทุกคน แม้แต่เซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5 ยังยากที่จะรอดไปได้ถ้าพวกเขาได้หลุดเข้าไป ข่ายอาคมนั้นยังคงทรงพลังมากแม้ว่าจะอ่อนแอลงบ้างจากการกัดกร่อนของกาลเวลา เขาไม่สามารถที่จะทำลายและหาทางออกมาได้เลยด้วยการโจมตีจากชั้นสวรรค์ที่ 5 ของเขา ถ้าไม่ใช่ว่ามีหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์อยู่ที่นั่น เจี้ยนเฉินคงคิดไม่ออกว่าจะหนีออกมาอย่างไร แม้ว่าเขาอาจจะไม่ตาย แต่เขาก็คงได้รับบาดเจ็บหนัก

“มหาสมุทรดวงดาวน่ากลัวมากจริง ๆ ศพมีชีวิตที่มาจากเซียนผู้คุมกฎหลังจากที่พวกตายไปแล้วก็น่ากลัวเพียงพอแล้ว แต่เทียบกับรูปแบบนั่นแล้ว มันดูจิ๊บจ้อยไปเลย” เจี้ยนเฉินคิด เขากลัวพลังของอาคมมาก ถ้าเขาเจอกับศพมีชีวิต เขาก็สามารถที่จะหนีได้โดยไม่ต้องต่อสู้กับพวกมัน เพราะว่าศพมีชีวิตนั้นไม่มีความฉลาด พวกมันจึงง่ายที่จะจัดการ ในทางกลับกัน อาคมนั้นสามารถสร้างโลกเสมือนออกมาได้ด้วยตัวเอง เมื่อมีคนหลุดเข้าไป มันก็จะกลายเป็นอีกมิติหนึ่ง และปิดทางที่จะหนีไว้ทั้งหมด ทางเดียวที่จะออกมาได้คือการทำลายรูปแบบ และถ้าคนที่หลุดเข้าไปไม่แข็งแกร่งเพียงพอ สิ่งที่เขาจะได้รับอย่างเดียวก็คือการโจมตีที่ทำลายล้าง

บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาทำลายอาคมออกมา จึงทำให้เกิดรอยแยกกว้างเท่าฝ่ามือที่พื้น ยาวออกไป 5 กิโลเมตร รอยแยกนั้นเป็นรูปวงกลม และเป็นโครงร่างที่มีอาคมที่สมบูรณ์

“อาคมที่นี่ถูกร่ายเอาไว้โดยจอมยุทธของตระกูลมังกร มันถูกซ่อนไว้อย่างดี ดังนั้นมันจึงสามารถจับคนที่ไม่ระวังตัวได้ เราจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังในอนาคต โชคดีที่อาคมนี้ไม่ได้ทรงพลังเหมือนเมื่อก่อนแล้ว งั้นมันคงไม่ง่ายนักที่จะหลุดออกมาจากมันได้” หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พูดอย่างไม่ใส่ใจ

เจี้ยนเฉินพยักหน้ารับอย่างเคร่งเครียด เขากลัวอาคมนี้มากกว่าที่หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์กลัวมาก

พลังแห่งการมีอยู่หลายดวงได้บินมาจากที่ไกล ๆ ในตอนนี้ ศพมีชีวิตที่เป็นเซียนผู้คุมกฎถูกดึงดูดมาที่นี่จากความโกลาหลและพุ่งเข้ามาจากทั่วทุกทิศทาง

เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลบพลังการมีอยู่ของพวกเขาออกทันที ก่อนที่จะพุ่งออกไปอย่างเงียบเชียบ ศพมีชีวิตทำทุกอย่างด้วยสัญชาตญาณ พวกมันไม่สามารถรับรู้ได้จากสายตา พวกมันไม่เห็นอะไรเลย พวกมันพึ่งการรับรู้ถึงการมีอยู่ที่เป็นของคนนอกและตามหาสิ่งที่มีชีวิต

เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้เดินทางมาไกลจากที่ซึ่งพวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้ ศพมีชีวิตเข้ามาในระหว่างนั้นจากทุก ๆ ที่ พวกมันหยุดตรงที่ซึ่งพวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้อย่างไร้ชีวิตชีวา พวกมันรวมกลุ่มเดินไปมาอย่างไร้สติเป็นเวลานาน

พวกเขาทั้งสองเคลื่อนที่ไปอย่างระมัดระวัง หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์พบร่องรอยจำนวนมากของอาคมและศพมีชีวิตบางตัวที่เคยเป็นทั้งสัตว์อสูรและมนุษย์มาก่อน พวกเขาเว้นระยะห่างออกมากจากพวกมัน ดังนั้นการเดินทางถึงจะน่ากลัวแต่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดใด

