ครั้งนั้น ดวงตาขององค์ชายสี่กลายเป็นสีแดง เขากัดและดูดเลือดเสียนเฟยราวกับเป็นสุนัข
เหมือนโดนวิญญาณชั่วร้ายเข้าสิง
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีความทรงจำหลงเหลืออยู่
สามวันนั้น วิญญาณชั่วร้ายก็เข้าครอบงำร่างกาย
“ที่น่าสงสารที่สุดคือเขาไม่กล้าลืมตาก่อนอายุสามปี ทุกวันมักจะใช้ผ้าขาวปิดตาไว้” ตอนเด็กเขามักจะมองเห็นผี นี่คือสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นเด็กที่ดูแลยาก
“ไม่มีวิธีที่จะหยุดยั้งวิญญาณชั่วร้ายเลยหรือ? พระวัดฮู่กั๋วก็ทำอะไรไม่ได้เลย?”
“เกิดมาก็ร่างกายอ่อนแอ อาศัยอยู่ในวัดที่หนาวเย็น ถูกแยกออกจากพ่อแม่ ซ้ำยังต้องกังวลว่าร่างกายจะถูกฉกฉวยไปตอนไหน”
ก่อนหน้านี้ลู่หยวนเซียวมักจะรู้สึกว่าองค์ชายสี่เย็นชา แต่บัดนี้กลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างน่าสงสาร
หลี่ซือฉีส่ายหน้า “ท่านเจ้าอาวาสทำได้แค่ช่วยให้เขาแคล้วคลาดบางครั้งเท่านั้น เสียนเฟยเหนียงเหนียงพลิกวิธีทั่วโลกหล้าแต่ก็ยังไม่มีทางนั้น”
ทั้งสองคนร่วมดูแลเด็กเล็กด้วยกัน จึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ได้แย่นัก
“ง่ายแบบนี้เลย?”
“ลองตัดผมข้าไปดูสิ แม้แต่ยมบาลก็ยังกลัว” ลู่เจาเจายกแขนขาขึ้นมาโบกไปโบกมา ปากส่งเสียงอ้อแอ้ไม่หยุด
นางค้นพบว่าทุกครั้งที่นางส่งเสียงก็จะมีส่วนช่วยในการออกเสียง
เฮ้อ แต่การอมนิ้วมันติดตัวมาตั้งแต่เกิด ควบคุมไม่ได้จริงๆ
อีกทั้งช่วงนี้นางยังรู้สึกคันฟัน ดูท่าฟันน่าจะเริ่มขึ้นแล้ว
ลู่เจาเจาหงุดหงิดจนกำผม
“เอ๊ะๆๆ อย่าจับๆ มีแค่ไม่กี่เส้น เดี๋ยวจะหัวล้านเอา” ลู่หยวนเซียวได้ยินนางพูดเรื่องผมก็หันมาสนใจ
ผมของนางยังไม่ได้ตัด ยังคงปล่อยไว้
แต่เขากลับรู้สึกสงสัยในตัวน้องสาว เส้นผมเล็กๆ สองเส้นของนางจะช่วยป้องกันวิญญาณชั่วร้ายได้จริงหรือ?
บ่ายวันหนึ่ง ทั้งสองก็ได้พัฒนามิตรภาพอันลึกซึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
อ้าว ลงไม่จบอีกแล้ว...
สนุกมากค่ะ...
โอ๊ยสนุกค่ะ อัพเยอะๆเลยนะคะเรื่องนี้...
ขอบคุณสนุกมากค่ะ...