เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 882

ตอนที่ 882: การโจมตีจากจอมยุทธ

“ยังไงก็ตาม เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไรเมื่อข้าติดตามเจ้าแล้ว ? ” ซี่หวังถาม

“พวกเราจะตัดสินใจเรื่องนี้ที่หลัง พวกเราต้องการที่จะเข้าไปฝึกฝนในช่วงเวลานี้ ดังนั้น ให้เจ้าไปตั้งหลักห่างออกไป 10 กิโลเมตรและป้องกันไม่ให้ใครมาเข้าใกล้พวกเรา คุ้มกันพวกเรา” เจี้ยนเฉินพูด

ซี่หวังพยักหน้า “เอาล่ะ ข้าจะทำแบบนั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่กลับคำหรอกนะ เจ้าต้องให้น้ำศักดิ์สิทธิ์ข้าในอีก 50 ปี” ซี่หวังหันหลังและจากไป เขาขุดถ้ำของเขาเพื่อพัก

“เจี้ยนเฉิน ทำไมเจ้าให้เขาติดตามพวกเราล่ะ? เขาค่อนข้างแข็งแกร่งแต่เขาคงช่วยพวกเราได้ไม่มาก และเจ้าจะสามารถเอาน้ำศักดิ์สิทธิ์มาได้อีกภายในอีก 50 ปีจริง ๆ หรือ ? ” นูบิสถามอย่างสงสัยหลังจากซี่หวังจากไป เขารู้สึกสับสนมากกับสิ่งที่เจี้ยนเฉินทำไป

เจี้ยนเฉินเงยหัวขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะและนอนลงในขณะที่เขาต้องมองไปที่ท้องฟ้าสีฟ้าเข้ม “พวกเรามีชิ้นส่วนแผนที่แผ่นดินทั้งแปดอยู่ ดังนั้นพวกเราจึงมีสิทธิ์ที่จะเข้าไปที่โถงศักดิ์ของแผ่นดินทั้งแปดได้ จากพวกจอมยุทธที่ต่อสู้แย่งชิ้นส่วนกัน ข้าได้ยินมาว่า เฉพาะคนที่ต่ำกว่าเซียนราชาเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ ซี่หวังอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 9 และเขาก็ไม่ได้อ่อนเลย มีคนไม่มากหรอกที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ในระดับเดียวกัน เมื่อพวกเราเข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ เขาน่าจะเป็นประโยชน์กับพวกเรามาก”

“อะไรนะ ? เฉพาะคนที่ต่ำกว่าเซียนราชาเท่านั้นที่จะเข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ได้ ? นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะพัฒนาการไม่ได้อย่างนั้นหรือ ? ” นูบิสตกใจ

“ใช่ ก่อนที่พวกเราจะเข้าไป พวกเราไม่สามารถพัฒนาการได้ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเจ้าถึงต้องจำกัดการเติบโตของเจ้าไว้เมื่อเจ้าฝึกฝน”

“บ้าเอ้ย เมื่อข้าไม่สามารถพัฒนาการได้ ถ้างั้นก็จะไม่ทำ แต่ข้ายังสามารถดูดซับแกนลับจากงูแก่นั่นได้บ้าง มันจะทำให้ข้าถึงในระดับที่ห่างอีกเพียงนิดเดียวจากการพัฒนาการ มันจะทำให้การพัฒนาการเป็นเรื่องง่ายขึ้นในอนาคต เอาล่ะถ้างั้น ข้าจะไปฝึกต่อล่ะ” นูบิสออกไปจากถ้ำ

หลังจากนั้นไม่นาน เจี้ยนเฉินก็กลับไปทำสมาธิฝึกฝน เขาเริ่มที่จะสกัดแกนสัตว์อสูรในวัตถุเซียนด้วยความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณกระบี่

ในตอนนี้ ปราณบรรพกาลของเขามีขนาดเท่าไข่ของนกพิราบเท่านั้น เขายังมีหนทางอีกยาวไกลรออยู่ข้างหน้าก่อนที่เขาจะถึงร่างบรรพกาลขั้นที่ 3 เขาจำเป็นต้องไปถึงจุดสูงสุดของขั้นที่ 2 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“นายท่าน ท่านน่าจะสามารถดูดพลังงานจากหินเซียนหยินหยางได้เมื่อท่านถึงขั้นที่ 5 แล้ว” จือหยิงพูด เสียงของเขามีแววรีบเร่ง

