เข้าสู่ระบบผ่าน

หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1263

ภูเขาทั้งลูกถูกขุดจนกลวง ภายในมีมิติค่ายกลซ้อนทับกันนับไม่ถ้วน มีทรัพย์สมบัติและเสบียงอาหารมากมายไม่สิ้นสุด

หัวใจของลู่เจาเจาสั่นสะท้าน

สุดยอด รวยที่สุดในสามดินแดนเลย!

ซ่านซ่านสองมือเท้าสะเอว เงยหน้าขึ้นฟ้าหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ เสียงหัวเราะก้าบก้าบคล้ายเป็ด

“ข้าคือบุตรคนโปรดของสวรรค์อย่างแท้จริง!” ยอดไปเลยใช่หรือไม่ พี่สาว!

ลู่เจาเจาหัวเราะจนปากแทบฉีก

"เงินเยอะมากเยอะมากเยอะมาก..." นางตะโกนเสียงดังพลางพุ่งเข้าไปในห้องหิน ทั้งห้องสว่างเจิดจ้า จนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น

“ทั้งหมดนี้คือเสบียงอาหาร ยังมีมีข้าววิเศษ ธัญพืชทิพย์ สุราทิพย์...” ลู่เจาเจาพุ่งเข้าไปด้วยความตื่นเต้น ธัญพืชทิพย์ส่งกลิ่นหอมอบอวลเข้มข้น

บนพื้นใช้ศิลาวิญญาณจัดเรียงเป็นค่ายกลมากมาย ข้าววิเศษธัญพืชทิพย์วางไว้หลายปีก็ไม่เน่าเสีย ถึงขั้นสดใหม่มาก

ผลไม้ขนมหวานด้านในสดใหม่ชุ่มฉ่ำ เปล่งปลั่งเย้ายวน

“สมบัติ สมบัติ…” ซ่านซ่านวิ่งเข้ามาอย่างโงนเงน กอดผลไม้ทิพย์ลูกใหญ่แล้วกัดคำหนึ่ง

ตอนนี้ฟันของเขายังขึ้นไม่ครบ ผลไม้ทิพย์กรอบหวาน เขามีความสุขอย่างยิ่ง

“ซ่านซ่าน ฉลาดหรือไม่?” เขากล่าวอย่างตะกุกตะกัก

ท่าทางภาคภูมิใจอย่างที่สุด

ลู่เจาเจาพยักหน้ารัวๆ เดินไปอุ้มซ่านซ่านขึ้น หอมแก้มเขาครั้งแล้วครั้งเล่า “ซ่านซ่านเก่งที่สุด เจ้าคือผู้ที่ฉลาดที่สุดในใต้หล้าอย่างแท้จริง บุตรคนโปรดของสวรรค์ บุตรคนโปรดของสวรรค์!”

ทนไม่ไหว จึงหอมแก้มเขาอีกฟอดใหญ่

“ข้า เก่งกาจที่สุด!” ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่รู้ว่าไปขโมยถ้ำเซียนของผู้โชคร้ายคนใดเข้า

ซ่านซ่านไม่สนใจหรอก ผู้ใดเก็บได้ก็เป็นของผู้นั้น

“ขนมาเลยขนมาเลย ขนมาให้หมด…” ซ่านซ่านชี้ไปยังมิติขนาดใหญ่

“ขนมาให้หมดขนมาให้หมด…” ใบหน้าของเจ้าตัวเล็กเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ในดวงตาโตของเขายังเป็นประกายด้วยรู้สึกยินดีปรีดาในความโชคร้ายของผู้อื่น ไม่รู้ว่าผู้โชคร้ายคนใดรับเคราะห์ไป

รับเคราะห์ไปรับเคราะห์ไป....

ลู่เฉาเฉารู้สึกตื่นเต้นเร้าใจอย่างยิ่ง ชีวิตนี้ของนาง ไม่เคยมีทรัพย์สมบัติมากมายเช่นนี้มาก่อน! ชีวิตนี้จะไม่ขาดเงินอีกแล้ว...

นางนำสมบัติทิพย์และทองเงินทั้งหมดเก็บเข้าไปในมิติ

ปล่อยให้ธัญพืชทิพย์ข้าววิเศษและผลผลิตอื่นอยู่ที่เดิม

แต่ภูเขาลูกนี้ใหญ่โตมโหฬาร แม้กระทั่งลู่เจาเจายังยุ่งวุ่นวายกว่าครึ่งคืน ซ่านซ่านเองก็กึ่งก้น ยัดลงในถุงเก็บของไม่หยุด

“ขโมยสมบัติ...ขโมยสมบัติ...” ปากยังบ่นพึมพำกับตนเองไม่หยุด

ทั้งสองยุ่งจนถึงฟ้าสว่าง จึงฝืนนำสมบัติในภูเขาเก็บลงในมิติไปได้

ลู่เจาเจาลุกขึ้นยืน “เขาอยู่ที่ใด? ข้าจะไปหาเขาเอง!”

แปลกจริง นางเพียงถามไปอย่างนั้น เหตุใดร่างกายของขุนนางเหล่านี้ต้องสั่นด้วย

เกิดเรื่องกับเซวียนจี้ชวนหรือ?

ขันทีมีสีหน้าลำบากใจ “ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้ข้าน้อยกล่าว...”

“ตราบใดตัวข้าไม่ยินยอม ผู้ใดก็สังหารเจ้าไม่ได้! เจ้าแค่กล่าวออกมาตรงๆ ก็พอ...” ลู่เจาเจาไม่ต้องการทำให้ขุนนางลำบากใจ ย่อมยินดีรับประกันความปลอดภัยให้เขา

ขันทีทราบดีว่านางมีน้ำหนักในใจฮ่องเต้ จึงกัดฟันกล่าว “องค์หญิงโปรดตามข้าน้อยมา”

ขันทีพาลู่เจาเจาเดินผ่านกลางราชวัง สุดท้ายจึงหยุดอยู่ด้านนอกตำหนักที่มีองครักษ์คุ้มกันอย่างแน่นหนา

ภายในและภายนอกตำหนักมีผู้บำเพ็ญตนในชุดดำทั้งร่างคอยคุ้มกัน เมื่อเห็นลู่เจาเจาเข้ามา สายตาก็อ่อนโยนลงเล็กน้อย

“ข้าน้อยห้ามไม่ได้ ให้องค์หญิงเข้าไปดูเถิด โดยทั่วไปใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวก็ฟื้นตัวเป็นปกติได้ วันนี้... จนถึงตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่ออกมาเลย” ขันทีสีหน้าลำบากใจ อดกล่าวเสียงเบาไม่ได้

นักพรตเงียบไปครู่ “แต่เขามิอาจเข้าไปได้” เขาชี้ไปที่จุยเฟิง

กลิ่นอายของเผ่าปีศาจบนร่างจุยเฟิงเข้มข้น ทำให้คนยากจะมองข้าม

“ตกลง” จุยเฟิงยังไม่ทันกล่าว ลู่เจาเจาก็ตอบรับแล้ว

จุยเฟิงกอดกระบี่แล้วเฝ้าอยู่นอกตำหนักด้วยท่าทีเย็นชา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์