คนของตระกูลเซวียทั้งหมดคุกเข่าตรงหน้าโต๊ะสักการะ เซวียหวงคุกเข่าอยู่ด้านหน้าสุด
“นำของมา” อาจารย์ยื่นมือออกไป
หญิงสาวยื่นผ้าเช็ดหน้าของลู่เจาเจาไปให้
จากนั้นนำกระดาษสีเหลืองที่เขียนชะตาวันเกิดของลู่เจาเจาไปจุดไฟ
แล้วโยนเข้าไปในกะละมังทองเหลือง
“นำเลือดของเจ้าหยดลงในกะละมังทองเหลือง” อาจารย์เอ่ยเสียงดัง
เซวียหวงรีบกรีดนิ้วตัวเองจนเป็นแผล แล้วหยดเลือดลงไป
ยืมชีวิตเริ่มขึ้นแล้ว
สุสานหลวงสกุลเซวียไม่มีคนคอยดูแล้ว
ตอนนี้จึงดูน่ากลัวไม่น้อย
ขุนนางเก่าที่ยังนึกถึงวันวานแอบปาดน้ำตา
ใช่ว่าไม่พอใจฮ่องเต้เซวียนผิง แต่ว่า...ทุกสิ่งไม่เหมือนเดิม จึงรู้สึกปวดใจเท่านั้น
สกุลเซวียล่มสลาย พวกเขาก็เป็นขุนนางไร้ดินแดนเช่นกัน
หลายปีมานี้เพื่อแสดงความภักดี พวกเขาไม่กล้าติดต่อตระกูลเซวียเลย
หลายสิบปีมานี้ไม่เคยย่างกรายเข้ามาในสุสานหลวงสกุลเซวียเลย
ตอนนี้เมื่อคุกเข่าสักการะผู้เป็นนายเก่า ในใจจึงเจ็บปวดอยู่บ้าง
การที่ฮ่องเต้เซวียนผิงให้พวกเขาร่วมสักการะ จะเป็นเพราะระแวงก็ดี เชื่อใจก็ดี ไม่มีใครรู้เลย
แต่ใจที่คิดจะสักการะเป็นของจริง
“ผ้าเช็ดหน้าที่พวกเขาเผา ดูคุ้นตายิ่งนัก...” ขุนนางเก่าบางคนเอ่ยเสียงค่อย เพียงแต่นึกอยู่นานก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
“เหมือนพวกเขากำลังทำพิธีบางอย่าง”
เมื่อเหล่าขุนนางเห็นภาพที่เกิดขึ้น ในใจพอคาดเดาได้บ้าง แต่ก็ไม่รู้ความจริง
เซวียหวงสูดหายใจเข้าลึกๆ
เขากรีดนิ้วแล้วหยดลงในกะละมังทองเหลือง
วินาทีที่เลือดสัมผัสเปลวไฟ
ทันใดนั้น...
เกิดเสียงฟู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
สนุกมากกกก...
ขอบคุณ อ่านสนุกมากค่ะ...
สนุกมาก ๆ อ่านซ้ำ ละ อยากให้ลงหลาย ๆ บทค่ะ ขอบคุณมากนะคะ...
อยากให้ลงต่อเนื่องค่ะ หลายเรื่องที่อ่านและลงไม่จบเรื่องเลยอยากให้ลงจบทุกเรื่อง...
ไม่ลงหลายวันแล้วค่ะคิดถึงนะคะ admin อยากให้นำมาลงต่อเนื่องค่ะสนุกมาก...
สนุกมาก ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ...
ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ admin...
ตัวเอก 2 คนต่างคนก็มีดีคนละอย่าง...