หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 93

นางฝืนทนกล้ำกลืนทีละน้อย ใช้ชีวิตทนมาสามเดือน ใครจะไปรู้ว่ากู้หลิงยิ่งจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ ...

ครั้งนี้มัดนางเอาไว้จากนั้นก็ทุบตีนางจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล

ไม่ง่ายเลยที่จะหนีออกมาได้

“พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ข้าผิดไปแล้ว ล้วนเป็นหว่านอี้ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี หว่านอี้ทำลายความเมตตาของท่าน หว่านอี้รู้ผิดแล้ว” เหมือนหว่านอี้คุกเข่าอยู่ตรงเท้านาง ไหนเลยจะมีท่าทีเหมือนดังวันก่อน ที่ทิ้งข้อความอย่างเย่อหยิ่งถึงสวี่ซื่อ

“กู้หลิงคนนั้นเป็นคนบ้า ต่อหน้าเป็นสุภาพบุรุษ แต่ลับหลังเป็นคนบ้า เมื่อไปข้างนอกและได้รับความโกรธ ได้รับความอยุติธรรมมา กลับมาก็ทุบตีผู้หญิง เจ้าสาวที่ถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็กของเขาก็ถูกเขาทุบตีจนตาย ท่านแม่ เขาต้องตีข้าถึงตายแน่!” ลู่หว่านอี้นึกถึงท่าทางที่ดุร้ายของเขาก็ขนลุกไปทั้งตัว

ครั้งนี้นางหนีออกมาแล้ว นางไม่อาจกลับไปตระกูลกู้ได้อีกแล้ว!

พอเป็นเช่นนี้นายหญิงใหญ่ถึงนึกถึงสวี่ซื่อขึ้นมา “อวิ๋นเหนียง ให้พวกเขาหย่ากันเถอะ ให้พวกเขาหย่ากัน! นี่เป็นการทรมานหว่านอี้ถึงตายเลยนะ!” นายหญิงใหญ่เจ็บปวดใจจนทนไม่ไหว

“ผู้ชายที่ทุบตีผู้หญิงต้องทิ้งไป ต้องหย่าเดี๋ยวนี้!”

[สองมาตรฐานชัด ๆ ทีพ่อเลวตีท่านแม่ของข้า ยังให้ท่านแม่ข้าคิดสำนึกผิด...ตอนนี้พอลูกสาวโดนทุบตีบ้าง ก็มาเรียกร้องขอความเป็นธรรม และยังเรียกร้องที่จะหย่า...]

[สมควรแล้ว ๆ ๆ ตีให้ตายไปเลย!]

สวี่ซื่อถอนหายใจออกมา และก็ทำสีหน้ากังวลใจ “ท่านแม่ เรื่องนี้ไม่ควรพูดเช่นนี้นะเจ้าคะ”

“สองสามีภรรยาทะเลาะกัน ไหนเลยจะเอามาเป็นเรื่องจริงจังได้ สามีภรรยาทะเลาะขัดแย้งกันเดี๋ยวก็ดีกัน คำพูดที่โกรธกันชั่วขณะไม่ควรเก็บมาจริงจังนะเจ้าคะ”

“อีกอย่างลูกเขยก็เป็นลูกผู้ชาย ลูกผู้ชายได้รับความอารมณ์กดดันจากขุนนางในราชสำนักมา เราเป็นผู้หญิงก็ควรจะช่วยแบ่งเบาภาระบ้าง อีกอย่าง...” สวี่ซื่อเงยหน้าขึ้นมาพลางมองไปที่ลู่หว่านอี้ที่ตอนนี้กลายเป็นหินไปแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์