เทพกระบี่มรณะ นิยาย บท 988

ตอนที่ 988: ตัวตนของเถี่ยต้า

เจี้ยนเฉินยากที่จะสงบใจไว้ได้แม้ว่าจะผ่านไปนานแล้วที่มารราคะจากไป จิตใจของเขาหนักอึ้งและแม้แต่ใบหน้าของเขาก็ยังจืดชืด

เขาไม่คิดเลยว่ามารราคะจะแอบตามเขามาที่เมืองทหารรับจ้าง ถ้าไม่ใช่เพราะเสี่ยวหลิง บางทีอาจจะไม่มีใครรู้เลยว่ามารราคะได้ลอบติดตามเขาอยู่

“ดูเหมือนเซียนจักรพรรดิมนุษย์จะยังไม่ยอมเลิกเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะ” รุยจินคำรามออกมา เขาเข้าใจทันทีว่าเจี้ยนเฉินกำลังกังวลอะไรเมื่อเขาเห็นความเคร่งเครียดของเจี้ยนเฉิน ดังนั้น เขาจึงปลอบเจี้ยนเฉิน “น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าอย่ากังวลไปเลย ตรายที่พวกเราทั้งสองยังอยู่ที่นี่ เซียนจักรพรรดิมนุษย์ก็ไม่สามารถทำอันตรายเจ้าได้”

“น้องเจี้ยนเฉิน พวกเราทั้งสองจะป้องกันเจ้าเองถ้ามันกล้าโจมตีเจ้าอีก อย่ากังวลไปเลย” เฮยยู่ก็ปลอบด้วย

หัวใจของเจี้ยนเฉินอบอุ่นขึ้นเมื่อเขาได้ยินทั้งสองพูดออกมาและตอบกลับอย่างสุภาพ

หลังจากนั้น รุยจินและเฮยยู่ก็มองไปที่ม่านพลังใหญ่ที่บนท้องฟ้า ความเครียดและความสงสัยเต็มไปทั่วใบหน้าของพวกเขา พวกเขายากที่จะเชื่อว่าม่านพลังป้องกันเมืองทหารรับจ้างนั้นทรงพลังเพียงใดเมื่อพวกเขาเพิ่งเห็นมากับตา แค่การโจมตีธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำให้เซียนจักรพรรดิกลัวได้

จากนั้นเสี่ยวหลิงก็มองไปที่รุยจินและเฮยยู่หลังจากที่ไล่มารราคะไปแล้ว นางพูดหลังจากที่คิด “พวกเจ้าทั้งสองเป็นสัตว์อสูร นายท่านบอกว่าจะไม่ให้สัตว์อสูรที่มากกว่าระดับ 7 เข้ามา แต่ในเมื่อเขาเป็นสหายของพี่ใหญ่ เสี่ยวหลิงจะไม่ไล่ทั้งสองคนนี้ไป อย่างไรก็ตาม อย่าสร้างปัญหาที่นี่นะ”

แม้ว่ารุยจินและเฮยยู่จะไม่เห็นเสี่ยวหลิง พวกเขาก็ได้ยินเสียงชัดเจน ท่าทางของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันทีและพวกเขาก็มองไปรอบ ๆ พวกเขาพยายามที่จะหาคนพูด แต่พวกเขาก็ไม่พบอะไรแม้ว่าจะหาไปซักพักแล้ว

“ใครกันน่ะ ! ? ใครกำลังพูดอยู่ ! ? ” เฮยยู่ตะโกนออกมา เขาเผยท่าทางค่อนข้างน่ากลัวออกมา เพราะว่ามันน่ากลัวเกินไปที่แม้แต่เขายังไม่สามารถหาคนพูดได้เลยด้วยความแข็งแกร่งของเขา

