สิ่งที่ลูกสาวพูดเป็นเรื่องจริง
นางทั้งเศร้าและหวาดกลัว
คืนนี้
สวี่ซื่อนอนไม่หลับทั้งคืน นางยืนอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ ทอดสายตาเหม่อมองไปยังจวนตระกูลสวี่ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ถนน
ที่นั่น แสงไฟสว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า คลับคล้ายคลับคลาจะได้ยินแว่วเสียงครวญครางดังมาจากอีกฝั่ง
“ฮูหยิน ตระกูลสวี่จะไม่เป็นไร” เมื่อเติงจือกุมมือของฮูหยิน ก็พบว่ามือของนางเย็นเฉียบ ร่างกายของนางก็สั่นเทิ้มไปหมด
ริมฝีปากของสวี่ซื่อเปลี่ยนเป็นสีม่วง ร่างกายของนางสั่นเทา ต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเค้นคำพูดออกมาจากลำคอได้
“เกือบแล้ว...เกือบไปแล้ว...” ตระกูลสวี่เกือบจะล่มสลายแล้ว
โชคดีที่นางได้ยินเสียงในใจของเจาเจา
เจาเจาของนางคือสมบัติล้ำค่าที่สวรรค์ประทานมาให้
จวบกระทั่งฟ้าเริ่มสาง สวี่ซื่อจึงค่อยๆ ขยับร่างกายที่แข็งทื่อ
เติงจือรีบรุดเข้าไปประคอง
“ท่านโหวกลับมาหรือยัง” สวี่ซื่อหน้าซีดขาว ท่าทางอ่อนล้า
เติงจือส่ายศีรษะ “ท่านโหวไม่ได้กลับมาทั้งคืน”
สวี่ซื่อจับมือของเติงจือ นางหลับตาลงเพื่อระงับความกลัวและความสงสัยในก้นบึ้งของดวงตา
นางไม่กล้าคิดว่าท่านโหวจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่
“ฮูหยิน ข้าไปสืบความมาแล้ว”
“เมื่อคืนนี้ ทหารองครักษ์ค้นจวนตระกูลสวี่ทุกซอกทุกมุม พวกเขาขุดเจอจดหมายเลือดใต้ต้นไม้คอคดนอกห้องส่วนตัวของฮูหยิน เวลานี้ นายท่านสวี่คุกเข่าอยู่หน้าห้องทรงพระอักษรรอการไต่สวน” อิ้งเสวี่ยเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ทันทีที่มีการปิดล้อม นางก็รีบไปสืบข่าว
ทั้งอิ้งเสวี่ยและเจวี๋ยซย่าต่างก็เป็นกังวล แต่เมื่อเห็นสีหน้าของฮูหยิน ความกังวลก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
แต่เมื่อแหงนหน้าขึ้นมองอีกครั้ง กลับยังเห็นว่าคิ้วของฮูหยินยังคงขมวดเป็นปมอยู่ สงสัยพวกนางจะมองผิดไป
สวี่ซื่อเม้มริมฝีปากแน่น แต่ยังคงไม่พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์