หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 64

ครั้งนั้น ดวงตาขององค์ชายสี่กลายเป็นสีแดง เขากัดและดูดเลือดเสียนเฟยราวกับเป็นสุนัข

เหมือนโดนวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง

เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีความทรงจำหลงเหลืออยู่

สามวันนั้น วิญญาณชั่วร้ายก็เข้าครอบงำร่างกาย

“ที่น่าสงสารที่สุดคือเขาไม่กล้าลืมตาก่อนอายุสามปี ทุกวันมักจะใช้ผ้าขาวปิดตาไว้” ตอนเด็กเขามักจะมองเห็นผี นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นเด็กที่ดูแลยาก

“ไม่มีวิธีที่จะหยุดยั้งวิญญาณชั่วร้ายเลยหรือ? พระวัดฮู่กั๋วก็ทำอะไรไม่ได้เลย?”

“เกิดมาก็ร่างกายอ่อนแอ อาศัยอยู่ในวัดที่หนาวเย็น ถูกแยกออกจากพ่อแม่ ซ้ำยังต้องกังวลว่าร่างกายจะถูกฉกฉวยไปตอนไหน”

ก่อนหน้านี้ลู่หยวนเซียวมักจะรู้สึกว่าองค์ชายสี่เย็นชา แต่บัดนี้กลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างน่าสงสาร

หลี่ซือฉีส่ายหน้า “ท่านเจ้าอาวาสทำได้แค่ช่วยให้เขาแคล้วคลาดบางครั้งเท่านั้น เสียนเฟยเหนียงเหนียงพลิกวิธีทั่วโลกหล้าแต่ก็ยังไม่มีทางนั้น”

ทั้งสองคนร่วมดูแลเด็กเล็กด้วยกัน จึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้แย่นัก

“ง่ายแบบนี้เลย?”

“ลองตัดผมข้าไปดูสิ แม้แต่ยมบาลก็ยังกลัว” ลู่เจาเจายกแขนขาขึ้นมาโบกไปโบกมา ปากส่งเสียงอ้อแอ้ไม่หยุด

นางค้นพบว่าทุกครั้งที่นางส่งเสียงก็จะมีส่วนช่วยในการออกเสียง

เฮ้อ แต่การอมนิ้วมันติดตัวมาตั้งแต่เกิด ควบคุมไม่ได้จริงๆ

อีกทั้งช่วงนี้นางยังรู้สึกคันฟัน ดูท่าฟันน่าจะเริ่มขึ้นแล้ว

ลู่เจาเจาหงุดหงิดจนกำผม

“เอ๊ะๆๆ อย่าจับๆ มีแค่ไม่กี่เส้น เดี๋ยวจะหัวล้านเอา” ลู่หยวนเซียวได้ยินนางพูดเรื่องผมก็หันมาสนใจ

ผมของนางยังไม่ได้ตัด ยังคงปล่อยไว้

แต่เขากลับรู้สึกสงสัยในตัวน้องสาว เส้นผมเล็กๆ สองเส้นของนางจะช่วยป้องกันวิญญาณชั่วร้ายได้จริงหรือ?

บ่ายวันหนึ่ง ทั้งสองก็ได้พัฒนามิตรภาพอันลึกซึ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์