รุยจินก็เคร่งเครียดเช่นกัน เขาเต็มไปด้วยความระมัดระวังต่อบุคคลที่มองไม่เห็นนี้

เจี้ยนเฉินรีบอธิบายเมื่อเขาเห็นว่ารุยจินและเฮยยู่นั้นประหม่าเพียงใด จิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างไม่ใช่ความลับต่อตระกูลสันโดษบางตระกูล และเกือบทุกคนที่เกี่ยวข้องกับทวีปเทียนหยวนก็รู้เรื่องเกี่ยวกับมัน มีแค่รุยจินและเฮยยู่เท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะว่าพวกเขาเพิ่งออกมาจากมิติของวัตถุเซียนและเข้าใจในเรื่องของทวีปเทียนหยวนเพียงเล็กน้อย มันไม่เป็นไรถ้าเจี้ยนเฉินบอกถึงการมีอยู่ของเสี่ยวหลิง

แม้ว่ารุยจินจะมีความรู้เนื่องจากความทรงจำที่ได้รับการถ่ายทอดมาโดยมังกรทองเทวะแต่ละรุ่น แต่เมืองทหารรับจ้างก็ยังไม่ได้ก่อตั้งตอนที่วัตถุเซียนดูดบรรพบุรุษของรุยจินเข้าไป จิตวิญญาณม่านพลังยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเลย ดังนั้นเขาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

ทั้งสองตกใจเมื่อได้รู้เกี่ยวกันจิตวิญญาณม่านพลัง พวกเขาถอนหายใจอย่างประหลาดใจและพูดออกมา “ข้าไม่คิดเลยว่าจิตวิญญาณม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างจะมีช่วงชีวิตที่ยาวนานขนาดนี้ ไม่สงสัยเลยที่ว่านางสามารถขับไล่มารราคะไปได้อย่างง่ายดาย”

เจี้ยนเฉินไม่ได้บอกเรื่องที่ว่าเสี่ยวหลิงเป็นจิตวิญญาณของโลก เขาไม่ได้ต้องการให้คนหลายคนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้

ในตอนนี้ พลังแห่งการมีอยู่มากกว่าสิบดวงได้เปล่งรัศมีออกมาจากกลางเมือง กลุ่มจอมยุทธรีบปรี่เข้ามาพร้อมกับเทียนเจี้ยนที่อยู่ด้านหน้า

เสี่ยวหลิงสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งเมืองเมื่อนางใช้พลังของม่านพลังเพื่อขับไล่มารราคะออกไป ดังนั้น มันจึงดึงดูดสมาชิกระดับสูงของเมืองทหารรับจ้าง

“เจี้ยนเฉิน เจ้ามาจนได้” เทียนเจี้ยนเห็นเจี้ยนเฉินแต่ไกลและยิ้มอย่างนุ่มนวล ในเวลาเดียวกัน เขาก็มองผ่านรุยจินและเฮยยู่ที่ยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉินไปอย่างรวดเร็ว ตาของเทียนเจี้ยนเป็นประกายสนใจ

เทียนเจี้ยนรู้ดีว่าเจี้ยนเฉินสนิทกับจิตวิญญาณม่านพลัง ดังนั้นเขาจึงถามเจี้ยนเฉิน “เจี้ยนเฉิน เจ้ารู้หรือเปล่ามาเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมอยู่ดีดีพลังงานของม่านพลังถึงได้พุ่งขึ้นมา”

“มันคือมารราคะ…” เจี้ยนเฉินอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ใบหน้าของเทียนเจี้ยนเจื่อนเล็กน้อยหลังจากที่เขาได้ยินทุกอย่าง และเขาก็พูดออกมา “ข้าไม่คิดเลยว่ามารราคะจะมาที่เมืองทหารรับจ้างของข้า ดูเหมือนเขาจะยังไม่เข็ดกับครั้งที่แล้ว แต่พวกเรามีม่านพลังป้องกันอยู่ ดังนั้นเขาจึงเข้ามาไม่ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพกระบี่มรณะ