เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 879

ตอนที่ 879: การปล้นกลางวันแสกแสก

เจี้ยนเฉินยืนอยู่พร้อมกับกระบี่ที่อยู่ในมือของเขา เขาไม่ได้ใช้พลังงานใดใดเพื่อลอยอยู่กลางอากาศ ในขณะที่ลมแรงปลิวไสว เสื้อของเขาก็พริ้วไสวอย่างอิสระไปกับสายลมในขณะที่ผมของเขาปลิวสยาย เขายืนอยู่เหมือนเทพเจ้าสงครามที่ไม่เคยพ่ายแพ้

หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือด เสื้อของเจี้ยนเฉินยังคงสภาพสมบูรณ์นอกเหนือจากรูที่ถูกซุ่มโจมตีในครั้งแรก

ในอีกด้านหนึ่งนั้น ผู้นำเผ่าคนก่อนอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เขากระเซอะกระเซิงและเต็มไปด้วยรอยฟันจากดาบและเสื้อของเขาถูกย้อมไปด้วยสีแดง เขาเต็มไปด้วยเลือดซึ่งน่ากลัวมาก

เขาหายใจหอบในขณะที่เขาลอยอยู่ระดับหนึ่งพันเมตร หอกยาว 5 เมตรห้อยตกลงมาอย่างไร้พลังไปที่พื้นเพราะว่าเขาไม่มีพลังพอที่จะยกมันขึ้นมา

ในการต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน เขาพบกับความพ่ายแพ้อย่างแสนสาหัสด้วยกำลังของเขาที่เป็นถึงเซียนผู้คุมกฏชั้นสวรรค์ที่ 8 นอกเหนือจากการซุ่มโจมตีของเขาในครั้งแรก เขาก็ก็ไม่สามารถเตะต้องได้แม้แต่เสื้อของเจี้ยนเฉินเลยและเขากลับตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เสียเอง

“ข้าขอขอบคุณท่านนักรบที่กรุณา ข้าขอถามได้ไหมว่าท่านคือใครและให้ข้าเรียกท่านว่ากระไรดี ? ” ผู้นำเผ่าคนก่อนคำรามออกมา เสียงของเขาค่อนข้างอ่อนแอ เขารู้ดีว่าเจี้ยนเฉินมีโอกาสนับไม่ถ้วนในการที่จะฆ่าเขาก่อนหน้านี้ นี่เป็นเพราะการโจมตีของขาถูกสกัดไว้ได้โดยเจี้ยนเฉินทั้งหมด การโจมตีด้วยกระบี่ของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วมากถึงขั้นที่น่าเหลือเชื่อ

“ข้าไม่ได้อยู่ในองค์กรไหน ! ข้าคือหยางยู่เทียน ! ” เจี้ยนเฉินตอบอย่างสงบ

“ยังไงก็เถอะ เมื่อเผ่าแห่งความกล้ามีนักรบที่แข็งแกร่งที่คอยช่วยเหลืออยู่ พวกเราเผ่าเมิ่งหวงจะถอยกลับและ ตามกฎของอาณาจักรทะเล เผ่าเมิ่งหวงของข้าจะไม่สามารถมายุ่งที่เผ่าแห่งความกล้าได้ในอีกร้อยปีถัดไป” ผู้นำเผ่าคนก่อนพูดคอตก แม้ว่าเขาไม่ปรารถนาที่จะยอมแพ้ในการโจมตีของเขา เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เผ่าของเขามีเยิ่นเซินที่เป็นทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษแต่ศาลาทั้งสามยังไม่ยุ่งกับการต่อสู้เหนืออาณาเขตตัวเอง

เยิ่นเซินนำเกียรติยศมาให้แก่เผ่าเมิ่งหวงและยกสถานะของเผ่าขึ้น พวกเขาไม่สามารถใช้ความสัมพันธ์ของเขากับศาลาเทพเจ้าอสรพิษในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเผ่าของตัวเองได้

การต่อสู้ของเจี้ยนเฉินถึงบทสรุปแล้วแต่การต่อสู้ของนูบิสนั้นยังไม่จบลง ทูตที่เป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 8 สามคนและชั้นสวรรค์ที่ 9 หนึ่งคนได้เข้าร่วมการต่อสู้อย่างดุเดือดกับนูบิส ทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกัน เสียงระเบิดดังสนั่นก็ดังขึ้นมา ในขณะที่พลังงานรุนแรงที่หลงเหลืออยู่ก็สร้างความปั่นป่วนให้กับบริเวณโดยรอบ มันทำให้มิติสั่นไหวและพื้นดินแตกระแหง

