“ก็ไม่รู้ว่าไปเห็นอะไร ทำให้โดนกระตุ้น นายหญิงใหญ่ร้องโหยหวน แล้วล้มลงกับพื้นทันที กระแทกเข้ากับขอบโต๊ะ เลือดไหลอาบศีรษะ”
“พอฟื้นขึ้นมาก็ปากเบี้ยว น้ำลายไหล พูดจาไม่ชัด ร่างกายครึ่งท่อนขยับไม่ได้ เป็นอัมพาตแล้ว!”
ทุกคนตกตะลึง
“สมน้ำหน้า หลอกลวงท่านแม่มาสิบแปดปี นี่คือผลกรรม!” ลู่หยวนเซียวที่อายุสิบขวบยังเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ตะโกนด่าทันที
สวี่ซื่อส่ายหน้าเบาๆ “หยวนเซียวด่าที่บ้านก็พอแล้ว อยู่ข้างนอกห้ามพูดนะ”
“เจ้ายังต้องเข้าสอบจอหงวน ห้ามมีจุดอ่อนให้ผู้อื่นโจมตีเด็ดขาด”
คนอื่นสามารถด่าได้ แต่ถ้าหลานชายแท้ๆ ด่า นี่คือการทำลายชื่อเสียง
โลกก็เป็นแบบนี้มาตลอด
[โอ้โห โอ้โห ได้ยินว่าเผยซื่อโกนผมของชู้รัก ให้ปลอมตัวเป็นพระเกจิเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านล่ะ!]
[นายหญิงใหญ่ คงไม่ได้จับได้คาหนังคาเขาหรอกนะ] ลู่เจาเจาแอบหัวเราะคิกคัก
ตื่นเต้น ตื่นเต้นจริงๆ
[อยากกินเผือก อยากกินเผือกอย่างบ้าคลั่ง…]
อยากกินเผือก อย่าห้ามลู่เจาเจา!
สวี่ซื่อบีบผ้าเช็ดหน้า มุมปากโค้งขึ้นอย่างบ้าคลั่ง กลั้นเอาไว้ไม่อยู่
นางกระแอมในลำคอ และไอแห้งๆ
บนใบหน้าที่สง่างาม น้ำเสียงค่อนข้างเศร้า “แม้ว่าพวกเจ้าจะถูกขับไล่ออกจากบ้าน ตัดออกจากวงศ์ตระกูล แต่ในสายตาของคนอื่น ก็ยังมีบุญคุณที่เลี้ยงดูอยู่”
“นายหญิงใหญ่เกิดเรื่อง ไปเยี่ยมสักหน่อยจะได้ปิดปากคนที่พูดจาเหลวไหลได้”
สวี่ซื่อนั่งตัวตรง พูดอย่างจริงจังว่า
“การสอบขุนนางรอบแรกใกล้เข้ามาแล้ว เจิ้งเย่ว์เพิ่งเข้าค่ายทหาร หยวนเซียวปีหน้าจะเข้าร่วมการสอบสำหรับเด็ก ต้องใช้เวลาอ่านหนังสือให้มากขึ้น”
“ดังนั้น…”
“แม่จะไปเยี่ยมแทนพวกเจ้า”
สวี่ซือจ้องด้วยสายตาที่เป็นประกาย กินเผือกกินเผือกกินเผือก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
สนุกมากกกก...
ขอบคุณ อ่านสนุกมากค่ะ...
สนุกมาก ๆ อ่านซ้ำ ละ อยากให้ลงหลาย ๆ บทค่ะ ขอบคุณมากนะคะ...
อยากให้ลงต่อเนื่องค่ะ หลายเรื่องที่อ่านและลงไม่จบเรื่องเลยอยากให้ลงจบทุกเรื่อง...
ไม่ลงหลายวันแล้วค่ะคิดถึงนะคะ admin อยากให้นำมาลงต่อเนื่องค่ะสนุกมาก...
สนุกมาก ขอบคุณที่ลงให้อ่านนะคะ...
ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ admin...
ตัวเอก 2 คนต่างคนก็มีดีคนละอย่าง...