หลังจากตัดสินใจได้ เขาก็รีบให้คนไปเตรียมเกี้ยว เขาเริ่มเก็บสัมภาระและบอกภรรยาและลูก ๆ เขาในจวนว่าเขากำลังจะอาศัยช่วงกลางดึกที่คนไม่เยอะหลบหนีออกไป
การเคลื่อนไหวในจวนอำเภอยังคงเงียบเชียบ
แต่สมาชิกในครอบครัวของผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกพิพากษาตัดศีรษะต่างก็เกลียดเขาเข้ากระดูกดำ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพวกเขารวมตัวกันเพื่อจับตาดูเจ้าอำเภอคนนี้
เพราะกลัวว่าข้าราชการสันดานหมานี่จะหนีไป
“ทุกคนออกมาเร็ว ไอข้าราชการสันดานหมาที่ควรถูกสวรรค์ลงทัณฑ์กำลังจะหนีไปแล้ว รีบไปหยุดเขาไว้เร็ว อย่าให้มันหนีไปได้ !”
บนถนนที่ว่างเปล่ามีคนตะโกนเสียงดังแว่วมา
ในคืนที่เงียบสงัด เสียงนั้นดังก้องกังวานออกมาชัดเจนและเป็นเสียงสูงที่โดดเด่น
หลังจากนั้นไม่นาน ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมท้องถนนก็เปิดประตูกรูวิ่งกันออกมา
บางคนก็ถือหัวผักกาดขาวเน่า บางคนก็ถือขยะ บางคนก็ถือไข่เน่า บางคนก็ถือก้อนอิฐ
พวกเขาเกลียดข้าราชการสันดานหมาตัวนี้เข้ากระดูกดำตั้งนานแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา
อำเภอไท่หลิงจะลงเอยเช่นนี้ไปได้อย่างไร
วัน ๆ ในใจพวกเขาก็เอาแต่กังวล กลัวว่าตนเองและครอบครัวจะติดเชื้อโรคฝีดาษอันน่าสะพรึงกลัวนี้เข้า
เมื่อใดที่มีคนในครอบครัวติดเชื้อ ทั้งครอบครัวก็แทบจะติดเชื้อทั้งหมด
หากโชคดีก็จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิตได้ หากโชคร้ายทั้งครอบครัวก็ถูกคร่าชีวิตทั้งหมด
ความสิ้นหวังนั้น ความน่ากลัวนั้น ความรู้สึกลึก ๆ ของการไร้อำนาจนั้น
ก็ได้ห่อหุ้มพวกเขาไว้วันแล้ววันเล่า
เวลาเพียงแค่สองเดือน อำเภอไท่หลิงของพวกเขาก็ดูเปลี่ยนไปเหมือนกลายเป็นขุมนรก
อีกทั้งต้นเหตุของเรื่องวินาศสันตะโรทั้งหมดนี้เกิดจากข้าราชการสันดานหมาที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา
เฉาจือต๋าเมื่อเห็นผู้คนมารวมตัวกันบนถนนมากขึ้นเรื่อย ๆ ใจเขาก็รู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบเร่งให้คนรับใช้ของเขานำทองคำหมื่นตำลึงนำขึ้นบนรถม้า
ถ้าเป็นปกติแล้ว ทหารอารักขาในจวนยังสามารถช่วยกีดกันผู้คนให้ได้ แต่ตอนนี้ผู้ใต้บังคับบัญชาในมือของเขาล้วนถูกท่านอ๋องเฉินจัดส่งไปช่วยเหลือยังพื้นที่ที่เกิดโรคระบาดหมดแล้ว
จวนอำเภอของเฉาจือต๋าจึงเหลือเพียงเด็กรับใช้อยู่ไม่กี่คน
ไข่เน่า ผักกาดขาวเน่า ก้อนหิน ก้อนอิฐ ไม่ว่าจะของอะไรที่ไว้ทุ่มหรือโยนได้หรือไม่ได้ ทั้งหมดก็ล้วนตกใส่หัวและบนตัวของเฉาจือต๋า
ท่ามกลางฝูงชน เขายังเห็นคนถือมีดเข้ามาใกล้อีกด้วย
เขากลัวว่าผู้คนจะทำร้ายลูกชายวัยสามขวบของเขาบนเกี้ยว เขาจึงรีบสั่งให้คนขับรถเกวียนม้าไปรอเขาที่ประตูเมืองก่อน เมื่อสั่งการเสร็จก่อนที่เหล่าผู้คนจะรายล้อมเขา เขาก็ออกวิ่งไปในทันที
“ทุกคนรีบตามไป อย่าให้ไอข้าราชการสันดานหมานั่นหนีไปได้ !”
หลังจากรอมานานกว่า 10 วัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรอเจ้าหน้าที่สันดานหมาคนนี้ออกจากจวนมาได้
จะปล่อยให้เขาหลบหนีไปง่าย ๆ แบบนี้ได้อย่างไร ?
ผู้คนกลุ่มใหญ่วิ่งไล่ตามเฉาจือต๋าอยู่ด้านหลัง
อีกทั้งยิ่งผ่านไป คนกลุ่มนั้นก็ยิ่งรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลายครั้งที่เฉาจือต๋าเกือบจะถูกจับได้
เขาวิ่งจนแทบจะไม่มีแรงแล้ว
ระยะห่างไปยังปากประตูเมืองก็ยังอีกยาวไกล
เขารู้ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไปไม่ถึงแน่
สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นกลุ่มควันที่ลอยอยู่ข้างหน้าเป็นหลุมฝังศพที่มีแสงไฟพวยพุ่งถึงชั้นฟ้า ตรงนั้นเป็นสถานที่สำหรับฌาปนกิจศพที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคฝีดาษ
เขาวิ่งไปคว้าคบเพลิงจากมือจากทหารอารักขาทั้งสองคน
ทหารอารักขาสองคนนี้รู้จักเฉาจือต๋า แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดเจ้าอำเภอเฉาจือต๋าถึงต้องการแย่งคบเพลิงไปจากมือพวกเขา ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นแค่ทหารอารักขาไม่มีสิทธิ์ถามธุระของเจ้าอำเภอได้
หลังจากเจ้าอำเภอเฉาได้รับคบไฟไป เขาก็จุดไฟทุกครั้งที่วิ่งไปยังที่ซ่อน
ตราบใดที่ไฟยังลุกอยู่ คนพวกนี้จะตั้งหน้าตั้งตาดับไฟและไม่มาไล่เขาอีก
แน่นอนว่าในขณะที่เขาจุดไฟไปเรื่อย ๆ คนที่ไล่ตามเขาก็ยิ่งน้อยลงเรื่อย ๆ
ในท้ายที่สุด เขาโยนคบเพลิงสองอันนั้นทิ้งอย่างไม่ใส่ใจไปในบ่อเกรอะซึ่งคนทั่วไปเอาถังมาเททิ้งกันเป็นเวลาหลายปีและวิ่งหนีไปที่ประตูเมือง
ที่นั่นมีรถม้าของเขาจอดรออยู่
เขากระโดดขึ้นไปบนรถม้าและตะโกนเสียงดัง "ข้าเป็นเจ้าอำเภอของอำเภอไท่หลิง เปิดประตูเมืองเดี๋ยวนี้!"
ประตูสีโลหะหนาและหนักเปิดออกอย่างช้า ๆ
คนขับรถม้าหวดแส้ลงไป รถม้าก็ขับออกจากประตูเมือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...