เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 859

ตอนที่ 859: โลกแห่งท้องทะเล

“สัตว์อสูรระดับ 6 ก็มาด้วย” นูบิสเพ่งความสนใจไปที่ร่างสิบกว่าร่างที่บินมาแต่ไกล

“พวกเขาไม่ใช่สัตว์อสูรแต่เป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่พัฒนามาจากสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล” เจี้ยนเฉินแก้ไข เขาบอกได้เลยเพียงแต่มองปราดเดียวว่าพวกเขาไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือสัตว์อสูร

“มีข้อมูลไม่มากนักเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ทะเลในความทรงจำทางสายเลือดของข้า อย่างไรก็ตาม พวกสมาชิกของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นน่าสนใจจริง ๆ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเหมือนพวกเราสัตว์อสูร แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นถึงเซียนผู้คุมกฎในการที่จะได้รูปร่างมนุษย์มา พวกเขาดีกว่าพวกเราสัตว์อสูรมาก” นูบิสถอนหายใจ

คนกลุ่มนั้นมาถึงที่คนทั้งสองอย่างรวดเร็ว พวกเขาหยุดอยู่ห่างออกไป 20 เมตร ในขณะที่ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความระมัดระวัง

พวกเขามีกันทั้งหมด 13 คน มีชายหนุ่ม 12 คนและหญิง 1 คน ชายหนุ่มมีรูปร่างลักษณะทั่วไป ในขณะที่หญิงนั้นดูหรูหราเล็กน้อย นางเผยกลิ่นอายที่สูงส่งออกมาและเห็นได้ชัดว่านางเป็นลูกสาวของเผ่าที่มั่งคั่งบางเผ่า

บางทีอาจจะเป็นเพราะตัวแปรบางอย่างที่พิเศษในสภาพแวดล้อมของทะเลนี้ที่ทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่ แต่ผิวหนังของพวกเขาไม่ได้เป็นสีขาว แทนที่กัน ผิวหนังของเขากลับเป็นสีเขียวซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีมาแต่กำเนิดที่จำแนกพวกเขาให้แตกต่างไปจากมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนทวีปเทียนหยวน

ในขณะที่เจี้ยนเฉินและนูบิสจ้องมองพวกเขา พวกเขาก็จ้องมองกลับมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ละสายตาไปจากเจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่นูบิสที่อยู่ในเสื้อสีทองที่มีผมยาวสีทอง

พวกเขาส่วนมากที่อยู่ใต้ทะเลจะมีผมสีฟ้า แม้ว่าส่วนน้อยจะมีผมสีอื่น ๆ แต่คนที่มีผมสีทองไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อน นูบิสดูเหมือนจะมีลักษณะที่เด่นออกมาท่านกลางผู้คนของเผ่าพันธุ์ทะเล

“ท่านนักรบที่เคารพ ข้าขออนุญาตถามจุดประสงค์ที่พวกท่านมาที่นี่ได้หรือไม่ ? ” หญิงที่ค่อนข้างดูดีถามอย่างอยากรู้ ในขณะที่สายตาของนางพิจารณาดูที่เจี้ยนเฉินและนูบิส

“พวกเราทั้งสองคนพักอยู่ที่นี่ ท่านต้องการสิ่งใดหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างเฉยเมย

“คุณหนู อย่าไปสนใจพวกเขาเลย พวกเราอยู่ไม่ไกลจากเมืองแจ๊สแล้วตอนนี้ สำหรับพวกเขาทั้งสองคนที่อยู่ในที่ว่างเปล่าแบบนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีเหรียญผลึกเพียงพอที่จะจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเมืองหรือไม่พอที่จะอาศัยอยู่ที่นั่น ด้วยฐานะที่สูงส่งของคุณหนู ท่านไม่จำเป็นต้องคุยกับคนชั้นต่ำเช่นนี้หรอก มันจะทำให้คุณหนูแปดเปื้อนเปล่า ๆ ” ชายหนุ่มที่ค่อนข้างดูดีพูดขึ้นมาจากด้านหลัง สายตาที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉินและนูบิสนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม เขาไม่รู้สึกถึงความแข็งแกร่งของพวกเจี้ยนเฉินเลย ดังนั้นเขาจึงมองพวกเจี้ยนเฉินเป็นคนธรรมดาในสายตา

“หุบปาก ไม่จำเป็นที่จะต้องหยาบคายเลย” คุณหนูตำหนิชายหนุ่มด้วยหน้าที่บึ้งเล็กน้อย หลังจากนั้น นางก็มองไปที่พวกเขาทั้งสองแล้วพูด “ท่านนักรบที่เคารพ ข้าถามได้ไหมว่าท่านมีดาวกี่ดวงกันในฐานะที่เป็นนักรบวิญญาณทะเล ? “

เจี้ยนเฉินและนูบิสมองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบคำถามนี้อย่างไรดี นี้เป็นครั้งแรกที่เขามาที่เผ่าพันธุ์ทะเลอาศัยอยู่ พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเผ่าพันธุ์ทะเลเลยแม้แต่น้อย พวกเขาไม่รู้ว่านักรบวิญญาณทะเลคืออะไร พวกเขามีกี่ดาวหรือมันคืออะไร ถ้าพวกเขาตอบผิด มันคงจะทำให้พวกนั้นสงสัย

เมื่อได้เห็นว่าพวกเขาทั้งสองไม่สามารถที่จะตอบคำถามได้ ชายหนุ่มจากด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พวกเจ้ายังไม่ได้เป็นนักรบวิญญาณทะเลใช่หรือไม่ ? “

“ไม่ พวกเรายังไม่ได้เป็นนักรบวิญญาณทะเล” เจี้ยนเฉินตอบกลับ

หลังจากที่ตอบไป ชายหนุ่มด้านหลังคุณหนูก็แสดงท่าทางดูถูกออกมา สายตาที่พวกเขามองไปที่พวกเจี้ยนเฉินนั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยามที่ปกปิดไว้ไม่มิด

ใบหน้าของคุณหนูเกิดความสงสัย เห็นได้ชัดว่านางไม่เชื่อที่เจี้ยนเฉินพูดมา นางมีพรสวรรค์และฝึกวิชาเปิดจิตโดยกำเนิดของวิชาของเผ่าใหญ่ทั้งแปดแห่งเผ่าพันธุ์ทะเล สัมผัสของนางนั้นเหนือเกินกว่าคนที่อยู่ในระดับเดียวกันและสามารถที่จะลักลอบดูได้เกือบทั้งหมดทุกสิ่ง ก่อนหน้านี้ที่นางผ่านมาที่อาณาเขตนี้ นางรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงคลื่นพลังที่ทรงพลังแค่แต่มันเป็นพลังงานที่คลุมเครือมาก ดังนั้น นางจึงรีบมาที่นี่และได้พบกับเจี้ยนเฉินและนูบิส อย่างไรก็ตาม วิชาเปิดจิตโดยกำเนิดของนางไม่สามารถมองผ่านเจี้ยนเฉินและนูบิสไปได้ นางรู้สึกได้ว่าทั้งสองคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นแน่นอน

คุณหนูลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะถามออกไป “นักรบที่เคารพ เมืองแจ๊สไม่ไกลจากที่นี่ อีกทั้งการประมูลครั้งใหญ่ที่จัดขึ้นทุก ๆ 100 ปีก็กำลังจะเริ่มในไม่ช้านี้ ทำไมพวกท่านนักรบทั้งสองไม่เข้าไปที่เมืองกับข้าล่ะ ? “

“เอาล่ะ พวกเราจะไปกับคุณหนู” เจี้ยนเฉินเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว

“เจี้ยนเฉิน ทำไมเจ้าถึงต้องการที่จะเข้าไปที่เมืองกับพวกเขาในตอนนี้ ? ” นูบิสส่งข้อความผ่านทางจิตใจในขณะที่เขารู้สึกสับสน

“คนของเผ่าพันธุ์ทะเลนั้นค่อนข้างพิเศษ ความสามารถทางด้านสัมผัสของพวกเขานั้นเหนือเกินกว่าความคาดหมายของข้าและพวกเขาก็พบการมีอยู่ของวัตถุเซียนเข้าแล้ว วัตถุเซียนไม่สามารถที่จะปกปิดพลังได้ทั้งหมด ดั้งนั้นเราจึงเอามันออกมาบ่อย ๆ ไม่ได้ ดังนั้นพวกเราจึงทำได้แต่ฝึกฝนด้านนอก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ทะเล การตามพวกเขาไปอย่างไม่สะกิดความสงสัยคงจะเป็นทางที่เร็วที่สุดและสะดวกที่สุดที่จะเรียนรู้”

“ใช่ ดูมีเหตุผล ข้ามีข้อมูลบางอย่างบันทึกอยู่ในความทรงจำทางสายเลือดของข้าเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ทะเล แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าข้อมูลมันนานขนาดไหนแล้ว เผ่าพันธุ์ทะเลต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากแน่เหมือนพวกนักรบวิญญาณทะเลอะไรเช่นนี้ ข้าไม่รู้เลยว่ามันคืออะไร”

หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองก็ตามหญิงผู้นั้นไปที่เมืองแจ๊ส พวกเขาปกปิดความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้โดยพวกเขาปกคลุมตัวพวกเขาเองไว้ด้วยชั้นของธาตุน้ำที่ไหลอย่างช้า ๆ ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นเซียนผู้คุมกฎ ดังนั้นการทำเช่นนี้ก็ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก

เมื่อพวกเขาแสดงความสามารถในการต่อสู้ มันก็ทำให้สายตาของคนอื่น ๆ เปลี่ยนไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