เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 933

ตอนที่ 933: การต่อสู้ของวิญญาณ

ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดแดงยืนอยู่ตรงหน้าเจี้ยนเฉินในทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างป่าเถื่อนเมื่อได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน ตาสีแดงของเขาเย็นชาและเต็มไปด้วยความดุร้ายและกระหายเลือด

“ข้าไม่ได้อ่อนแอเหมือนเจ้าจักรพรรดิแผ่นดินทั้งแปดนั่น วิญญาณของมันถูดข้ากลืนกินไปนานแล้ว นอกเหนือจากมัน ข้ายังกลืนกินวิญญาณของจักรพรรดิซามิคไปอีกด้วย วันนี้ เจ้าจะเป็นคนที่สามที่ข้าจะกลืนกินและข้าจะเอาร่างกายของเจ้าไปหลังจากนั้น เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าได้รับเกียรติเพียงใด ? เจ้าหนู อย่าต่อต้าน การต่อต้านใดใดต่อหน้าข้าล้วนไร้ค่า แค่ปล่อยใจตามสบายและกลายเป็นส่วนหนึ่งกับข้า” ชายหนุ่มเย้ยออกมา

“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจักรพรรดิเลือดปีศาจที่น่าจะตายไปแล้วเมื่อหลายหมื่นปีก่อนจะยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนั้น เขายังได้กลืนกินวิญญาณของสองจักรพรรดิเข้าไปอีก” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดครึ้ม เขาเข้าใจในตัวตนของชายหนุ่มแล้วในตอนนี้

เขาคือจักรพรรดิเลือดปีศาจ เซียนจักรพรรดิที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากเจ้าศาลาทั้งสาม ในการแลกเปลี่ยนกัน เขาได้เอาชีวิตของเจ้าศาลาวิญญาณสวรรค์ไปเมื่อหลายหมื่นปีก่อนหน้านี้

“จักรพรรดิเลือดปีศาจ เจ้าแข็งแกร่งมากก็จริงแต่เจ้าก็เป็นแค่วิญญาณ เจ้าอาจจะยังไม่สามารถรับมือได้แม้แต่จอมยุทธ 16 ดาวในร่างวิญญาณตอนนี้ ดั้งนั้น ทั้งหมดที่เจ้าจะทำได้ก็คือเอาร่างกายจากคนแบบข้าไป แต่เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำสำเร็จงั้นหรือ?” เจี้ยนเฉินตอบกลับอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกัน ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเขาก็เริ่มที่จะบิดเบี้ยว วิญญาณที่เหนือกว่าของเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ได้ปรากฏตัวออกมา นี่เป็นวิญญาณของเจี้ยนเฉิน

“วิญญาณของเจ้าแข็งแกร่งจริง ๆ แต่มันก็ไม่สามารถทำอันตรายกับข้าได้หรอก มา อย่าต่อต้านเลย หลอมรวมกับข้า จักรพรรดิเลือดปีศาจที่ยิ่งใหญ่ เจ้าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งกับข้า หลังจากเรื่องนี้จบแล้ว ในไม่ช้าชื่อของเจ้าก็จะกระฉ่อนไปทั่วอาณาจักรทะเล เจ้าจะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่าพันธุ์ทะเลและเจ้าจะกลายเป็นคนที่ทุกคนให้ความเคารพและหวาดกลัว คิดว่ามันยอดเยี่ยมเพียงใด ตราบที่เจ้าหลอมรวมกับข้า เจ้าจะได้ยินดีกับความรุ่งโรจน์ที่สุดยอดนี้”

ชั้นบาง ๆ ของพลังหยินที่ชั่วร้ายได้เติมเต็มไปทั่วทะเลแห่งสติสัมปชัญญะ ในขณะที่เขาพูดชักจูงเพื่อที่พยายามจะทำให้จิตใจและความคิดของเจี้ยนเฉินได้รับผลกระทบตามลำดับ เพื่อให้เป้าหมายของเขาสำเร็จ

จักรพรรดิเลือดปีศาจตระหนักถึงความเหนือธรรมดาของเจี้ยนเฉินมาสักพักแล้ว ไม่เพียงแต่วิญญาณของเขาจะเหนือกว่าเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ทั่วไป แต่จักรพรรดิยังรู้สึกได้ถึงพลังงานที่ยิ่งใหญ่มากสองพลังในทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเขา เขารู้สึกถูกคุกคามจากพลังนี้ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้พูดอะไรมากมายกับเจี้ยนเฉิน

ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินเริ่มที่จะสั่นไหวเบา ๆ เจี้ยนเฉินไม่สามารถเอาชนะพลังหยินที่ชั่วร้ายได้ ทั้งหมดที่เขาทำได้มีเพียงต่อต้านมันเท่านั้น พลังหยินที่ชั่วร้ายได้เริ่มที่จะมีผลกระทบกับวิญญาณของเขา