ทั้งสองไม่กล้าที่จะบินไปเร็ว ๆ พวกเขาเดินทางไปได้แค่ 2,000 กิโลเมตรในครึ่งวัน และยังอยู่ที่ส่วนรอบนอกของมหาสมุทรดวงดาว พวกเขายังไม่ถึงส่วนของเกาะเลย

ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยชั้นของหมอกหนาที่กำลังมืดลง กลางคืนที่มืดมิดปกคลุมไปทั่วมหาสมุทรดวงดาวอย่างช้า ๆ แปลกมากที่พวกเขาไม่สามารถที่จะเห็นในที่มืดได้เลยในมหาสมุทรดวงดาว ซึ่งทำให้การมองเห็นของพวกเขานั้นแคบลงไปอย่างมาก

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เดินทางไปพร้อมกับพิณที่อยู่ในมือของนาง นางมองไปที่ท้องฟ้าที่มืดมิดและดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางก็เริ่มดุดันขึ้น นางกล่าวว่า “มันกำลังจะมืด มันคงไม่เหมาะที่พวกเราจะเดินทางในตอนกลางคืน พวกเราจำเป็นต้องหยุดและพักในคืนนี้ ก่อนที่จะไปต่อพรุ่งนี้”

“ผู้เยาว์ไม่รู้เรื่องใดใดเกี่ยวกับที่นี่เลย ดังนั้นข้าจะทำตามการตัดสินใจของผู้อาวุโสทุกอย่าง” เจี้ยนเฉินตอบอย่างสงบ

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ใช้เวลาครึ่งชั่วยามในการหาถ้ำที่กว้างใหญ่เพียงพอ ถ้ำโค้งด้านในนั้นมีความยาวประมาณร้อยเมตร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กลัวว่าพวกเขาจะถูกเห็นด้านใน

ที่ปลายสุดของถ้ำ หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้เทเอาไข่มุกราตรีออกมาจากแหวนมิติของนางและติดมันไว้ที่เพดานของถ้ำ มันส่องแสงนวลไปในความมืด ในมหาสมุทรดาราเพ้อฝัน ศพมีชีวิตนั้นอ่อนไหวมากกับคลื่นพลังงานใดใดก็ตามและกับวัตถุที่ไม่เคยปรากฎขึ้นที่มหาสมุทรดวงดาว นี่เป็นเหตุผลที่ว่าพวกเขาไม่สามารถใช้แสงสว่างจากไฟได้ ความร้อนและควันจะลอยออกไปข้างนอกและดึงพวกศพมีชีวิตเข้ามา ทางเดียวที่จะใช้แสงสว่างได้คือผ่านทางไข่มุกราตรีเท่านั้น

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั่งลงและหลับตาลงอย่างช้า ๆ หลังจากที่ติดตั้งไข่มุกไปแล้ว นางไม่ได้สนใจเจี้ยนเฉินเลย

เจี้ยนเฉินหาพื้นบริเวณที่สะอาดและนั่งขัดสมาธิ เขามองไปที่ข้าง ๆ ของเขาไปยังหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่อยู่ในชุดม่วง ผู้ที่ปิดบังใบหน้าของตัวเองมาตลอด เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงครั้งแรกที่เขาพบกับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เขารู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที

เขายังคงจำครั้งแรกที่พวกเขาพบกันได้ มันเกิดขึ้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทหารรับจ้างหลายปีก่อนหน้านี้ เขาเป็นแค่เซียนปฐพีธรรมดาเท่านั้นในตอนนั้น แม้แต่เซียนสวรรค์ยังมองเขาแบบเท่าเทียม อย่าไปพูดถึงเซียนผู้คุมกฎเลย

ในตอนนี้หลายปีผ่านไปแล้ว เขาได้เติบโตขึ้นจากเดิม จากเซียนปฐพีที่อ่อนแอสู่ระดับของการฝึกฝนของเขาในตอนนี้ เขาเท่าเทียมกับเซียนผู้คุมกฎแล้ว และยังได้ต่อสู้ร่วมกับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่สวยงามอีก เจี้ยนเฉินไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะคิดกลับไปในตอนนี้ เขาก็ยังคงรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังอยู่ในความฝัน

เจี้ยนเฉินถอนหายใจลึกและสงบใจลงอย่างช้า ๆ เขาละสายตาจากหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ เขาเลิกฟุ้งซ่านและเริ่มที่จะตรวจดูสภาพร่างกายของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