หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 2797

หลินมั่วอยู่ที่ต้าฉวีมาเป็นเวลานาน ตั้งแต่การกวาดล้างพานหยางในตอนแรก ไปจนถึงการสำรวจเมืองเหอซาน และร่วมมือกับเจ้าชายหกจนถึงจุดที่ตระกูลข่งล่มสลาย เป้าหมายหลักของเขาคือการฟื้นฟูเหอเน่ย แต่การดำรงอยู่ของตระกูลข่งเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงบนเส้นทางการฟื้นฟู

โดยใช้โอกาสของการรวมตัวครั้งนี้ หลินมั่วต้องการสร้างเครือข่ายของเขาเอง ซึ่งจะสะดวกต่อการฟื้นฟูพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ของมณฑลเหอเน่ยในภายหลัง และตราบใดที่หลินมั่วสามารถรับรองผลประโยชน์ของกลุ่มแขกผู้มาเยือนได้ รวมถึงความสัมพันธ์แบบร่วมมือกัน อุปสรรคในการฟื้นฟูพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ก็จะลดน้อยลงไปมาก

“พี่ใหญ่ พี่กลับมาแล้ว”

ไท่จื่อกำลังจัดการกับการรักษาความปลอดภัยของเมืองเหอซาน ด้วยจำนวนประชากรที่มากมายมหาศาล บวกกับบุคคคลชั้นสูงที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองเป็นส่วนใหญ่ ย่อมมีบุคคลหลากหลายประเภทปะปนกันเข้ามาอยู่บ้าง จึงจำเป็นต้องเตรียมกองกำลังติดอาวุธไว้

ด้วยเหตุนี้ ไท่จื่อจึงดึงกำลังติดอาวุธจำนวนมากจากตระกูลกานและตระกูลเผยมาจัดตั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยขนาดเล็กที่มีจำนวนพันกว่าคน

“ช่วงนี้คงต้องเหนื่อยหน่อยนะ เตรียมเรือขนส่งไว้เรียบร้อยหรือยัง”

“ตอนเช้ามืด ผมให้เรือรบไท่จื่อจอดที่เกาะห่างจากท่าเรือเหอซานประมาณสามสิบลี้ ทั้งเมืองเหอซานอยู่ในระยะโจมตีที่แม่นยำ และยังมีอาเฟยคอยดูแลอยู่ที่นั่น รับรองว่าไม่มีใครพบเรือขนส่งของพวกเราได้

“อืม งั้นก็ดี พวกเราต้องป้องกันไม่ให้ตระกูลข่งที่จนตรอกทำอะไรบ้าบิ่น นายจัดการเรื่องความปลอดภัยเอง ส่วนมือปืน นายก็จัดการให้เหมาะสม”

ในขณะที่หลินมั่วกำลังสั่งการเรื่องความปลอดภัย แขกผู้มาเยือนก็เดินทางไปยังตระกูลกานเพื่อร่วมการประชุมครั้งแรกเป็นจำนวนมาก

ถนนหนทางที่เคยรกเลอะเทอะ กลายเป็นระเบียบเรียบร้อยหลังจากที่ตระกูลกานและตระกูลเผยได้ปรับปรุงใหม่

“เมืองเหอซานนี้ ถึงแม้จะกันดาร แต่ก็มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เลวร้าย”

“อย่างน้อยก็มีจุดนี้พอเอาไปอวดได้บ้าง หากไม่ใช่เพื่อจะจัดการกับตระกูลข่ง ฉันคงขี้เกียจมาที่ดินแดนห่างไกลแบบนี้”

“พูดก็ถูกนะ ระหว่างทางมาฉันได้ลองหาข้อมูลดู ที่ดินแถวนี้ถูกมาก เหมาะแก่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เลย”

“ประธานวัง ไม่ก็รอหลังจากเสร็จเรื่องของตระกูลข่ง พวกเรามาร่วมมือกันทำ…”

ท่ามกลางบทสนทนาที่ผ่อนคลาย แขกผู้มาเยือนต่างทยอยเดินทางมาถึงตระกูลกาน

พูดจบอู๋อีฟานก็เอนหลัง ยกขาขึ้น และจ้องมองหลินมั่วด้วยจมูกข้างหนึ่ง ท่าทางดูหยิ่งยะโสและริษยา

มีหลายตระกูลที่เกลียดชังตระกูลข่ง แต่ก็มีหลายตระกูลที่สนิทสนมกับตระกูลข่ง

ตระกูลอู๋เป็นหนึ่งในนั้น กล่าวได้ว่าการเจริญเติบโตของตระกูลอู๋ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ล้วนพึ่งพาตระกูลข่งเป็นหลัก นอกจากนี้ตระกูลอู๋ยังอาศัยการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์กับกัมพูชาอย่างต่อเนื่องมาหลายปี จนกลายเป็นขั้วอำนาจขนาดใหญ่ กองกำลังติดอาวุธของพวกเขาเหนือกว่าตระกูลทั่วไป

สายตาของหลินมั่วมองคนผู้นี้อย่างเรียบเฉย ยิ้มอย่างเย็นชา

“ไม่ทราบว่าตัวแทนตระกูลอู๋หมายความว่าอะไร”

“ไม่มีอะไร ไม่ชอบหน้าคุณเฉยๆ เรื่องอาวุโสพวกเราที่มานี่มีแต่รุ่นใหญ่ทั้งนั้น คุณเป็นแค่เด็กหนุ่มไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสั่งสอนพวกเรา”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ผู้เข้าร่วมประชุมอื่นๆก็เริ่มให้ความสนใจขึ้นมาทันที แม้ว่าอู๋อีฟานผู้นี้จะมาหาเรื่อง แต่สิ่งที่เขาพูดก็ใช่จะไร้ซึ่งเหตุผล หลินมั่วเองก็อาศัยบารมีของเจ้าชายหกและตระกูลจ้าวเป็นที่พึ่งพา อวดเบื้องหลังผู้มีอิทธิพล ในเมื่อเป็นหัวเรือใหญ่ แล้วทำไมถึงจะเป็นเขาไม่ได้ล่ะ