เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 973

ตอนที่ 973: ต่อต้านตระกูลผู้พิทักษ์ (3)

ฝ่ามือของยิหยางซีที่โจมตีออกไปได้ทำให้มิติด้านหน้าของเขาพังทลายลงทันที ฝ่ามือที่กว้างครึ่งเมตรควบแน่นขึ้นมาและพุ่งไปทางเจี้ยนเฉินเหมือนภาพติดตา

เจี้ยนเฉินเคร่งเครียดมาก พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลได้พันธนาการเขาเอาไว้แน่น มันไม่ได้มาจากยิหยางซี แต่มันมาจากการโจมตีธรรมดาของเขา

เจี้ยนเฉินคิดถึงความพ่ายแพ้แวบเข้ามาในหัวของเขาเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยฝ่ามือที่หนาแน่นไปด้วยพลังงานนี้ มันเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ ไม่ว่าเขาจะหลบหรือซ่อนที่ไหนก็ตาม

หัวใจของเจี้ยนเฉินสั่นไหวและเขาก็จับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เขายกอาวุธขึ้นสูงและเหวี่ยงออกไปหลายครั้งให้แรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ในตอนนี้ ปราณกระบี่ที่ทรงพลังหลายอันพุ่งผ่านท้องฟ้าและพุ่งไปทางการโจมตีด้วยฝ่ามือของยิหยางซีในตอนนี้

การโจมตีของยิหยางซีมีพลังที่เหนือจินตนาการ เมื่อปราณกระบี่ปะทะกับฝ่ามือ ปราณกระบี่ทั้งหมดก็สลายไปในขณะที่ฝ่ามือยังคงพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความเร็วเท่าเดิม มันไม่ได้อ่อนกำลังลงเลยหลังจากที่ผ่านปราณกระบี่ทั้งหมดมา

ปัง ! ฝ่ามือที่เต็มไปด้วยพลังงานกระแทกเข้าไปที่เจี้ยนเฉินอย่างไม่ปราณี ฝ่ามือทะลุผ่านร่างบรรพกาลของเขาทันที และแม้แต่เกราะไหมบรรพกาลยังป้องกันอะไรไม่ได้เลย หน้าอกของเขายุบเข้าไปลึกและซี่โครงของเขาทั้งหมดแหลก

เจี้ยนเฉินกระอักแล้วเลือดก็ออกมาจากมุมปากของเขา เขาลอยถอยหลังไป และหยุดหลังจากที่ลอยไปหลายกิโลเมตร

เจี้ยนเฉินตกตะลึง ยิหยางซีทรงพลังมากกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก แค่การโจมตีด้วยฝ่ามือธรรมดาก็ยังทรงพลังขนาดนี้ แม้ว่ามันจะถูกกระบี่ลดทอนกำลังไปด้วยก็ตาม เจี้ยนเฉินรู้สึกตกตะลึงเป็นที่สุด

ในตอนนี้เอง ผู้อาวุโสที่เหลือของนิกายยิหยวนได้ออกมาพร้อมกับกลุ่มเซียนผู้คุมกฎจากประตูมิติ พวกเขาทั้งหมดตกใจเมื่อได้เห็นยิหยางซีที่กำลังถือวิญญาณของหลงหยวนซีเอาไว้ แต่ความโกรธก็เข้ามาแทนที่ความประหลาดใจของพวกเขา

“หลิงหยวนซีถูกเจ้าทำให้บาดเจ็บ เจ้าเป็นใครกัน ? เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ ? เจ้ากล้าดียังไงที่ทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายยิหยวนของพวกเราบาดเจ็บ ! ” ผู้นำของผู้อาวุโสตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยวไปที่เจี้ยนเฉิน เสียงของเขาเต็มไปด้วยความสง่างาม

“ขะ ขะ เขาคือเจี้ยนเฉินที่พวกเรากำลังตามหา เขากลับมาพร้อมกับพยัคฆ์ปีกเทวะ” วิญญาณของหลิงหยวนซีพูดออกมา เสียงของเขาอ่อนแอมาก

“อะไรนะ ! เขาคือเจี้ยนเฉินงั้นหรือ ! ? ” ทุกคนตกใจจากคำพูดของหลิงหยวนซี พวกเขาทั้งหมดมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเหลือเชื่อ