“เจ้าหนูทั้งสี่นี่ก็ไม่ได้กระจอกเลยแต่แย่จังที่ความแข็งแกร่งของพวกเจ้าในการต่อสู้ยังไม่เพียงพอ ข้าสามารถสู้คนอย่างพวกเจ้าได้ถึง 10 คนพร้อม ๆ กันเลย” นูบิสพูดในขณะที่สู้ไปด้วย เขาสู้พวกนั้นได้อย่างง่ายดายและมีทักษะมากแม้ว่าพวกนั้นจะมีถึง 4 คน แม้แต่เซียนราชายังยากที่จะกดดันนูบิสได้ในทุกวันนี้

“ข้าจะไม่ทำเป็นเล่นอีกแล้ว เผื่อมีใครมาว่าข้าทำให้เสียเวลาอีกครั้ง” นูบิสพูดพร้อมหัวเราะ การโจมตีของเขาจู่ ๆ ก็ดุร้ายขึ้น เขาหลบการโจมตีและแทงมือทั้งสองของเขาเข้าไปที่หน้าอกของทูต 2 คน เขาแทงมือเข้าไปก่อนที่จะเตะเข้าไปที่หัวของเยิ่นเซินด้วยความเร็วดุจสายฟ้า มันสั่นสะเทือนไปถึงวิญญาณดั้งเดิมของเขาและกระแทกเขากระเด็นออกไปทันที

ในพริบตาเดียว ทูตสามในสี่คนสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป

คนสุดท้ายเป็นถึงชั้นสวรรค์ที่ 9 และมีชื่อว่าต้าไห่ เขาอดไม่ได้ที่จะมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงออกมาแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถอยกลับ แทนที่กัน เขาชักหอกสามง่ามของเขาออกมาและแทงไปที่นูบิสด้วยกำลังทั้งหมดที่มีของเขา

นูบิสโจมตีออกไปด้วยนิ้วและแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากปลายนิ้ว มันกระแทกเข้ากับหอกสามง่ามอย่างรุนแรง จากนั้นนูบิสก็เตะไปที่หน้าอกของต้าไห่ในขณะที่เขาใช้ความได้เปรียบจากสถานการณ์ นูบิสใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาในการเตะครั้งนี้ ต้าไห่กระเด็นออกไปไกลพร้อมทั้งกระอักเลือดออกมาในขณะที่กระดูกใกล้บริเวณเท้าของเขาที่กระทบกับพื้นนั้นแตกละเอียด อวัยวะของเขาได้รับบาดเจ็บและเริ่มที่จะปริแตก มันทำให้เลือดของเขาออกมาทางทวารทั้งเจ็ด

ทูตทั้งสี่คนถูกกระแทกกระเด็นลงไปที่พื้นโดยนูบิส หนึ่งในนั้นเป็นลมไป ในขณะที่ที่เหลืออีก 3 คนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและใบหน้าซีดเผือด

นูบิสลดระดับลงจากท้องฟ้าและส่งยิ้มไปที่ทูตทั้งสาม เขาเยาะเย้ยไปที่พวกนั้นแล้วพูด “เป็นยังไงบ้าง เจ้าพวกทูตผู้ยิ่งใหญ่ ? รู้สึกยังไงที่โดนอัดจนน่วมแบบนี้ ? มันต้องแปลกมากแน่ ๆ บอกข้ามาสิ ใครจะลงโทษใครกันแน่ ? “

“เจ้ากล้าที่จะทำให้ทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษบาดเจ็บงั้นหรือ มันไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าเป็นใคร เจ้าเหลือเวลามีชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้ว….”

“ผู้อาวุโสประจำศาลาจะมาแก้แค้นให้พวกเราแน่ พวกเขาจะต้องกำจัดวิญญาณของเจ้าไปคนหมด ศาลาจะไม่ยอมให้ใครมายุ่มย่ามกับทูตประจำศาลา”

คนทั้งสองที่อยู่ติดกับเยิ่นเซินก่อนหน้านี้มองไปที่นูบิสและขบฟัน โทสะเผาไหม้อยู่ในตาของพวกเขา ในฐานะที่เป็นทูตของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ พวกเขาเชื่อว่าพวกเขานั้นเหนือกว่าคนอื่น ๆ พวกเขาไม่อาจยอมรับได้ว่ามีคนปฏิบัติกับพวกเขาแบบนี้ นี่เป็นการเยาะเย้ยพวกเขาอย่างรุนแรง

นูบิสโกรธขึ้นมา สายตาของเขาเป็นประกายเย็นชาในขณะที่จิตสังหารที่เคร่งเครียดปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา “เฮ้ กล้ามากที่พูดว่าข้าจะถูกกำจัดวิญญาณไป เมื่อเป็นแบบนั้น ทำไมพวกข้าไม่ให้พวกเจ้าได้สัมผัสถึงสิ่งนั้นก่อนล่ะ ? “

“ช่างยโสโอหังนัก ข้าอยากรู้ว่าเจ้าจะกล้าฆ่าทูตประจำศาลาอย่างนั้นหรือ” หนึ่งในนั้นกล่าววาจาข่มขู่ออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