กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 120

sprite

“เจ้าว่ามา จะให้ทำอะไร”

“เมื่อวานข้านอนไม่ค่อยหลับ อีกประเดี๋ยวข้าจะงีบหลับสักครู่ ท่านห้ามลงโทษข้านะเจ้าคะ”

“ได้สิ ไม่มีปัญหา”

ตาเฒ่าผู้นี้เป็นคนตรงไปตรงมา คงไม่ได้คิดจะเล่นแง่อะไรกระมัง

นางมองอาจารย์ซั่งกวนที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง แม้ว่าภายนอกเขาจะดูสงบและอบอุ่นละมุนราวกับสายลม แต่นางรู้ว่าลมหายใจของซั่งกวนฉู่กระชั้นถี่ขึ้น ดูเหมือนเขาเองก็อยากจะฟังบทสุดท้ายของกวีบทนี้ด้วยเช่นกัน

เอาเถิดน่ะ เพื่อหนุ่มรูปงาม ท่องก็ท่อง

“ทุ่งท้องข้าวฟ่าง เมล็ดฟ่างละลานตา ราบช้าเป็นทิวแถว แนวกลางราวฟ้าครึ้ม คนรู้จักข้า กล่าวว่าข้าเป็นทุกข์ คนไม่รู้จักข้ากล่าวว่าข้ากำลังแสวงหา สวรรค์ช่างกว้างใหญ่! ใครหนอที่สรรค์สร้าง”

“เยี่ยม... ยอดเยี่ยมเหลือเกิน... กวีบทนี้ใช้สำนวนโวหารซ้ำกัน สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกทอดถอนใจที่แตกต่างกันทั้งสามอย่างของตัวเอกหลังจากการล่มสลายของราชวงศ์โจว”

“ท่านอาจารย์ เช่นนั้นข้าหลับได้แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ”

“เจ้ารู้กวีบทนี้ได้อย่างไรรึ”

“เอ่อ... ก็แค่อ่านเจอจากตำราโบราณโดยบังเอิญน่ะเจ้าค่ะ” นางไม่ใช่คนโง่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าตนเองเคยท่องบทกวีทั้งหมดนี้มาก่อน

“ตำราโบราณเล่มไหนรึ ไปเจอมาจากที่แห่งใด งานเขียนเมื่อสมัยก่อนสูญหายไปหมดแล้วมิใช่หรือ”

“มันผ่านมานานจนลืมไปแล้วเจ้าค่ะว่าอ่านมาจากที่ไหน แต่นี่ไม่ใช่งานเขียนสมัยก่อนนะเจ้าคะ เป็นงานเขียนที่มีคนแปลเอาไว้”

แล้วทุกคนก็เข้าใจขึ้นมาในฉับพลัน

พวกเขาก็แค่ประหลาดใจ งานเขียนก่อนหน้านั้นหายสาบสูญไปนานแล้ว คนสมองขี้เลื่อยอย่างนางจะไปอ่านเข้าใจได้อย่างไร

แต่กู้ชูหน่วนก็โชคดีมากจริงๆ ที่เคยท่องบทกวีที่สูญหายไปแล้วอย่างบทกวีสู่หลีได้ทุกบท

ณ ที่แห่งนี้มีเพียงดวงตาที่ลึกล้ำราวกับบึงน้ำของซั่งกวนฉู่เท่านั้นที่ฉายแววแห่งความสงสัย ราวกับไม่เชื่อคำพูดของนาง

กู้ชูหน่วนถามอีกครั้งว่า “ท่านอาจารย์ ข้าไปนอนได้แล้วใช่หรือไม่”

“เลิกเรียนได้” อาจารย์สวีตะโกนเสียงดัง

รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชูหน่วนหยุดชะงัก “เลิกเรียน?”

“เที่ยงแล้ว ไม่เลิกเรียนแล้วจะทำอะไรรึ หรือว่าจะไม่กินข้าวกลางวัน”

“แล้วที่ข้าท่องไปเมื่อครู่มันไม่สูญเปล่าหรอกหรือ”

กู้ชูหน่วนรีบคว้าแขนเสื้อของอาจารย์สวีไว้แล้วยิ้มแหยๆ “ท่านอาจารย์ ในเมื่อตอนนี้เลิกเรียนแล้ว เช่นนั้นก็ขอให้ข้าเลื่อนไปหลับช่วงบ่ายได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ตอนบ่ายเป็นชั้นเรียนของอาจารย์ซั่งกวน ถ้าเขาเห็นด้วยข้าก็ไม่ว่าอะไร”

"......"

