หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 969

สรุปบท ตอนที่ 969: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์

สรุปตอน ตอนที่ 969 – จากเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดย Jaroen

ตอน ตอนที่ 969 ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ โดยนักเขียน Jaroen เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ลู่เจาเจาก้มหัวลง “ข้าไม่ได้อยากเป็นผู้ช่วยชีวิตใคร แต่ข้ามีขีดกำจัดความอดทนของตนเอง”

นางพาเด็กหนุ่มไปที่หน้าต่าง

“เจ้าคือเต๋าสวรรค์ ทุกสรรพสิ่งในสายตาของเจ้าก็เหมือนเมฆหมอกในทะเล ต่อให้โลกมนุษย์ถูกทำลาย เจ้าก็คงไม่รู้สึกอะไร ถูกหรือไม่”

เด็กหนุ่มชะงักก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“แต่ดูนั่น...”

“ภายใต้แสงตะเกียงเหล่านั้นมีครอบครัวอยู่”

เมื่อรวมกันจึงกลายเป็นดวงดาวบรรจบกันเป็นแสงนับพัน

เบื้องหลังของนางยังมีสรรพชีวิตบนโลกมนุษย์

ตอนกลางคืน

จู๋มั่วนอนหลับไปทั้งๆ ที่ยังสวมเสื้อผ้า

ในค่ำคืนเงียบงัน ทุกอย่างยังคงเงียบสงบ

ดอกไม้เล็กที่พลิ้วไหวตามสายลมริมหน้าต่างพลันสั่นไหวเล็กน้อย

ทันใดนั้นมันจึงกลายเป็นเด็กสาวรูปงามภายใต้แสงจันทร์

ดวงตาที่ปิดสนิทของจู๋มั่วสั่นไหวเล็กน้อย แต่ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

เด็กสาวในชุดสีแดงทำความสะอาดบ้านอย่างเงียบๆ

จากนั้นจึงหยิบเสื้อผ้าที่จู๋มั่วผลัดเปลี่ยนเดินออกไปนอกประตู จู๋มั่วสัมผัสได้ว่าไม่มีใครอยู่ในห้องจึงลืมตาตื่นขึ้น

เขายืนอยู่ในเงามืดด้วยหน้าแดงก่ำ เพราะเห็นเด็กสาวกำลังซักเสื้อผ้าของเขา

เมื่อฟ้าใกล้สว่าง นางจึงเดินเข้าไปในห้องครัว

หลังจากยุ่งอยู่สักพักใหญ่ๆ ข้าวต้มและเครื่องเคียงถูกนำออกมาวางเรียงรายบนโต๊ะ เมื่อเห็นว่าจู๋มั่วยังคงหลับสนิทอยู่ นางจึงแปลงกายเป็นดอกไม้เล็กพลิ้วไหวอยู่ที่ขอบหน้าต่างอีกครั้ง

จู๋มั่วอายุหนึ่งพันปีก็จริง แต่เวลาทั้งหมดถูกจองจำอยู่ในคุก

เขาจึงยังเป็นชายผู้บริสุทธิ์

เขาออกมานั่งกินข้าวต้มด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ กินไปยิ้มไปจนไม่เหลือแม้แต่เครื่องเคียงสักจานเดียว

ก่อนจะหยิบเสี่ยวฮวาขึ้นมาและยิ้มเหมือนคนโง่เขลา

เฝ้ามองดอกไม้นั้นด้วยสายตาอ่อนโยน

ก๊อกๆ ๆ ...

เสียงจากหน้าต่างทำให้เขากลับมามีสติอีกครั้ง เขาเงยหน้าขึ้นและพบว่าเป็นนกส่งสารที่ตระกูลส่งมา

นกสีเขียวจ้องมองเขาด้วยดวงตากลมโต

เขาหยิบศิลาวิญญาณออกมาจากในเสื้อ ป้อนให้กับนกน้อยตัวนั้นในอึกเดียว จากนั้นเนื้อหาจดหมายจึงปรากฏขึ้นตรงหน้า

“โอ้ วันนั้นข้าหนีจากงานแต่ง ทำให้อีกฝ่ายอับอายและกลายเป็นเรื่องขบขันของสามดินแดน อยากให้ข้ากลับไปยอมรับผิด? ฝันไปเถิด!”

แคว้นใต้ติดต่อกับบรรพบุรุษที่ได้รับเลือกเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

โชคดีที่ตอนนี้บรรพบุรุษเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์ของนิกายที่ใหญ่ที่สุดในแดนศักดิ์สิทธิ์ และลูกศิษย์สายตรงอีกด้วย

พวกเขาส่งลูกศิษย์มาที่รอยแตกของเขตอาคมนั้นผ่านมายังโลกมนุษย์

เมื่อมีข่าวตอบกลับมา ทุกคนจึงพากันดีใจอย่างมาก

ลู่เจาเจาเองก็ตั้งตารอคอยเช่นกัน แดนศักดิ์สิทธิ์คือสถานที่ที่นางเกิดและเติบโตมา

ที่นั่นมีภูเขาสัจธรรมของนางอีกด้วย

“ทำไมเจ้าถึงเอาแต่ถือกระถางดอกไม้ทั้งวันอย่างนั้น” ลู่เจาเจาขนลุกชันไปทั้งตัวเมื่อเห็นรอยยิ้มโง่เขลาบนใบหน้านั้น

“ข้าว่า... ข้าเจอรักแท้แล้ว...” เขาเหลือบมองกระถางดอกไม้แล้วยิ้มอย่างเขินอาย

ลู่เจาเจาเตือนเขาอย่างคลุมเครือ “เจ้าน่ะกำลังตกอยู่ในอันตราย”

“บางที... มันเกี่ยวข้องกับสตรี”

จู๋มั่วมองเสี่ยวฮวาอย่างละสายตาไม่ได้ เขาพยักหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “อืม...”

เมื่อเห็นท่าทีโง่เขลา ลู่เจาเจาจึงกลอกตาด้วยความเบื่อหน่าย

ช่างเถิด มันคือความผิดที่เขาก่อขึ้นมา

นางได้แต่มองเขาที่เหมือนนกยูงกางปีก ถอดเสื้อคลุมลายดอกไม้ตัวโปรด แล้วใส่เสื้อผ้าสีสันสดใสทำท่าไปมาหน้ากระจก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์