เสี่ยวเจาเจาโมโหกัดฟันกรอด แต่เอ๊ะ นางไม่มีฟันนี่นา นางกัดจนเหงือกแดงไปหมดแล้ว
หากนางมีฟันนะ นางจะคลานไปกัดฮูหยินนั่นเดี๋ยวนี้เลย หน้าไม่อายจริงๆ!
พี่ใหญ่ของนางแปดขวบก็สอบได้ซิ่วไฉแล้ว!
สมัยนั้นน่ะ พวกเราเหยียบตระกูลเจียงแทบจมดิน!
สวี่ซื่อโบกมือด้วยสีหน้าเรียบเฉย เจวี๋ยซย่ายกถาดเข้ามาด้วยดวงตาที่แดงฉานเพราะความโกรธ
“ถอนหมั้น”
“แต่ไม่ใช่ตระกูลเจียงที่เป็นฝ่ายถอนหมั้นเยี่ยนซูของข้า”
“เป็นเยี่ยนซูต่างหากที่ถอนหมั้นอวิ๋นเหมี่ยนแห่งตระกูลเจียง”
“เยี่ยนซูลูกชายข้า ไม่เคยทำผิดต่อฟ้า ไม่เคยกร้ำกรายผู้ใด เพื่อช่วยเจียงอวิ๋นเหมี่ยนแล้ว เขายอมสละกระทั่งชีวิต ลูกชายข้าเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรมสมชายชาตรี”
“ตระกูลเจียงดูถูกลูกชายข้า ทั้งยังซ้ำเติมเขาที่ตกยาก ไม่คู่ควรจะแต่งงานเป็นภรรยาของเยี่ยนซู”
“ตระกูลลู่ของเราขอถอนหมั้นกับเจียงอวิ๋นเหมี่ยน!” สวี่ซื่อขว้างจี้หยกที่เป็นของแลกเปลี่ยนหมั้นหมายลงบนพื้นจนแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าธารกำนัล
[ดีๆ ท่านแม่จุดจ๋วยทำดีมาก!]
[ตระกูลเจียงจะต้องได้รับผลกรรม!]
เจาเจาดีใจแกว่งขาสั้นๆ ไปมา อิ้งเสวี่ยไม่ทันอุ้มนางให้มั่น เกือบจะหลุดออกจากห่อผ้าไปแล้ว
อิ้งเสวี่ยตกใจจนเหงื่อผุดซึมเต็มหน้า
เศษหยกที่แตกกระจายบนพื้นกระเด็นพุ่งขึ้นเฉียดคิ้วของฮูหยินเจียง
คมของเศษหยกบาดคิ้วนางจนปรากฏรอยเลือดสีแดง
หัวใจของฮูหยินเจียงเต้นรัว รู้สึกถึงความกังวลอย่างบอกไม่ถูก
“เจ้า!” นางคิดไม่ถึงเลยว่าสวี่ซื่อที่เคยบอบบางจะเด็ดขาดถึงเพียงนี้
เรื่องนี้ ตระกูลเจียงเป็นฝ่ายผิด นางเองก็ไม่อยากให้ลูกสาวถูกตราหน้าว่าเป็นคนลืมคุณคน แต่เทียบกันแล้ว สิ่งสำคัญเหนืออื่นใดเวลานี้คือต้องถอนหมั้น
เมื่อถอนหมั้นแล้ว ถึงจะมีทางเลือกที่ดีกว่า
“หนังสือหมั้นหมายในตอนนั้น ก็เอาออกมาด้วยเถอะ” ฮูหยินเจียงโกรธจนใบหน้าเขียวคล้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์