ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 125

แม่นมโจได้รับการเลื่อนลำดับให้เป็นหัวหน้าฝ่ายดูแลกิจการภายในของตำหนักเย็น ซึ่งรับผิดชอบเรื่องจิปาถะต่าง ๆ ในตำหนักเย็นและรวมถึงการมอบหมายงานให้กับนางข้าหลวง แม้แต่หยินซวางก็ยังได้รับการเลื่อนลำดับอยู่หลายชั้น โดยหน้าที่รับผิดชอบยังคงเหมือนเดิมและยังต้องคอยรับใช้ข้างกายส่วนตัวให้นายหญิงแห่งตำหนักเย็น

ส่วนข้ารับใช้และบริวารต่าง ๆ จะมีแม่นมโจวและหัวหน้าขันทีสูงสุดลำดับชั้นที่เจ็ดรับผิดชอบ

ชีวิตของลู่ยุ๋นหลัวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ถ้าจะบอกว่ามีก็คงมีแต่การที่นางว่างมากขึ้น

พื้นที่เพาะปลูกไร่นาก็มีคนดูแล ร้านขายของชำก็มีคนดูแลอยู่เฉพาะเช่นกัน

ตอนนี้นางอยู่ในตำหนักเย็น ขนาดมีของตกลงบนพื้น นางล้วนแถบจะไม่ต้องก้มลงไปหยิบเลย

เพียงแค่ส่งเสียงออกไปคำ อาหารก็จะถูกส่งเข้าปากนางโดยทันที ขอแค่นางอ้าปากเท่านั้น

นางรู้สึกว่านางเริ่มมีแนวโน้มที่เป็นคนไร้ประโยชน์มากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตามเนื่องจากนางยังคงกังวลเกี่ยวกับอาการป่วยของท่านตาอยู่ตลอด ช่วงไม่กี่วันนี้ลู่ยุ๋นหลัวจึงดูผอมลงไปบ้าง

โชคดีที่หลังจากผ่านไปไม่ถึงสองวัน ท่านอ๋องเฉินก็ส่งคนรับใช้ไปหา โดยบอกว่าอาการของท่านตาคงที่แล้ว และขอให้นางอดทนรออีกสักสองวัน

ในตอนบ่ายของวันนั้น หลันกุ้ยเหรินได้นั่งเกี้ยวที่งดงามมาหยุดอยู่ที่ประตูตำหนักเย็นของลู่ยุ๋นหลัว

แม้ว่าจำนวนคนรับใช้ในตำหนักเย็นจะเพิ่มขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา สิ่งของต่าง ๆ ก็กำลังถูกจัดอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ถึงอย่างไรห้องนอนที่ลู่ยุ๋นหลัวอาศัยอยู่ก็ยังไม่หรูหราเท่ากับวังหลิวหยุน

หลันกุ้ยเหรินลงจากเกี้ยวและมองไปรอบ ๆ ด้วยใบหน้าที่ดูแคลน "ที่ตรงนี้คนยังอาศัยได้อยู่อีกเหรอ ?"

ห้องนอนก็ดูทรุดโทรมไปไม่น้อย สีแดงที่ทาบนเสาก็หลุดออกจนหมด แม้แต่บริเวณประตูก็เต็มไปด้วยถนนโคลนลูกรังที่มีหลุมบ่อ

นางขมวดคิ้วและสั่งให้นางข้าหลวงข้างนางช่วยยกชายกระโปรงขึ้น

วันนี้นางเปลี่ยนเป็นชุดกระโปรงใหม่เป็นพิเศษ ถ้าชายกระโปรงต้องลากไปมาบนพื้นโคลนลูกรังไม่กี่ครั้ง เกรงว่ากระโปรงนี้คงจะเสียหายไปอย่างสูญเปล่า

“ข้าไม่รู้ว่าเสด็จพี่ของตำหนักเย็นผู้นี้จะอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ไปได้เยี่ยงไร ?”

