หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 17

สรุปบท ตอนที่ 17: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 17 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 17 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

สิ่งที่ลูกสาวพูดเป็นเรื่องจริง

นางทั้งเศร้าและหวาดกลัว

คืนนี้

สวี่ซื่อนอนไม่หลับทั้งคืน นางยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ทอดสายตาเหม่อมองไปยังจวนตระกูลสวี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ถนน

ที่นั่น แสงไฟสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า คลับคล้ายคลับคลาจะได้ยินแว่วเสียงครวญครางดังมาจากอีกฝั่ง

“ฮูหยิน ตระกูลสวี่จะไม่เป็นไร” เมื่อเติงจือกุมมือของฮูหยิน ก็พบว่ามือของนางเย็นเฉียบ ร่างกายของนางก็สั่นเทิ้มไปหมด

ริมฝีปากของสวี่ซื่อเปลี่ยนเป็นสีม่วง ร่างกายของนางสั่นเทา ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเค้นคำพูดออกมาจากลำคอได้

“เกือบแล้ว...เกือบไปแล้ว...” ตระกูลสวี่เกือบจะล่มสลายแล้ว

โชคดีที่นางได้ยินเสียงในใจของเจาเจา

เจาเจาของนางคือสมบัติล้ำค่าที่สวรรค์ประทานมาให้

จวบกระทั่งฟ้าเริ่มสาง สวี่ซื่อจึงค่อยๆ ขยับร่างกายที่แข็งทื่อ

เติงจือรีบรุดเข้าไปประคอง

“ท่านโหวกลับมาหรือยัง” สวี่ซื่อหน้าซีดขาว ท่าทางอ่อนล้า

เติงจือส่ายศีรษะ “ท่านโหวไม่ได้กลับมาทั้งคืน”

สวี่ซื่อจับมือของเติงจือ นางหลับตาลงเพื่อระงับความกลัวและความสงสัยในก้นบึ้งของดวงตา

นางไม่กล้าคิดว่าท่านโหวจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่

“ฮูหยิน ข้าไปสืบความมาแล้ว”

“เมื่อคืนนี้ ทหารองครักษ์ค้นจวนตระกูลสวี่ทุกซอกทุกมุม พวกเขาขุดเจอจดหมายเลือดใต้ต้นไม้คอคดนอกห้องส่วนตัวของฮูหยิน เวลานี้ นายท่านสวี่คุกเข่าอยู่หน้าห้องทรงพระอักษรรอการไต่สวน” อิ้งเสวี่ยเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ทันทีที่มีการปิดล้อม นางก็รีบไปสืบข่าว

ทั้งอิ้งเสวี่ยและเจวี๋ยซย่าต่างก็เป็นกังวล แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฮูหยิน ความกังวลก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

แต่เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองอีกครั้ง กลับยังเห็นว่าคิ้วของฮูหยินยังคงขมวดเป็นปมอยู่ สงสัยพวกนางจะมองผิดไป

สวี่ซื่อเม้มริมฝีปากแน่น แต่ยังคงไม่พูดอะไร

ส่วนตระกูลลู่เชี่ยวชาญด้านการทหาร แต่ลู่หย่วนเจ๋อนั้นมีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จึงเลือกเดินบนเส้นทางงานบริหาร ตลอดหลายปีที่ผ่านมาชีวิตราชการจึงหยุดนิ่งอยู่กับที่

โชคยังดีที่ได้แต่งงานกับสวี่ซื่อ จึงมีโอกาสได้เติบโตขึ้นมาบ้าง

แต่เมื่อเปรียบกับตระกูลเจียง ตระกูลลู่ก็ยังด้อยกว่าเล็กน้อย

“ตอนนั้นคุณชายเยี่ยนซูเก่งกาจมีปัญญา พวกเขาเองนั่นแหละที่มาขอหมั้นหมาย” เติงจือช่วยสวี่ซื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อเห็นว่าสีหน้าของสวี่ซื่อดีขึ้นมาบ้าง จึงประคองนางออกจากห้อง

สวี่ซื่อชะงักฝีเท้า “อุ้มเจาเจาไปด้วย”

เจาเจาน้อยอายุครบสี่สิบวันแล้ว ตอนนี้นางโตขึ้นมากราวกับถูกเป่าลม นางอวบอ้วนตัวกลม ใบหน้าจิ้มลิ้มยิ้มแย้ม ใครเห็นเป็นต้องอารมณ์ดี

เมื่อสวี่ซื่อไปถึงโถงด้านหน้าจวน ฮูหยินเจียงก็นั่งทำหน้าบูดบึ้งรออยู่สักพักหนึ่งแล้ว

บนโต๊ะมีถาดวางอยู่ บนถาดนั้นถูกคลุมด้วยผ้าสีแดง

ฝีเท้าของสวี่ซื่อชะงักเล็กน้อย

“น้องสวี่ ไม่ได้เจอกันเสียนาน ข้าไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงรับขวัญเดือนด้วย พี่สาวคนนี้รู้สึกเสียใจจริงๆ” ฮูหยินเจียงถอนหายใจ แต่บนใบหน้ากลับมีแววไม่ชอบมาพากล

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์