หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1162

สรุปบท ตอนที่ 1162: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

อ่านสรุป ตอนที่ 1162 จาก หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บทที่ ตอนที่ 1162 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Jaroen อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เกิดมาเพื่อเป็นแม่ทัพ ปกป้องชีวิตบ้านเมือง

เดิมทีแค่จะให้ลูกเลี้ยงของหรงเช่อ ไปช่วยหรงเช่อให้ได้หน้าบ้าง ตอนนี้กลับชอบขึ้นมาจริง ๆ

เช่อเอ๋อร์แต่งงานได้ดีจริงๆ

สวี่สืออวิ๋นอุ้มเจาเจาไป แล้วส่งให้ลู่เจิ้งเย่ว์

“พี่รอง ท่านภาวนาต่อข้าได้หรือไม่?” ลู่เจาเจากอดคอพี่ชาย เสียงอ่อนหวาน

ลู่เจิ้งเย่ว์ใจกระตุกวูบ

แต่บนใบหน้าเขากลับไม่แสดงอะไร แม้จะรู้ว่าครั้งนี้ยากลำบาก แต่เขาก็ถอยไม่ได้

ข้างหลังเขา มีราษฎรมากมาย

เมื่อก้มหน้าลง ก็เห็นแววตาเว้าวอนของน้องสาว ลู่เจิ้งเย่ว์เด็ดดอกไม้จากพื้นขึ้นมา “ขอให้บ้านเมืองมั่นคง ใต้หล้าสงบสุข” น้ำเสียงจริงใจอย่างที่สุด

ถ้าน้องสาวยังมีวิญญาณอยู่ ก็ขอให้ปกป้องคุ้มครองประชาชนให้อยู่เย็นเป็นสุข ไม่ให้มีสงครามอีกเลย

ไม่ว่าจะเป็นแดนเทพก็ดี หรือแดนมนุษย์ก็ดี คนที่ลำบากก็คือชาวบ้าน

ลู่เจาเจาตกตะลึงเล็กน้อย

“พี่รอง คราวก่อนเคล็ดวิชาฝึกตนที่แพร่ออกมาจากแคว้นใต้ ให้ทหารในกองทัพฝึกด้วยเถิด ถึงจะเข้าสู่เส้นทางบำเพ็ญไม่ได้ วิธีหายใจก็ยังช่วยเสริมสร้างร่างกายได้” ลู่เจาเจากระซิบข้างหูพี่ชาย

ลู่เจิ้งเย่ว์พยักหน้าทันที “ได้” เขาเชื่อคำพูดของเจาเจามาตลอด

ดวงตาของเด็กหญิงร้อนผ่าว พี่รองส่งนางให้เติงจือ แล้วประคองอาหนิงขึ้นรถม้า ก่อนจะขึ้นม้าไป

“ท่านแม่ ลูกไปก่อนนะ”

น้ำตาของสวี่สืออวิ๋นไหลริน มองเขาจากไปไกลลิบ โดยไม่ยอมละสายตา

ลูกจากไปแสนลี้ แม่เป็นห่วงยิ่งนัก ยิ่งไปสนามรบ สวี่สืออวิ๋นจะวางใจได้อย่างไร

เมื่อทุกคนกลับมาถึงเรือนด้านใน ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว

สวี่สืออวิ๋นให้คนเตรียมสำรับอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว

ลู่เจาเจาฉีกน่องไก่ชิ้นใหญ่ มองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสังเกต ก็แอบเก็บเข้าไปในมิติ

กินไปสองสามคำก็กระโดดลงจากเก้าอี้ “ท่านแม่ เจาเจาอิ่มแล้วนะ”

จากนั้นก็วิ่งดุ๊กดิ๊กออกไปนอกเรือนซ่านซ่าน

ซ่านซ่านนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง กำลังแทะนิ้วเท้าอยู่เลย

“นี่ ให้เจ้ากิน…” ลู่เจาเจายื่นน่องไก่ให้ซ่านซ่าน

ดวงตากลมโตของซ่านซ่านเบิกกว้าง ลูกตากลายเป็นตาเหล่ เขาชี้นิ้วไปที่ตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ข้า?”

เห็นพี่สาวพยักหน้า เจ้าตัวน้อยก็ร้องอ้าวขึ้นมาทันที

สองมือประคองน่องไก่ขึ้นมา แล้วกัดเข้าไปคำใหญ่

หนังน่องไก่ถลอกไปเล็กน้อย แต่ซ่านซ่านก็พอใจมาก

“ซ่านซ่านทำได้ดีมาก”

ซ่านซ่านทำหน้าสับสน พี่สาวข้าโง่ไปแล้วหรือ???

เขาไม่รู้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น

เมื่อคืน หลับสบายมาก

ลู่เจาเจารีบเก็บกำไลใส่กระเป๋า

“ซ่านซ่านพักผ่อนให้ดีๆ เถอะ พี่หญิงจะออกไปทำเรื่องใหญ่แล้ว” พูดจบก็ถือหีบสมบัติของซ่านซ่านไปที่เรือนใหญ่

“ท่านแม่ ท่านแม่…” ยังไม่ทันที่ลู่เจาเจาจะเข้าประตู สวี่สืออวิ๋นก็ได้ยินเสียงของนางแล้ว

เมื่อได้ยินเสียง เติงจือก็สั่งให้คนยกน้ำชาและขนมขึ้นมา

แต่ที่น่าแปลกใจคือ องค์หญิงน้อยวิ่งมาเหงื่อท่วมตัว แต่กลับไม่แตะต้องน้ำชาและขนมเลย นับว่าเป็นเรื่องแปลก

“ท่านแม่ ข้าอยากสร้างสำนักศึกษาสตรี!” เสียงของลู่เจาเจาดังลั่น ทำเอาคุเติงจือถึงกับตะลึงงันนิ่งอยู่กับที่

“เมื่อวันก่อน เหล่าขุนนางใหญ่ต่างบริจาคเงินมาเยอะมาก เจาเจาอยากจะแบ่งส่วนหนึ่งมาสร้างสำนักศึกษาสตรี!”

ดวงตาของลู่เจาเจาเป็นประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ชาวบ้านทั่วไปก็ลำบากในการเข้าเรียนอยู่แล้ว ยิ่งเป็นผู้หญิง แค่จะมีชีวิตรอดก็ยังยากลำบากยิ่งนัก”

“เจาเจาอยากจะทำอะไรเพื่อพวกนางบ้าง!”

“ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนต้นหญ้า ชีวิตผู้หญิง ยิ่งด้อยค่ากว่าต้นหญ้าเสียอีก”

“เจาเจาอยากจะให้โอกาสกับผู้หญิงทั่วหล้า”

สวี่สืออวิ๋นมองดวงตาที่เป็นประกายของเด็กสาว จู่ๆ นางก็รู้สึกได้ว่า เจาเจาเติบโตขึ้นแล้ว

“เจาเจา ลูกอยากสร้างสำนักศึกษาสตรีเป็นเรื่องดี”

“แต่ถ้าจะใช้เงินบริจาค ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต้องคัดค้านเป็นแน่” สวี่สืออวิ๋นหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แล้วซับเหงื่อที่หว่างคิ้วของนางเบาๆ

“ทำไมพวกเขาต้องคัดค้านด้วยล่ะ? ข้าไม่ได้จะไปขอเงินพวกเขาเพิ่มสักหน่อย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์