หลันกุ้ยเหรินยังคงไม่เข้าใจ ขณะที่นางกำลังจะก้าวข้ามผ่านประตูเข้าไป ไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ฝูงหนึ่งก็วิ่งเข้ามาอย่างกุลีกุจอ

หลันกุ้ยเหรินตกใจมากจนกรีดร้องทันที

“ไก่ตัวผู้พวกนี้มันออกมาจากไหนกัน ? เอามันออกไปเดี๋ยวนี้ !”

หลันกุ้ยเหรินมองไปที่ฝูงไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ที่อยู่ล้อมรอบเท้าของนางด้วยสีหน้าสยดสยอง และพวกมันแต่ละตัวก็จ้องมองมาที่นางอย่างผ่าเผยไม่เกรงกลัว

นางข้าหลวงและขันทีที่ติดตามนางมาด้านหลังก็รีบวิ่งไปด้านหน้าเพื่อไล่ต้อนพวกมัน จนฝูงไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ก็แตกกระจายวิ่งออกไปทุกทิศทาง

ใบหน้าของหลันกุ้ยเหรินซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว

ทำไมตำหนักเย็นแห่งนี้ถึงเลี้ยงสัตว์ปีกให้อาศัยอยู่ได้ ?

โคตรน่ากลัว

หลันกุ้ยเหรินตบหน้าอกของนางด้วยความตกใจ ตัดสินใจว่าจะนั่งอยู่ที่สักพักพอทักทายเสร็จก็จะกลับในทันที

ที่นี่ชั่งเหลือจะทนจริง ๆ อยู่ไปได้เยี่ยงไร

เมื่อลู่ยุ๋นหลัวได้ยินการแจ้งรายงานจากคนรับใช้ นางที่กำลังนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้ในสวนหลังตำหนัก กำลังลองใช้แผ่นปิดหน้าชาเขียวที่นางเพิ่งปรับปรุงเสร็จ

เมื่อได้ยินว่าหลันกุ้ยเหรินมาหา นางก็ออกไปต้อนรับเป็นการส่วนตัวพอดี

เมื่อมาถึงปากประตู ก็พบกับหลันกุ้ยเหรินที่กำลังเข้ามาพอดี

ใบหน้าของหลันกุ้ยเหรินยังคงซีดเซียวจากการถูกไก่ตัวผู้ตัวใหญ่ทำให้กลัวและไม่ง่ายที่จะสงบลงได้ ใครจะรู้พอเข้าผ่านประตูไปก็จะพบเข้าไปใบหน้าสีเขียวของลู่ยุ๋นหลัว ประกอบกับเสื้อผ้าสีขาวที่พาดลงบนร่างกายของนาง แม้ว่าจะยังเป็นเวลากลางวันแสก ๆ แต่ก็ทำให้หลันกุ้ยเหรินตกใจจนเหงื่อเย็น ๆ ไหลแตกออกมา

ใบหน้าที่เดิมซีดเผือดอยู่แล้วก็ซีดขาวยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า ถ้าไม่ใช่เพราะนางข้าหลวงข้าง ๆ ผยุงไว้ เกรงว่าขาของคงจะอ่อนยวบลงไปนั่งกองกับพื้นแล้ว

ตำหนักเย็นแห่งนี้เป็นสถานที่บ้าบออะไรกันเนี่ย ?

โคตรน่ากลัวเลย !

"หยินซวาง เจ้าเชิญหลันกุ้ยเหรินไปนั่งที่สวนหลังตำหนักให้ที" จะพูดยังไงดี หลันกุ้ยเหรินก็เป็นถึงลูกค้าระดับ VIP ขั้นสูงของร้านขายของชำของนางด้วย ในเมื่อมาถึงแล้ว ยังไงก็ต้องต้อนรับให้ดีสักหน่อย

"หลันกุ้ยเหริน โปรดตามบ่าวมาเพคะ" หยินซวางเดินนำทางที่ด้านหน้า

หลันกุ้ยเหรินลูบไปที่หน้าอกของนาง มองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวด้วยความตกใจราวกับเจอภูติผี เสด็จพี่แห่งตำหนักเย็นผู้กำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่ ?

ทำไมถึงทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปได้ ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น