หัตถ์เทวะหมอเทวดา นิยาย บท 3238

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็ผุดขึ้นมาในใจของเจียไป๋เลี่ย

สาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศว่านเซี่ยงวุ่นวายขนาดนี้ ส่วนใหญ่เพราะองค์กรพิราบดำก่อความไม่สงบ

และแผนการทั้งหมดของของเจียเต๋อเลี่ยก็อาศัยความวุ่นวายที่องค์กรพิราบดำก่อขึ้น

หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเป้าหมายหลักในการก่อตั้งองค์กรพิราบดำ ไม่ใช่เพื่อกำจัดกลุ่มคนที่ยังภักดีต่อตัวเองที่ยังเหลืออยู่

แต่เป็น การล่อให้เขาเข้ามาว่านเซี่ยง!

เหงื่อเย็นไหลอาบหน้าของเจียไป๋เลี่ย

จากความดูถูกเหยียดหยามที่มีต่อเจียเต๋อเลี่ยในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นความระแวง

ตอนนี้เขากลับกลัวเจียเต๋อเลี่ยน้องชายคนนี้

เจียไป๋เลี่ยพบว่าเขาไม่เข้าใจเจียเต๋อเลี่ยอีกต่อไปแล้ว

เขาขยับตัวไปมาอย่างไม่สบายใจ รถราคาหลายแสนคันนี้มันช่างห่วยจริงๆ

เขาดูเหมือนจะไม่ใช่เจ้าชายหกที่ยิ้มแย้มเเจ่มใสเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไปแล้ว

“อีกนานเเค่ไหนจะถึงท่าเรือนอกเมือง”

เสียงของเจียไป่เลี่ยที่กระวนกระวายใจทำให้คนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าจ้องมองออกไปอย่างตั้งใจขึ้นไปอีก

“เจ้าชาย อย่างมากสุดสิบนาทีพวกเราก็ถึงแล้วพะยะค่ะ”

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ใต้เบาะนั่งของเจียไป๋เลี่ย มีลูกบอลสีดำลูกเล็กๆกำลังเปล่งแสงสีแดงออกมาเล็กน้อย

…

…

ในพระราชวัง เจียเต๋อเลี่ยกำลังเล่นลูกบอลสีดำลูกหนึ่งอยู่

เสียงของเจียไป๋เลี่ยดังออกมาไม่ขาดสาย

รอยยิ้มของเจียเต๋อเลี่ยกว้างขึ้นเรื่อยๆ

เสด็จพี่สามของน้อง น้องลงทุนตั้งมากมายเพื่อให้เสด็จพี่เข้ามา จะรีบหนีไปทำไม

หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียเต๋อเลี่ยก็ตัดสินใจที่จะไม่ส่งคนไปตามล่าเจียไป๋เลี่ย

แต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วโทรหาคนที่อยู่ในรายชื่อติดต่ออันดับต้นๆ

สายเชื่อมต่ออย่างไว เสียงที่นุ่มนวลของหลินมั่วดังมา

“เจียเต๋อเลี่ย หาผมมีธุระอะไรไหม”

ได้ยินเสียงของหลินมั่ว เจียเต๋อเลี่ยก็ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ แล้วพูดว่า

“หลินมั่ว สงครามทางธุรกิจจบลงเเล้ว ตอนนี้เจียไป๋เลี่ยกำลังหนีไปตำแหน่งน่าจะอยู่บนทะเล จากนั้นมุ่งหน้าไปน่านน้ำทะเลบาหลี

“ฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันสกัดกั้นเจียไป๋เลี่ย คุณก็รู้นี่ ว่าฉันไม่สะดวกลงมือ”

เสียงโทรศัพท์ถูกตัดไป ใบหน้าของเจียเต๋อเลี่ยมีรอยยิ้มที่ปิดไว้ไม่อยู่

ที่จริงเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้าของหลินมั่วมันตลกดี

สำหรับหลินมั่ว เจียเต๋อเลี่ยรู้สึกเป็นมิตรต่อหลินมั่วมาก

ถ้าหากเป็นไปได้ เจียเต๋อเลี่ยรู้สึกอยากให้หลินมั่วเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง

เขาเป็นคนใจเย็น หนำซ้ำเป็นคนใจดีต่อผู้อื่นมาก สำหรับเพื่อนแล้วถ้าช่วยได้ก็จะช่วย

ถึงแม้ว่าหลินมั่วจะมีอำนาจจะตัดหัวใครก็ได้

เจียเต๋อเลี่ยก็ไม่ได้กลัวหลินมั่วมากนัก

ในห้องทำงานของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ หลังจากหลินมั่ววางสายจากเจียเต๋อเลี่ย

ก็โทรไปหาไท่จื่ออีกครั้ง

ถ้าใครได้เห็นหลินมั่วตอนนี้ ต้องตกใจแน่ๆ

รอยคล้ำใต้ตาของหลินมั่วมันดำมากจนเหมือนจะไปทำงานประจำกับประเทศชาติแล้ว

ถ้าให้บรรดาผู้สื่อข่าวเห็น คงจะเขียนข่าวประมาณว่า

“ทูตเจิ้นเยว่แห่งหวาซย่าต้องแย่งข้าวกินกับสัตว์ประจำชาติ นี่มันอะไรกัน…”