มันอะไรกันเนี่ย...

นางเสียรู้ให้เขางั้นรึ

เมื่อหันไปมองอาจารย์ซั่งกวนอีกครั้งนางก็เห็นรอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่สุภาพเรียบร้อยของเขา ดูประดุจสายลมแห่งวสันตฤดูที่ชวนให้ลุ่มหลง เขาถือหนังสือไว้ด้วยมือทั้งสองข้างขณะที่เดินออกจากห้องเรียน เหลือไว้ให้เห็นเพียงแค่แผ่นหลังที่สง่าผ่าเผย

กู้ชูหน่วนนิ่งงัน

ผู้ชายที่งดงามขนาดนี้ ถ้าเอากลับไปที่เรือนได้คงจะเป็นบุญตายิ่งนัก

อย่าคิดว่ารู้บทกวีสู่หลีแค่สองสามบทแล้วจะเหยียดผู้อื่นได้นะ ข้าจะบอกให้ว่าท่านอาจารย์ซั่งกวนเป็นของข้า ถ้าเจ้ากล้ามองเขาอีกละก็

กู้ชูหน่วนจงใจเพิ่มเสียง ตะโกนออกไปว่า “ท่านอาจารย์ซั่งกวน มีคนบอกว่าท่านเป็นคนของเขาน่ะเจ้าค่ะ”

“กู้ชูหน่วน เจ้า... เจ้าพูดเหลวไหลอะไรกัน ท่านอาจารย์ซั่งกวน ท่านอย่าไปฟังเรื่องไร้สาระของนางนะ”

“ท่านอาจารย์ซั่งกวน องค์หญิงตรัสว่าที่ข้าพูดไปเมื่อครู่เป็นเรื่องไร้สาระ องค์หญิงไม่ชอบท่านแน่ะ”

องค์หญิงตังตังโกรธจนใบหน้าเล็กๆ บิดเบี้ยว

นางบอกว่านางชอบอาจารย์ซั่งกวนตั้งแต่เมื่อใดกัน

นางไม่มีเวลามาสั่งสอนกู้ชูหน่วนและรีบตามซั่งกวนฉู่ไปเพื่ออธิบายทุกอย่างให้เขาฟัง

“แม่สาวอัปลักษณ์อย่างเจ้าก็พอมีฝีมือนี่นา คิดไม่ถึงว่าจะท่องหนูไป(สู่หลี)ได้” เซี่ยวอวี่เซวียนหัวเราะหึหึ ทิ้งตำราในมือเอาไว้และเดินตามกู้ชูหน่วนออกไปจากห้องเรียน

กู้ชูหน่วนกลอกตา “มันคือสู่หลี”

“โธ่ จะไปสนอะไรว่าหนูหรือไม่หนู ว่าแต่ทำไมช่วงหลังของทั้งสามบทถึงเหมือนกันอย่างนั้นหรือ ช่วงแรกของกลอนก็คล้ายกันมาก”

“เจ้าไม่ได้ยินที่อาจารย์พูดว่ามันคือสำนวนโวหารซ้ำกันหรือ”

“สำนวนโวหารซ้ำคืออะไร”

"......"

กู้ชูหน่วนคิดว่านางเป็นคนที่ไม่รู้หนังสือแล้วนะ แต่พอมาเจอกับเซี่ยวอวี่เซวียน นางถึงได้รู้ว่าตนเองเก่งแค่ไหน

“แม่สาวอัปลักษณ์ คนรู้จักข้า กล่าวว่าข้าเป็นทุกข์ คนไม่รู้จักข้า กล่าวว่าข้ากำลังแสวงหา มันหมายความว่าอย่างไรหรือ”

“พ้องความหมายกับคำว่าศีรษะขาวเหมือนใหม่ ลาดคลุมลงมาเหมือนเก่า”

“แม่สาวอัปลักษณ์ เจ้าพูดภาษามนุษย์ได้หรือไม่ ข้าฟังแล้วไม่เห็นจะเข้าใจ”

