หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 269

สวี่ซื่อมีสีหน้ากระอักกระอ่วน “พี่ใหญ่ เขาก็กระตือรือร้นต่ออวิ๋นเหนียงมากเกินไปเช่นกัน”

สวี่ซื่อเอ่ยด้วยเสียงเกรงใจ

ดูเหมือนฮ่องเต้อยากจะมีความสัมพันธ์แบบชายหญิงที่ไม่เหมาะสมกับนาง!

แต่ว่ากลับถูกนางปฏิเสธ

สวี่ซื่ออี้ถิง????

ทันทีที่ลู่เจาเจามาถึงห้องทรงพระอักษร ก็ได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธดังออกมาจากในห้อง

“ไร้ประโยชน์ ล้วนแต่ไร้ประโยชน์ทั้งนั้น!”

“เงินที่ข้าให้ยืมไป กลับเอาคืนมาไม่ได้!”

“จะเลี้ยงดูพวกเจ้าไปเพื่อประโยชน์อะไรกัน?” ฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนัก อย่าคิดว่าเขาไม่รู้กลุ่มขุนนางชราเหล่านี้ล้วนร่ำรวยมากกว่าเขา

เงินที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนให้ยืมไป จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้คืนมา

“ฝ่าบาท กระหม่อมเก็บเงินมาได้เพียงสามพันตำลึง พวกเขาต่างก็บอกว่าไม่มีเงิน” ใต้เท้าอู๋ผู้ช่วยเจ้ากรมคลังต่างก็มีสีหน้าขมขื่น เรื่องเก็บหนี้เช่นนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่ารื่นรมย์และเปลืองแรงที่สุด

ไม่แน่หากทำลวกๆ ก็อาจจะล่วงเกินพวกขุนนางทั้งราชสำนักก็ได้

“เจ้ากรมขุนนางว่าอย่างไร? ตอนแรกเขายืมเงินสามหมื่นตำลึงจากคลังหลวง เป็นเวลามายี่สิบปีแล้ว!” ฮ่องเต้ถลึงตาด้วยความเดือดดาล

ใต้เท้าอู๋ปาดเหงื่อ ไหนเลยเขาจะกล้าไปถามเจ้ากรมขุนนาง?

“ใต้เท้าโจวบอกว่า หากต้องการเงินตอนนี้ยังไม่มี อย่างมากก็ให้ฝ่าบาทหักจากเงินเดือนก็พอพ่ะย่ะค่ะ” ใต้เท้าอู๋คอหดไป

“เงินเดือน? ไม่ต้องหักไปตลอดชีวิตเขาเลยหรือ!!”

“กระหม่อมส่งคนไปค้นดูแล้วในจวนว่างเปล่าเหมือนย้ายออกจนหมดพ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าอู๋เช็ดมือของเขาด้วยเหงื่อเย็นชา อย่าให้ข้าไปทวงหนี้อีกเด็ดขาด

ฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนักจนรู้สึกเวียนหัว

ขุนนางเฒ่าแซ่โจวผู้นี้ มักจะทำตัวเหมือนคนจน ทำให้คนอื่นจับจุดอ่อนเขาไม่ได้

รัชทายาทเห็นเงาเล็กๆ อยู่นอกประตู ก็รีบเดินเข้าไปอุ้มนางเข้ามา “ไม่ร้อนหรือ?”

จากนั้นก็หันหน้ากลับมาสั่งให้ขันทีไปนำเมล็ดแตงแก้ร้อนเข้ามา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์