หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 961

สรุปบท ตอนที่ 961: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 961 – หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บท ตอนที่ 961 ของ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Jaroen อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ผู้น้อง นี่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!” องค์ชายสามมีสีหน้าเปลี่ยนไปและถามขึ้นอย่างรวดเร็ว

“เจ้าน่ะเป็นถึงกษัตริย์ของแคว้น แล้วไปคำนับเด็กน้อยโง่เขลาได้อย่างไร!”

เซวียนจี้ชวนไม่แม้แต่จะหันกลับมามองตามเสียงนั้น หลังจากลู่เจาเจาพยักหน้ารับ เขาจึงเดินไปอยู่ข้างหลังของนาง

ดวงตาของเซวียนจี้ชวนเย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน

“กษัตริย์ของแคว้น?”

“ท่านไม่รู้หรือ ว่าตอนที่ข้าอยู่เป่ยเจา ข้าเป็นองครักษ์ขี่ม้าให้กับนาง” เซวียนจี้ชวนกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ แต่สีหน้าเรียบเฉย

ใบหน้าขององค์ชายสามแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไร!

“เจ้าคือฮ่องเต้ตงหลิงผู้สง่างาม พวกเขาไม่ปฏิบัติต่อเจ้าในฐานะมนุษย์ ให้เจ้าเป็นองครักษ์และเป็นคนรับใช้เช่นนั้น! เจ้าไม่อยากเอาคืนอย่างภาคภูมิใจเสียหน่อยหรือ” เขาเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่าฮ่องเต้ตงหลิงจะยอมช่วยเหลือ เพราะครั้งหนึ่งเซวียนจี้ชวนเคยทำงานเป็นคนรับใช้ในเป่ยเจา

เซวียนจี้ชวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ

ไม่มีใครเคยรู้… ว่าตอนที่เขาติดตามรับใช้ลู่เจาเจาในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาถูกปฏิบัติเหมือนเป็นมนุษย์

แม้แต่เซวียนอินพี่สาวของเขาก็รอดชีวิตมาได้เพราะนาง

เซวียนจี้ชวนมองเขาจากด้านบน

“เมื่อคืนองค์ชายสามแห่งแคว้นใต้พยายามสมคบคิดก่อกบฏกับเรา ยังไม่รีบจับกุมตัวเขาอีก!”

ลู่เจาเจาโบกมือเล็ก ทหารจึงกรูกันเข้ามาจับตัวเขาเอาไว้จนขยับไปไหนไม่ได้

“ผู้น้อง แม่ของเจ้ากับข้าเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน! เจ้าคิดช่วยเหลือคนนอกมากกว่าคนในครอบครัวงั้นหรือ”

“เจ้าเป็นฮ่องเต้ เจ้าจะยอมจำนอนต่อนางได้อย่างไร!”

“เจ้าเต็มใจหรือ เต็มใจหรืออย่างไร” องค์ชายสามถูกปิดปากและถูกพาตัวออกไปทันที

เซวียนจี้ชวนพลันลดสายตาลง สำหรับนางแล้วเขาเต็มใจเป็นคนรับใช้เสมอ

ขณะที่เหล่าองค์ชายและองค์หญิงต่างมองหน้ากัน ก่อนจะพากันคุกเข่าลงเสียงดัง

องค์หญิงเจ็ดกล่าวขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัด “ขอแสดงความยินดีที่กับฮ่องเต้องค์ใหม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ ขอให้แคว้นของเรายั่งยืนมั่นคง พสกนิกรสุขสงบเพคะ!”

ทุกคนพากันกล่าวสรรเสริญเสียงดังไปตามๆ กัน

นับจากวันนี้ไปลู่เจาเจาจะกลายเป็นฮ่องเต้หญิงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

กว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว

ลู่เจาเจารู้สึกเหนื่อยจนแทบยกขาไม่ขึ้น แต่เด็กน้อยรักเกียรติของตัวเองเกินกว่าจะแสดงสีหน้าออกไป ทำให้เหล่าขุนนางต่างพยักหน้าอย่างยินดี

'อ๊ากกก ขาของข้าจะหักอยู่แล้ว!'

ทว่าขันที่กลับพยายามโน้มน้าวด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก “เพื่อจะแสดงสถานะของกษัตริย์ สิ่งนี้จึงสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในแคว้นใต้นะพ่ะย่ะค่ะ”

“เช่นนั้นก็ยกเลิกที่รุ่นของข้า!”

ลู่เจาเจามักมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา ทว่าขณะนี้แววตาของนางกลับดูเคร่งขรึมจนน่าหวาดกลัว

ขันทีพลันคุกเข่าลงกับพื้น ร่างกายโอนเอนและเริ่มมีเหงื่อเย็นผุดออกมา จากนั้นจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ส่งคนไปถามพวกนาง หากยังยินดีอยู่ในวังต่อไป ทางวังจะดูแลยามแก่ชรา จ่ายเงินเป็นรายเดือนให้และไม่ทำให้พวกนางต้องลำบาก”

“หากอยากติดตามลูกๆ ออกจากวังก็ให้เงินบำนาญก้อนใหญ่ไปก้อนหนึ่ง”

ขันทีถามต่ออย่างสั่นเทา “แล้วหากมีขุนนางใดยินดีถูกร่วมฝังเล่าพ่ะย่ะค่ะ”

ลู่เจาเจาจึงหรี่ตา “จงบอกไปว่าพวกเขาคือขุนนางที่มีความสามารถของฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ เรากังวลว่าฮ่องเต้ผู้ล่วงลับจะไม่คุ้นเคยกับข้างล่างนั่น ให้สังหารพวกเขาไปพร้อมกันทั้งหมด เพื่อลงไปขยายเขตแดนให้กับฮ่องเต้ผู้ล่วงลับ แล้วค่อยรับใช้ฮ่องเต้ผู้ล่วงลับต่อไป”

“พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีตอบรับเสียงสั่นเทา

ผู้ใดที่บอกว่าฮ่องเต้หญิงสามขวบครึ่งคนนี้โง่เขลา

ข่าวลือ ล้วนเป็นข่าวลือ!

สวี่สืออวิ๋นเป็นมารดาโดยสายเลือดของฮ่องเต้องค์ใหม่ และควรถูกเคารพว่าเป็นไทเฮา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์