“คนบางคนรู้จักกันมาตลอดชีวิต แต่กลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นคนเช่นไร บางคนพบกันเพียงครั้งเดียวกลับเหมือนรู้จักกันมาตลอดชีวิต

เซี่ยวอวี่เซวียนเข้าใจขึ้นมาทันที “อ้อ... เราเป็นความสัมพันธ์อย่างหลังสินะ”

“ผิด อย่างแรกต่างหาก”

รอยยิ้มของเซี่ยวอวี่เซวียนชะงักไป

หรือว่าพวกเขาจะไม่ถูกชะตากันมากพอ?

บางคนที่ยังอยู่ในโรงเรียนได้ยินสิ่งที่กู้ชูหน่วนพูด

เจ๋ออ๋องมองนางอย่างไม่แน่ใจนัก

ไม่ได้เจอกันเพียงไม่นาน เหตุใดนางจึงเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน

คนสมองขี้เลื่อยน่ะหรือจะท่องประโยคศีรษะขาวเหมือนใหม่ ลาดคลุมลงมาเหมือนเก่าออกมาได้?

กู้ชูอวิ๋นประหลาดใจเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงของกู้ชูหน่วน นี่คือคุณหนูสามของภรรยาเอกที่นางรู้จักจริงๆ หรือ

กู้ชูหลานกัดฟันกรอดอย่างเกลียดชัง

ไม่รู้เลยว่านางเรียนบทกวีเหล่านี้มาจากที่ไหน นึกไม่ถึงว่าจะกลายเป็นที่โจษจั่นไปทั้งชั้นเรียนเช่นนี้

ที่นอกชั้นเรียน ชิวเอ๋อร์ถลันเข้ามาหาอย่างดีอกดีใจ “คุณหนู... ในที่สุดท่านก็เลิกเรียนเสียที ท่านอาจารย์ทำให้ท่านลำบากใจหรือไม่เจ้าคะ”

ตุ้บ

ชิวเอ๋อร์ชนกับองค์หญิงตังตังที่ถลันเข้ามาด้วยความโกรธและเจ็บจนต้องร้องครวญครางออกมา

ยังไม่ทันที่นางจะตอบโต้อะไร ที่เหนือศีรษะก็มีเสียงตำหนิด้วยความโกรธดังขึ้นมา

“บ่าวชั้นต่ำที่ไหนกัน นึกไม่ถึงว่าจะกล้ามาขวางทางองค์หญิง ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรืออย่างไรกัน”

ว่าแล้วองค์หญิงตังตังก็เงื้อมือขึ้นมาและสะบัดออกไปทันที

ชิวเอ๋อร์หลับตาปี๋รอฝ่ามือที่กำลังจะตกลงมา ทว่ารออยู่นานก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่กลับได้ยินเสียงตกใจขององค์หญิง

นางลืมตาขึ้นมาอย่างกังวลและเห็นว่าคุณหนูของตนคว้ามือขององค์หญิงเอาไว้ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยประกายแห่งความเฉียบคม รังสีที่แผ่ออกมาทำให้องค์หญิงตังตังถึงกับตัวลีบเป็นกาก

“กู้ชูหน่วน องค์หญิงจะสั่งสอนบ่าวชั้นต่ำ เจ้ากล้ามาขัดขวางองค์หญิงอย่างข้ารึ”

“ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ ชิวเอ๋อร์เป็นคนที่ท่านคิดจะรังแกก็รังแกได้งั้นรึ”

“ในสายตาองค์หญิงอย่างข้า นางก็เป็นแค่บ่าวชั้นต่ำเท่านั้น”

เผียะ

เสียงฝ่ามือดังกังวานใส

อ่าน กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 120 ฟรี

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ series โดย อี้หมิง เป็นนิยายรักจีนที่ได้รับการอัปเดตอย่างสมบูรณ์ที่ Booktrk อ่าน บทที่ 120 และบทต่อไปของนิยาย กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ได้ที่นี่

คุณสามารถดาวน์โหลดนิยาย กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ได้ฟรีที่เว็บไซต์ novelones.com

การค้นหาที่เกี่ยวข้อง:

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 120

นวนิยาย กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 120

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ pdf