หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 41

“อวิ๋นเหนียง ตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือว่าจะไม่กลับไปที่ตระกูลสวี่ชั่วคราวน่ะ?” ในคืนวันแต่งงานเขาถลกขากางเกงขึ้นให้สวี่ซื่ออวิ๋นเห็นรอยหัวเข่าบวมแดงที่ตัวเองคุกเข่าสามวันสามคืน

เขาพูดขึ้นรู้ดีว่าตระกูลสวี่ดูถูกเขา เวลาที่เขาเจอท่านพ่อและพี่ชายมักจะเงยหน้าขึ้นไม่ได้ในใจรู้สึกอัดอั้นเป็นอย่างยิ่ง

การเกลี้ยกล่อมของสวี่ซื่อทำให้แตกหักกับตระกูลของนางทีละนิด

[ท่านแม่ เขาล้างสมองท่านอีกแล้ว!!] ลู่เจาเจาตะโกนเสียงดังอย่างโกรธเคือง

และขณะนี้

“ข้าพูดตัดพ้อก็เพราะท่านไม่กลับบ้านมาสิบเจ็ดปี ท่านพ่อเจ้าก็แก่ชราท่านแม่เองก็ผมหงอกเต็มหัว ท่านพี่ลู่ ข้าทำเพื่อท่านมามากพอแล้ว” สวี่ซื่ออุ้มลู่เจาเจาแล้วบีบแก้มของลูกสาว

“นอกจากนี้ ท่านพี่ลู่การเลื่อนตำแหน่งไม่ใช่เรื่องง่ายหากท่านไปขอร้องพี่ใหญ่กับท่านพ่อ พวกเขาจะต้องช่วยเหลือท่านอย่างแน่นอน”

คำพูดของสวี่ซื่อทำให้ลู่หย่วนเจ๋อสีหน้าขุ่นเคือง

ลู่หย่วนเจ๋อให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ครอบครัวของนาง แต่ไม่ยอมที่จะไม่เห็นแก่หน้าอีกสวี่ซื่อยังคงเกลี้ยกล่อมเขาให้ยอมรับความช่วยเหลือของตระกูลสวี่อยู่เสมอ

ช่างดื้อด้านเสียจริงเลย

“ลูกผู้ชายแข็งแกร่งกล้าหาญจะขอร้องคนอื่นได้อย่างไรกัน! นอกจากนี้ก็เพื่อเป็นหน้าเป็นตาแก่เจ้าด้วยไม่ใช่หรือ?” ลู่หย่วนเจ๋อข่มอารมณ์โกรธไว้ดึงมืออวิ๋นเหนียงสีหน้าเปี่ยมด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้ง

สวี่ซื่อรู้สึกอึดอัดไปทั่วทั้งร่างกายจึงชักมือกลับโดยไม่รู้ตัว

“พ่อของข้าคือท่านอาจารย์ของโอรสสวรรค์พี่ใหญ่เป็นขุนนางชั้นเอกระดับสอง ส่วนตัวข้าก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นฮูหยินตราตั้งขั้นสาม ท่านพี่ลู่ ตัวข้าไม่ได้ขาดเกียรติยศเลยสักนิดเดียว”

“ข้ายอมให้ท่านลำบากมากเกินไปไม่ได้จริง ๆ”

คำพูดประโยคนี้ของสวี่ซื่อได้เหยียบย่ำความหยิ่งในศักดิ์ศรีของลู่หย่วนเจ๋อเข้าแล้วจริง ๆ

ลู่หย่วนเจ๋อสั่นสะท้านไปทั่วทั้งร่างกาย

เขารู้สึกว่าสวี่ซื่อเปลี่ยนไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์