“เป็นไปได้ไงกัน ? เห็นได้ชัดว่าเจี้ยนเฉินเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎ แต่คที่อยู่ตรงหน้าพวกเรานี้เป็นเซียนราชา เขาไม่ใช่เจี้ยนเฉินแน่ หลิงหยวนซี เจ้าจำเขาสลับกับคนอื่นหรือไม่ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อ เขาปฏิเสธที่จะเชื่อว่ามีเป็นคนที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 ได้ในเวลาแต่ไม่กี่ปี

“นี่เป็นเขาแน่ ไม่ผิดหรอก มันเป็นเขาที่ใช้ทักษะเทพจุติเมื่อหลายปีก่อนและทำให้วิญญาณของข้าได้รับบาดเจ็บหนัก ต่อให้ข้ากลายเป็นเถ้าถ่าน แต่ข้าก็ยังจำเขาได้ ดูซิ สัตวฺอสูรตัวน้อยที่อยู่บนไหล่ของเขาคือพยัคฆ์ปีกเทวะ” หลิงหยวนซีพูด

ทั้งหมดพุ่งความสนใจไปที่เสือขาวที่อยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉิน เสือขาวยังยืนทรงตัวอยู่ตรงนั้นในขณะที่มันจ้องกลับไปที่พวกเขาด้วยดวงตาที่สุกใส ขนของมันยุ่งจากคลื่นพลังที่รุนแรงที่เหลืออยู่ แต่มันก็ไม่เป็นอันตรายอะไร

เจี้ยนเฉินหมุนเวียนพลังบรรพกาลที่อยู่ในร่างของเขาอย่างเงียบ ๆ อัตราของการฟื้นฟูที่แตกต่างของพลังบรรพกาลเริ่มเห็นผลในตอนนี้ และทำให้แผลที่หน้าอกของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว กระดูกที่แตกละเอียดของเขาเริ่มที่จะเกิดขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างเย็นชาเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าทุกคนกำลังมองไปที่เสือขาว

สักพักต่อมา สายตาของยิหยวนซีก็เป็นประกาย เขาได้ยืนยันตัวตนของเสือขาวแล้ว และตาของเขาก็ลุกโชนไปด้วยความโลภ “ข้ารู้สึกถึงความกดดันจากมันได้ มันเป็นพยัคฆ์ปีกเทวะจริงจริง ไม่ผิดแน่”

จอมยุทธจากนิกายยิหยวนทั้งหมดยินดี ทั้งหมดมองไปที่เสือขาวด้วยความโลภ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่สัตว์อสูร แต่มันเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้

“ยอดเยี่ยมไปเลย ข้าไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นพวกเราที่พบพยัคฆปีกเทวะก่อน พยัคฆ์ปีกเทวะจะเป็นของพวกเรานิกายยิหยวนในตอนนี้ เจี้ยนเฉิน เจ้าอาจจะมียุทธภัณฑ์จักรพรรดิ แต่เจ้าก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเรา ส่งพยัคฆ์ปีกเทวะมาซะดีดี อย่าทำให้เราต้องใช้กำลังกับเจ้า” ผู้อาวุโสสูงสุดหัวเราะออกมาเสียงดัง เหมือนกับว่าพยัคฆ์ปีกเทวะเป็นของกลุ่มพวกเขาแล้ว

ท่าทางเหยียดหยามปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเจี้ยนเฉิน เขาชี้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไปทางผู้อาวุโสสูงสุดคนที่พูด และพูดยั่วยุกลับไป “ถ้าเจ้าต้องการพยัคฆ์ปีกเทวะ ก็เข้ามา แต่เจ้าอาจจะไม่มีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้นนะ”

“เจ้าหนูจอมโอหัง ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดโกรธขึ้นมาและพุ่งเข้าไปที่เจี้ยนเฉินที่ท้าทายเพื่อที่จะสู้กับเขา อย่างไรก็ตาม ยิหยางซีก็หยุดเขาเอาไว้

ยิหยางซีก้าวออกมาช้า ๆ ในขณะที่เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างสงบ “หลิงเฟิงซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาหรอก เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พวกเราต้องเอามันมาให้ได้ก่อนที่ตระกูลผู้พิทักษ์อื่นจะมาถึง พวกเราจะมาเสียเวลาไม่ได้ ให้ข้าจัดการเอง” ยิหยางซีก้าวออกไปทันทีที่เขาพูดจบและมิติให้เท้าเขาก็กระเพื่อม เขาหายไปทันที เมื่อเขาปรากฏขึ้นอีกที เขาก็อยู่ห่างจากเจี้ยนเฉิน 10 กิโลเมตร เขาก็ยื่นแขนไปที่เสือขาวที่อยู่บนไหล่ของเจี้ยนเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