“เจ้าคิดว่ามันง่ายที่จะหลอกข้าเหมือนเด็กสามขวบอย่างนั้นหรือ ? เจ้าฝันไปเถอะถ้าเจ้าต้องการที่จะกลืนกินวิญญาณของข้าและเอาร่างกายของข้าไป ข้าไม่ปล่อยให้เจ้าทำตามใจชอบแน่” เจี้ยนเฉินดุด่าออกมาอย่างไม่ปราณี

จักรพรรดิเลือดปีศาจโกรธเกรี้ยวในขณะที่จิตสังหารพุ่งพวยอยู่ในตาของเขา เขาไม่อดทนในการที่จะพยายามโน้มน้าวเจี้ยนเฉินอีกต่อไปแล้ว “ข้าจะให้โอกาสกับเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะให้ข้ากลืนกินวิญญาณของเจ้าดีดีหรือเจ้าจะให้ข้าหลอมรวมวิญญาณของเจ้าไปเลย ? “

“มันจะต่างกันยังไง ? สุดท้ายข้าก็ต้องตาย แต่เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเจ้ามีพลังพอที่จะกลืนกินวิญญาณของข้า ? ” ร่องรอยดูถูกเหยียดหยามปรากฏขึ้นที่มุมปากของเจี้ยนเฉิน เขาหลอมรวมกับจิตวิญญาณกระบี่มานานแล้ว นี่หมายความว่า ถ้าจักรพรรดิเลือดปีศาจต้องการที่จะกลืนกินวิญญาณของเขา มันเท่ากับว่าเขาต้องการจะกลืนกินจิตวิญญาณกระบี่ไปด้วย จิตวิญญาณกระบี่ม่วงฟ้าอาจจะยังอ่อนแอในตอนนี้ แต่พวกเขายังเป็นจิตวิญญาณกระบี่ของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ในอดีต แม้แต่ตอนที่กระบี่ม่วงฟ้าแตกสลายไป พวกเขาก็ไม่ตาย ดังนั้นพวกเขาจะถูกกลืนกินไปโดยจักรพรรดิเลือดปีศาจอ่อนแอผู้นี้ไปได้อย่างไร ?

เจี้ยนเฉินก็ตระหนักดีด้วยว่าวิญญาณของจักรพรรดิเลือดปีศาจนั้นยังอ่อนแออยู่ มันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนที่เขาจินตนาการเอาไว้ คนที่วิญญาณสามารถที่จะจัดการได้อย่างง่ายดายคือเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 เหมือนไทนิช

“แม้ว่าผลลัพธ์ออกมาจะทำให้วิญญาณของข้าได้รับความเสียหายอย่างมาก แต่ข้าก็จะเอาร่างกายของเจ้ามาให้ได้ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมร่วมมือ ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้าจะป้องกันปราณสังหารได้อย่างไร” เขาหายไปในทันใดและเปลี่ยนเป็นหมอกโลหิต ในขณะที่เขาขยายตัวออกไปอย่างต่อเนื่องในทะเลสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินเผยท่าทีทรมานออกมา ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเขาเริ่มที่จะสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนกับว่ามีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่

ปราณสังหารของจักรพรรดิเลือดปีศาจนั้นพัฒนามาจากพลังหยินที่ชั่วร้าย ไม่เพียงแต่มันจะมีความสามารถแบบเดียวกันเท่านั้น แต่มันยังทรงพลังกว่ามาก ปราณสังหารของเขาค่อยค่อยกลืนกินวิญญาณของเจี้ยนเฉินไปทีละเล็กทีละน้อย

แสงสีทองจู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาในตอนนี้และเติมเต็มไปทั่วทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน ในตอนนี้หอคอยสีทองขยายขึ้นมาในส่วนลึกของทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเขา มันสูงขึ้นหลายพันเมตรในพริบตา

หอคอยเหมือนสมอ และทำให้ทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉินอยู่ตัวด้วยการปรากฎตัวขึ้นมาของหอคอย ปราณสังหารของจักรพรรดิเลือดปีศาจไม่สามารถที่จะทำอันตรายให้กับเจี้ยนเฉินได้อีกต่อไป

“สิ่งนี้มันคืออะไรกัน ? มันสามารถป้องกันปราณสังหารของข้าได้” เสียงประหลาดใจของจักรพรรดิเลือดปีศาจดังขึ้นมาในทะเลแห่งสติสัมปชัญญะของเจี้ยนเฉิน จักรพรรดิเลือดปีศาจเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

แสงสีทองครอบคลุมไปทั่วทั้งบริเวณและต่อต้านการโจมตีจากปราณสังหาร จากนั้นมันก็เริ่มรวมตัวกันอย่างรวกเร็วและบังคับให้ปราณสังหารไปรวมตัวอยู่ที่บริเวณหนึ่งของทะเลแห่งสติสัมปชัญญะ ก่อนที่มันจะถูกบังคับให้กลับกลายเป็นรูปร่างของชายหนุ่มอีกครั้ง