ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 226

ในท้ายที่สุด ได้มีการตัดสินใจจัดหารวบรวมเต็นท์จำนวนมากจากมณฑลและอำเภอใกล้เคียง ขณะเดียวกันก็ต้องจัดเตรียมงานก่อสร้างฟื้นฟูหลังเกิดภัยเพลิงไหม้

ก็คงจะไม่พูดไม่ได้ว่าคนที่รับผิดชอบเหล่านี้โดยพื้นฐานแล้วมีความสามารถมาก งานต่าง ๆ ทั้งหมดถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ

รวมไปถึงสาเหตุของการไฟไหม้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

หลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ลู่ยุ๋นหลัวก็พาผู้เฒ่าถังและผู้เฒ่าเก่อไปยังเขตกักกันโรคระบาด

รอบนอกมีคนเดินตรวจตราอยู่เป็นระยะ ๆ

ไกลห่างออกไปก็มีหม้อต้มตั้งจุดไฟอยู่หลายสิบใบเพื่อต้มสมุนไพรทั้งกลางวันกลางคืนอย่างไม่หยุดหย่อน

ด้านในเต็นท์บางครั้งก็มีศพหลายร่างถูกหามออกมา

ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยตุ่มหนองเบียดแน่น แค่คนเห็นก็รู้สึกคันทั้งหัวแล้ว

ลู่ยุ๋นหลัวหยิบถุงมือและหน้ากากที่นางเตรียมไว้ออกมาสวม

ของสองสิ่งนี้ ภายใต้การสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ทั่วไปของผู้เฒ่าเก่อได้ทำให้ผู้เฒ่าถังยอมรับอย่างยินดี

ในการประชุมเมื่อครู่ก็มีการพูดคุยถึงประเด็นนี้เช่นกัน

หน้ากากและถุงมือที่ได้มาจากอำเภอไท่กูได้ถูกแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่แพทย์หลังการประชุม อีกทั้งยังเริ่มจัดหารวบรวมจากอำเภอโดยรอบ

หลังจากที่ทั้งสามสวมใส่ครบแล้ว พวกเขาก็แหวกม่านประตูและเดินเข้าไป

นี่เป็นพื้นที่ติดเชื้อฝีดาษที่ร้ายแรงที่สุดในอำเภอไท่หลิง

หลังจากเข้ามาแล้ว ภายในเต็นท์ก็มีเสียงครวญครางดังเข้าหูอย่างไม่รู้จบ

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ภายในล้วนนอนอยู่บนกระดานไม้ธรรมดา

ผิวหนังที่ไร้การปกปิดของเสื้อผ้าได้เปิดเผยออกมา ไม่มีผิวส่วนไหนที่ไม่มีตุ่มหนองปกคลุม ตุ่มหนองบางส่วนก็แตกออก ทิ้งของเหลวไว้อย่างน่าตกใจ

ลู่ยุ๋นหลัวจับแมะชีพจรของผู้ป่วยรายหนึ่งโดยตรง อีกทั้งได้ถามเกี่ยวกับเวลาที่เริ่มมีอาการและรายละเอียดอื่น ๆ

สภาพปัจจุบันของผู้ป่วยคนนี้ดูไม่ดีเป็นอย่างมาก

หนาวสั่น มีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย

พิจารณาจากรอยแผลบนร่างกาย ผู้ป่วยรายนี้เริ่มมีอาการรุนแรงของภาวะโลหิตเป็นพิษ หากอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาอาจตกอยู่ในอาการหมดสติ

"เข็มเงิน" ลู่ยุ๋นหลัวพูดกับผู้เฒ่าเก่อที่อยู่ข้างหลังนาง

ผู้เฒ่าเก่อรีบหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งจากกล่องยาออกมา

นายหญิงต้องการจะฝังเข็มให้ผู้ป่วยงั้นเหรอ ?

โรคฝีดาษนี้ การฝังเข็มนั้นไม่มีประโยชน์อะไร

ลู่ยุ๋นหลัวไม่พูดแม้แต่คำเดียว นางใช้กำลังภายในผนวกกับศาสตร์ฝังเข็มวิธีหนึ่งในตำราแพทย์โบราณเพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันภายในของผู้ป่วย

โรคฝีดาษนี้ อย่าว่าแต่สมัยโบราณเลย แม้แต่ในยุคปัจจุบันก็ยังไม่มียารักษาเฉพาะที่ได้ผล

ทำได้แต่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ก่อนค่อยรวมกับผลของยาเพื่อรักษาอย่างช้า ๆ

เพื่อยืดเวลาออกไปก็สามารถมีชีวิตรอดได้

แต่หลังจากนั้นไม่นาน เม็ดเหงื่อก็ปรากฏขึ้นที่หน้าผากของลู่ยุ๋นหลัว

หลังจากถอนเข็มเงินเล่มสุดท้ายออก นางก็พูดรายการยาสมุนไพรยาวเป็นหางว่าวและให้ผู้เฒ่าเก่อบันทึกส่งมอบให้กับคนรับผิดชอบทำงานด้านสมุนไพรเพื่อจัดยา

หลังจากรักษาผู้ป่วยรายนี้แล้ว ลู่ยุ๋นหลัวก็ไม่ได้เสียเวลาและแมะชีพจรผู้ป่วยรายต่อไปพร้อมกับฝังเข็ม

ผู้เฒ่าเกอและผู้เฒ่าถังยืนอยู่ข้างหลังพวกนางและเฝ้าดูเทคนิคการฝังเข็มของลู่ยุ๋นหลัวอย่างใกล้ชิด

"ผู้เฒ่าถัง เจ้าพอจะมองศาสตร์ฝังเข็มของนางอะไรออกบ้าง ?" ผู้เฒ่าเก่อมองดูอยู่นาน แต่เขาก็ยังมองไม่ออกว่านายหญิงฮองเฮาแสดงศาสตร์การฝังเข็มแบบใด

ผู้เฒ่าถังส่ายหัวอย่างเคร่งขรึม "ข้ามองไม่ออก"

แต่ถึงอย่างไรเขาก็รู้ว่าศาสตร์ฝังเข็มนี้ไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน

นายหญิงฮองเฮาของพวกเขา ทักษะทางการแพทย์ของนางไม่ธรรมดา

ภายในเต็นท์นี้มีผู้ป่วยทั้งหมดเกือบร้อยคน

ลู่ยุ๋นหลัวรักษาผู้ป่วยหนึ่งคนต้องใช้เวลาและสมาธิไปไม่น้อย

ครึ่งคืนแรกผ่านไป

ลู่ยุ๋นหลัวพึ่งพบผู้ป่วยไปได้ไม่ถึงครึ่ง

เหงื่อบนหน้าผากของนางยังคงไหลลงมาไม่หยุด

แม้แต่มือที่ถือเข็มเงินก็เริ่มสั่นเล็กน้อย

ผู้เฒ่าเก่อกังวลอยู่เล็กน้อยว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปร่างกายของนายหญิงคงจะทนต่อไปไม่ได้

แต่เมื่อเห็นสีหน้ามุ่งมั่นและจริงจังของนายหญิง เขาก็ได้แต่อดทนไม่ส่งเสียงรบกวน

ยิ่งกว่านั้นทุกครั้งหลังจากที่ดูผู้ป่วยเสร็จ ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร มือของนายหญิงจับแมะชีพจรของผู้ป่วยรายต่อไปเอาไว้แล้ว

ความพากเพียรของลู่ยุ๋นหลัวทำให้ผู้เฒ่าถังและผู้เฒ่าเก่อตื้นตันใจเป็นอย่างมาก

ทั้งสองสบตามองหน้ากัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น