“จือหยิง ข้าจะสำเร็จถึงขั้นที่เท่าไรหลังจากที่ข้าดูดซับพลังงานทั้งหมดไปแล้ว ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างอยากรู้

“ร่างบรรพกาลของนายท่านน่าจะไปถึงขั้นที่ 7 หรือ 8 หรืออาจจะถึงแม้แต่ขั้นที่ 9 หลังจากที่นายท่านดูดซับพลังงานทั้งหมดจากหินไปแล้ว” จือหยิงตอบกลับหลังจากคิดเล็กน้อย เขาไม่ค่อยมั่นใจ

หัวใจของเจี้ยนเฉินเริ่มเต้นอย่างควบคุมไม่ได้หลังจากที่เขาได้ยินอย่างนั้น ความรู้สึกเร่งรีบปะทุขึ้นในหัวใจของเขา และล่อใจให้เขาพยายามที่จะไปถึงขั้นที่ 9 เสียซะตอนนี้เลย

“ความแข็งแกร่งระดับไหนที่ข้าจะได้หลังจากที่ดูดซับพลังไปทั้งหมดแล้วนะ ? ข้าจะเป็นเซียนราชาหรือเปล่า ? หรือเหนือไปกว่านั้นนะ ? “

“ถ้าข้าได้รับความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าเซียนราชา ข้าจะทำเหมือนโมเทียนหยุนและมุ่งไปยังโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ข้าจะสร้างความวุ่นวายที่นั่นและสร้างแม่น้ำโลหิตจากการสังหารของข้า ข้าจะทำมัน ทำให้พวกเขาจะไม่มีความสามารถที่จะมาคุกคามทวีปเทียนหยวนอีกต่อไป”

เจี้ยนเฉินคิดในขณะที่เขากำหมัดของเขา

ไม่กี่วันต่อมา เสียงร้องอย่างโกรธเกรี้ยวก็ดังออกมาจากโถงใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยตัวอยู่ร้อยเมตรเหนืออากาศในที่ที่อยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินออกไปหลายหมื่นกิโลเมตร

“เจ้าพวกสวะ พวกเจ้ามันสวะ พวกเจ้ามันเป็นสวะไร้ความสามารถจริง ๆ เจ้าไม่สามารถหาของมาได้แม้ว่ามีพวกเจ้าเพิ่มถึง 2 คน ! ” ชาลีคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

ทูตทั้งสี่สั่นเทาในขณะที่คุกเข่าอยู่ต่อหน้าชาลี ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดพวา พวกเขาใช้เวลาหลายวันด้านนอกแต่ก็ยังหาตัวเจี้ยนเฉินและนูบิสไม่พบ ทั้งหมดที่พวกเขาทำได้ทีเพียงกลับมาที่ศาลาและรายงานเรื่องนี้กับผู้อาวุโสประจำศาลา

“รอความตายได้เลยถ้าท่านเจ้าศาลาออกมาจากการทำสมาธิ ถ้าเจ้าเอามันกลับมาไม่ได้ เจ้าพวกสวะ เจ้าทำภารกิจง่าย ๆ แบบนี้พังได้อย่างไร ? ” ชาลีเดินไปรอบ ๆ โถงอย่างโกรธเกรี้ยว เขากังวลเป็นอย่างมาก

“ชาลี สิ่งนั้นมีพลังที่เป็นเองลักษณ์ของตัวเองและมันถูกตีขึ้นมาด้วยเซียนจักรพรรดิสามสิบปีก่อน มันมีพลังของเซียนจักรพรรดิอยู่ พลังนั้นน่าจะเป็นพลังแบบเดียวกันกับพลังของโถงศักดิ์สิทธิ์ ทำไมพวกเราไม่ใช้วิชากระจกวารีด้วยกันแล้วมาดูกันว่าเราจะหาที่ที่มันอยู่ได้ไหมโดยยืมพลังจากศาลามาใช้ ? ” อาจารย์ของเยิ่นเซินพูด

“เอาล่ะ นั่นเป็นทั้งหมดที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ ข้าหวังว่าท่านเจ้าศาลาจะไม่โกรธที่เรายืมพลังของศาลามาใช้หรอกนะ” ชาลีพยักหน้าก่อนที่จะหันไปทางทูตทั้งสี่ “ทำไมพวกเจ้าทั้งสี่ไม่รีบไสหัวไปซะล่ะ ? “

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