หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1163

สรุปบท ตอนที่ 1163: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปตอน ตอนที่ 1163 – จากเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

ตอน ตอนที่ 1163 ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดยนักเขียน Jaroen เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลู่เจาเจาทำตาถลึง มือเล็กๆ เท้าเอว

“เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเงิน”

“สำนักศึกษาสตรี กระทบต่อสถานะอันสูงส่งของผู้ชาย กระทบผลประโยชน์ของพวกเขา”

“พวกเขาจะต้องต่อต้านจนตาย จะไม่ยอมให้มีสำนักศึกษาสตรีอย่างแน่นอน” ความคิดชายเป็นใหญ่กว่าผู้หญิงใช้เวลาเป็นพันๆ ปี กว่าจะก่อตัวขึ้น ผู้ชายเกิดมาสูงส่ง ผู้หญิงเกิดมาต่ำต้อย

“ในช่วงที่เกิดภัยพิบัติ ทุกครัวเรือนขายลูกสาวเพื่อยังชีพ แต่เจ้าเคยเห็นการขายลูกชายบ้างหรือไม่?”

ยอมขายหม้อขายกระทะในบ้านเพื่อส่งลูกชายเรียนหนังสือ แต่ไม่ยอมให้ลูกสาวกินข้าวเพิ่มอีกแม้สักคำเดียว

นี่คือโลกทุกวันนี้

เมื่อผู้หญิงเริ่มเรียนหนังสือ ก็จะค่อยๆ เข้าใจเหตุผลผ่านความรู้ และในอนาคตก็จะต้องต่อต้านอย่างแน่นอน

ลู่เจาเจาเงียบ ไม่พูดอะไร

“จริงๆ แล้ว เคยมีคนเปิดสำนักศึกษาสตรีมาก่อน” สวี่สืออวิ๋นชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรินชาให้เจาเจา

“แต่เรื่องนี้ถูกห้ามไม่ให้เล่าต่อ มีคนรู้ไม่มากนัก…” สวี่สืออวิ๋นพูดพลางพยักหน้าให้เติงจือ เติงจือและสาวรับใช้ก็ถอยออกไป

“น่าจะเป็นร้อยปีก่อน ตอนนั้นเป่ยเจายังวุ่นวายอยู่ ไม่ได้สงบสุขเหมือนตอนนี้”

“ตอนนั้นมีสงครามบ่อยครั้ง เป่ยเจาก็ไม่มีคนมีความสามารถ จึงมีราชโองการให้สรรหาคนมีความสามารถทั่วแคว้น ตอนนั้น ก็มีผู้หญิงที่แปลกประหลาดคนหนึ่ง”

“ผู้หญิงคนนี้เรียกได้ว่ารอบรู้ทั้งเรื่องดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และเชี่ยวชาญในเรื่องกลศึก”

“ยังมีความสามารถในด้านดนตรีที่คนอื่นไม่เข้าใจ ทำนองเพลงที่ฮัมออกมาไพเราะมาก”

“ตอนนั้นนางมีชื่อเสียงมากในเป่ยเจา เป่ยเจาก็ค่อยๆ สงบสุขขึ้นภายใต้แผนการของนาง”

“บรรพบุรุษของเป่ยเจาเห็นว่านางได้รับความนิยมจากประชาชน ก็กลัวว่าจะควบคุมไม่ได้ จึงอยากจะรับนางเข้าวังหลัง และให้ตำแหน่งกุ้ยเฟย”

ลู่เจาเจาในตอนนี้ นึกถึงผู้หญิงที่รับเลี้ยงอาหมานขึ้นมาทันที

“แล้วนางเข้าวังหรือไม่?” ลู่เจาเจาถามด้วยความตื่นเต้น

“เดิมทีนางไม่อยากเข้าวัง แต่ฝ่าบาทสัญญากับนางว่า ถ้นางเข้าวัง จะอนุญาตให้นางสร้างสำนักศึกษาสตรี”

“วันเปิดโรงเรียน ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊คุกเข่าอยู่นอกท้องพระโรง ไม่ยอมเข้าเฝ้า วันนั้น มีขุนนางอาวุโสสามคนเอาหัวโขกประตูวังจนเลือดสาด...”

