หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 968

สรุปบท ตอนที่ 968: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

อ่านสรุป ตอนที่ 968 จาก หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

บทที่ ตอนที่ 968 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Jaroen อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เพียงแต่หัวใจคนไม่แน่นอน ผ่านไปหลายปีอีกฝ่ายจะยังจดจำบุญคุณในครั้งนี้ได้หรือไม่

เพลานี้พวกเขาเปรียบเสมือนคนร้องขอในสิ่งที่ไม่มีทางเป็นไปได้

“รอดูไปก่อนว่าติดต่อได้หรือไม่ เพลานี้มีรอยแตกร้าว พวกเขามายังโลกมนุษย์ได้ง่ายกว่าเดิม”

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย

“ให้โหลวจิ่นถังพาลูกศิษย์ไปเฝ้าริมทะเลเอาไว้ หากมีปีศาจบุกเข้ามาให้สังหารทันที” โหลวจิ่นถังได้รับวิชากระบี่ไปจากนาง แต่ไม่คาดคิดว่าจะได้ใช้เร็ววันเช่นนี้

แม่ทัพโหลวพยักหน้ารับคำสั่ง

แม้จิ่นถังจะอายุไม่มาก แต่นางตระหนักรู้เป็นอย่างดี เพลานี้ตระกูลโหลวไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของนางด้วยซ้ำ

ลู่เจาเจาหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนใช้จิตสัมผัสค้นหาไปทั่วมิติ และพบหนังสือโบราณที่เต็มไปด้วยฝุ่นซึ่งมีหน้าฉีกขาด

“พึ่งคนอื่นไม่สู้พึ่งตนเอง พวกเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย”

“หนังสือโบราณเล่มนี้...”

“สิ่งที่บันทึกไว้คือวิชาบำเพ็ญเพียญ แม้มนุษย์ไม่มีรากฐานทางจิตวิญญาณ แต่ก็สามารถฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งจนปกป้องตัวเองได้ หากผู้ใดมีรากฐานทางจิตวิญญาณ คนผู้นั้นจะฝึกฝนได้เหมือนปลาในน้ำ ต่อไปอาจมีส่วนช่วยเหลือโลกมนุษย์ได้เช่นกัน”

“หนังสือโบราณเล่มนี้จะเผาตัวเองหลังจากอ่านจบ”

“หลังจากคัดลอกเสร็จแล้ว ทุกคนจงนำกลับไปคนละชุด” ลู่เจาเจากล่าวกับฮ่องเต้หลายองค์

เมื่อฮ่องเต้ทุกแคว้นได้ยินดังนั้น จึงไม่รอช้ารีบคำนับนางครั้งใหญ่

ฮ่องเต้ซีเย่ว์เดินนำทุกคนออกไป

ดวงตาของนักบวชชั้นสูงของแคว้นฟั่นเป็นประกาย “ฝ่าบาทเจาหยาง ซื่อจื่อน้อยที่อยู่ข้างกายท่านเป็นสาวกของพระพุทธองค์โดยกำเนิด”

“เขาถูกกำหนดให้เป็นของพุทธศาสนา และเป็นพระบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธศาสนาของอาตมา”

“ท่านโปรดอนุญาตให้เขาตามอาตมากลับไปบำเพ็ญเพียรที่แคว้นฟั่นได้หรือไม่...”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ เซี่ยอวี้โจวกลับรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที

“นี่ท่านพระเฒ่า พูดอะไรเหลวไหลเช่นนั้น ใครเป็นสาวกของพระพุทธองค์กัน ใครอยากเป็นอะไรไร้สาระแบบนั้น!”

“ข้ายังอยากมีเมีย อยากแต่งงานและกินเนื้อสัตว์อยู่นะ!”

“ไม่เด็ดขาด ข้าไม่เข้าร่วมพุทธศาสนา!”

แก้มของเซี่ยอวี้โจวเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ เมื่อคืนเขาฝันยังไม่พอ ตื่นมายังมีพระอาจารย์จากแคว้นฟั่นมาเรียกว่าสาวกของพระพุทธองค์อีก

เซี่ยอวี้โจวหันหลังวิ่งหนีไป โดยมีคนจากแคว้นฟั่นวิ่งตามออกไป

อ๋องจิ้งซีมองดูภาพตรงหน้าด้วยสีหน้ามืดมน แต่ในดวงตาของเขากลับมีความประหลาดใจและทำอะไรไม่ถูกแฝงอยู่

“ข้าขอสวัสดีพี่ชายทุกท่าน ต่อไปต้องรบกวนพี่ชายทุกท่านแล้ว”

พวกเขาเม้มริมฝีปากบางและพยักหน้าอย่างเย็นชา

หลังจากที่โหลวจิ่นถังพาพวกเขาออกไป ลู่เจาเจาจึงจับขอบโต๊ะแล้วแกว่งตัวไปมา

“เจาเจา เจ้าแอบปั้นวิญญาณอีกแล้ว!” เสียงอันบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มแฝงไปด้วยความทอดถอนใจ

ลู่เจาเจาจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ด้วยใบหน้าไร้สีเลือด

เด็กหนุ่มมองนางด้วยสายตาตำหนิ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะส่งกระแสพลังวิญญาณเข้าสู่ร่างกายของนาง

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางกลับมาเป็นสีดอกกุหลาบอีกครั้ง เด็กหนุ่มจึงดึงมือกลับ

“เจาเจา เรื่องปั้นวิญญาณมีความสำคัญอย่างยิ่ง เจ้าต้องซ่อนไว้ให้ดี เข้าใจหรือไม่” เด็กหนุ่มคุกเข่าลงพลางมองนางด้วยสายตาลุกโชน

เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า และเช็ดโคลนออกจากปลายนิ้วของนางทีละน้อย

“นั่นเป็นความลับของพวกเรา”

ลู่เจาเจาพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ข้าใส่คาถาลงไปในร่างของหุ่นเชิดดินแล้ว หากใครพยายามค้นหาวิญญาณ มันจะระเบิดตัวเองตาย”

เด็กหนุ่มพลันตอบรับในลำคอเบาๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์