หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1035

สรุปบท ตอนที่ 1035: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

อ่านสรุป ตอนที่ 1035 จาก หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บทที่ ตอนที่ 1035 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Jaroen อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ทารกเดิมที่กลิ้งอยู่ในท้องก็สงบลงทันทีแล้ว

สวี่สืออวิ๋น......

เจ้ารังแกผู้อ่อนแอกลัวผู้แข็งแกร่ง ข้านับว่าดูออกแล้ว!

เดิมลู่เจาเจาก็เมามายมาก วิงเวียนและหนักศีรษะ ทั้งหมดอาศัยความตั้งใจเดิมยกกระบี่ ปีศาจจิ้งจอกเขียวสองตนเจ้าเล่ห์ ทำให้แขนนางเลือดออกแล้ว

นางโกรธแล้ว ตราสีแดงที่หัวคิ้วปรากฏทันที ราวกับเทพจุติ

กลิ่นอายเทพจุติดังบูม

ตัวนางถูกแสงสีทองปกคลุม เหมือนเทพที่อยู่สูงเหนือมวลชน

ปีศาจจิ้งจอกเขียวตะลึง

ลู่เจาเจายืนอยู่กลางอากาศ เหยียบอยู่บนศีรษะรูปปั้นหิน เลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลตามหลังมือลงไป ตกอยู่บนรูปปั้นหินที่สีเทา

ในศาลใหญ่สั่นสะเทือนรุนแรง

รูปปั้นหินได้พลังเทพ จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นแล้ว

ปีศาจที่มองอยู่รอบๆ ถูกพลังนี้สยบในชั่วพริบตา ราวกับกระแสน้ำซัดไป ไม่กล้าเข้าใกล้สักนิด

ลูกบ้านทุกคนมองฉากนี้อึ้งๆ ความศรัทธาของพวกเขา ฟื้นแล้ว!

เทพลืมตาสบตากับลู่เจาเจา

“ท่านเทพลืมตา”

“คืนนี้เทพลงมาจุติแล้ว”

ร่างของนาง ในชั่วพริบตานี้เหมือนรวมเป็นหนึ่งเดียวกับรูปปั้นหิน

ปีศาจจิ้งจอกเขียวตกใจตัวอ่อน “นะ นะ นะ นะ นาง......จะ จะ เจาหยาง......”

“เทพกระบี่เจาหยางสำแดงเดชแล้ว!!” เขาถึงขนาดมีความกลัวหนึ่ง เผชิญหน้าอยู่ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ แต่เป็นเทพกระบี่เจาหยางมาเอง!

ผู้ปกป้องราชาปีศาจสองตนตกใจถอยหลังอย่างบ้าคลั่ง หนีไปเหมือนเสียสติไปแล้ว

“หนีเร็ว!”

สองคนหนีไปอย่างย่ำแย่

“หญิงท้องคนนั้นบอกว่าตนยังมีลูกสาวสี่ขวบคนหนึ่ง ถึงอย่างไรก็เป็นสายเลือดของนาง คงจะไม่หนีห่างกันเท่าไหร่!”

“ลักพาตัวเด็กเถอะ”

“ของขวัญชิ้นใหญ่แบบนี้ ราชาปีศาจจะต้องดีใจ!”

“จะ......เจ้าเป็นใคร? ทำไมถึงเป็นวิชากระบี่เจาหยางของท่านอาจารย์ข้า!” โหลวจิ่นถังแบกกระบี่เล็ก ปิดปากไอสองครั้ง เช็ดคราบเลือดที่มุมปากอย่างเรียบเฉย

โหลวจิ่นถังสูดดมเล็กน้อย บนตัวอีกฝ่ายเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าฉุน

แต่ยังไม่ทันพูดมากก็ถูกเหล่าลูกบ้านเบียดออกแล้ว

“ท่าน……ท่าน……”

“เป็นท่านกลับมาแล้วหรือ?” ผู้ใหญ่บ้านทิ้งไม้เท้า เดินงก ๆเงิ่น ๆไปถึงข้างตัวนาง ดวงตามองลู่เจาเจาอย่างคาดหวัง

ลู่เจาเจาเงียบไม่พูด เงยหน้ามองศาลใหญ่โตแห่งนี้

“สิงโตหิน? ทำไมข้าไม่รู้ ศาลเจาเจาไม่เคยมีสิงโตหิน!” ผู้เยาว์หมดคำจะพูด ผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเหมือนท่าทางไม่ค่อยปกติ??

ผู้ใหญ่บ้านสั่นไปทั้งตัว ปากก็สั่น “มี! มี! มีสิงโตหินอยู่!”

“ตอนแรกที่สร้างศาลเจ้า มีสิงโตหินสองตัวเฝ้าอยู่หน้าศาล”

ในดวงตาที่ขุ่นของผู้ใหญ่บ้านเต็มไปด้วยน้ำตา มองลู่เจาเจา ทั้งระมัดระวังและเต็มไปด้วยความคาดหวัง เหมือนเห็นรุ่นหลังตนเอง เต็มไปด้วยความปวดใจ

“ต่อมาได้ยินว่า เทพกระบี่เคยถูกปีศาจสิงโตทำร้ายจึงยกมันออกไป”

ลู่เจาเจาพยักหน้า มิน่าล่ะ

“ยังมีกระดิ่งที่แขวนอยู่ใต้ชายคาทำไมไม่ดังแล้ว? เสียไปแล้วหรือ?” นางชี้ชายคาที่ว่างเปล่าไม่มีอะไร

นางพอจำได้ตอนตนเองมาถึงศาลใหญ่แห่งนี้ครั้งแรก ทั้งศาลแขวนกระดิ่งเขย่าโดยไม่มีลม

ชาวบ้าน ณ ที่นี้ตะลึง จากนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดทันที

ในดวงตาผู้ใหญ่บ้านไม่กล้ากะพริบตา มองลู่เจาเจาเหมือนเห็นตุ๊กตากระเบื้องกลับมาแล้ว

เป็นนางกลับมาแล้ว

“เจ้ารู้ได้อย่างไรในศาลเคยแขวนกระดิ่ง? ได้ยินว่า หลังจากเทพกระบี่อุทิศตนตอนนั้น เพื่อรับรู้จิตวิญญาณที่ตกหล่นของนาง จึงทำกระดิ่งนี้ขึ้นโดยเฉพาะ หากนางกลับบ้าน กระดิ่งก็จะดังขึ้น”

“วันที่เจ็ดหลังจากอุทิศตน วิญญาณของนางเคยกลับมา กระดิ่งเต็มศาลดังโดยไร้สายลม”

“แต่พันปีมานี้ ก็ไม่เคยดังขึ้นอีก”

“ต่อมา ผู้ใหญ่บ้านกลัวกระดิ่งที่แขวนอยู่ข้างนอกจะถูกลมพัดและตากแดดจนสึกหรอจึงได้สั่งให้พวกเขาเก็บไว้ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์