“เหล่าขุนนางคัดค้านอย่างรุนแรง และบีบบังคับให้บรรพบุรุษของเป่ยเจาสั่งเผาสำนักศึกษาสตรีที่เพิ่งสร้างเสร็จ”

“ตั้งแต่นั้นมา ก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงการสร้างสำนักศึกษาสตรีอีก”

สวี่สืออวิ๋นถอนหายใจ ผู้หญิงลำบากยิ่งนัก นางย่อมรู้ดี แต่ด้วยพลังของนางคนเดียว จะต่อกรกับขุนนางทั้งเป่ยเจาได้อย่างไร

“แล้วผู้หญิงที่แปลกประหลาดคนนั้นล่ะ?” เจาเจากล่าวถาม

สวี่สืออวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย “นางมีหัวใจของประชาชน และได้รับการสนับสนุนอย่างมาก บรรพบุรุษของเป่ยเจาไม่ยอมที่จะปล่อยนางไป”

“แต่นางมีความทะเยอทะยานและแตกต่างจากผู้หญิงทั่วไป นางไม่ต้องการถูกเลี้ยงดูในวังหลังและต่อสู้กับสนมคนอื่นๆ”

“นางเคยขอออกจากวังหลายครั้ง แต่ถูกปฏิเสธ จนกระทั่งนางค่อยๆ ขัดเกลาความหยาบกระด้างลง...”

สวี่สืออวิ๋นจินตนาการได้ว่า แม้ว่าหัวใจของนางจะเต็มไปด้วยความคิดมากมาย แต่เพียงเพราะนางเป็นผู้หญิง ปีกของนางก็ถูกหักทีละน้อยจนสิ้นหวัง

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ? แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” ลู่เจาเจาถามอย่างเร่งรีบ

เติงจือโค้งคำนับให้เจาเจา

ลู่เจาเจาพยักหน้า ในอ้อมกอดมีกล่องเงินที่ท่านแม่มอบให้ มีตั๋วเงินสามหมื่นตำลึง!

นางยังไปหาพี่ใหญ่และพี่สาม พวกเขามีธุรกิจส่วนตัว

และได้เงินมาอีกหกพันตำลึง

ลู่เจาเจาเม้มริมฝีปาก “พี่สาม พี่สาม พาข้าไปหาตระกูลหลินเศรษฐีอันดับหนึ่งได้หรือไม่?”

ลู่หยวนเซียวไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาลูบหัวเจาเจา พลางกล่าวว่า “”เจาเจา ครั้งนี้หลินเยี่ยนหยางไม่กล้าให้เจ้าหยิบยืมเงินหรอกนะ บ้านเศรษฐีให้เงินใคร ก็เหมือนกับแสดงจุดยืนทางการเมือง ตอนนี้พวกเขาเป็นพ่อค้าหลวง ต้องพึ่งพาอำนาจราชสำนัก ไม่กล้าขัดแย้งกับราชสำนักหรอก”

ลู่เจาเจาลูบคาง “ข้าไม่หาหลินเยี่ยนหยาง ข้าอยากเจอนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลหลิน”

ลู่หยวนเซียวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหาโอกาสพาเจาเจาเข้าไปในบ้านตระกูลหลิน

ประมาณหนึ่งชั่วยาม เด็กสาวก็ออกมาจากบ้านตระกูลหลิน

ต่อมา ได้เข้าพบองค์หญิงใหญ่ ไปเยี่ยมนายหญิงใหญ่แห่งตระกูลต่างๆ จนกระทั่งตอนกลางคืน ก็มาถึงตำหนักบรรทมของไทเฮา

ครั้งนี้อยู่ค่อนข้างนาน แต่ก่อนที่ประตูวังจะปิด ลู่เจาเจาก็เดินออกจากประตูมาด้วยรอยยิ้ม

ฮ่องเต้เซวียนผิงนวดหว่างคิ้ว “นางออกจากวังแล้วหรือ?”

ขันทีเก็บกาน้ำชาของฝ่าบาท แล้วนำยาบำรุงประสาทมาให้

“เพิ่งออกจากวังไปเมื่อครู่นี้พ่ะย่ะค่ะ หากฝ่าบาทอยากพบ ก็เรียกนางมาพบได้พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินมาว่าอีกไม่นานนางก็จะออกเดินทางไปยังแคว้นฟั่นแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์