"เช่นนั้นให้ข้าน้อยออกประกาศเพื่อค้นหาหมอที่มีความสามารถในหมู่ประชาชนดีหรือไม่เพคะ"
"ไม่ต้อง มันสามารถรักษาตัวมันเองได้ การแทรกแซงมากเกินไปของมนุษย์อาจไม่ดีต่อมันเท่าไรนัก ปล่อยไว้เช่นนี้ดีแล้ว"
"เพคะ"
กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์และพึมพำออกมา "เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ถ้าเจ้าตื่นขึ้นมาข้าจะย่างหมูเก้าสิบเก้าตัวให้เจ้ากิน เจ้าต้องรีบฟื้นขึ้นมานะ"
ลำตัวของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์สั่นเล็กน้อยและไม่นานก็กลับเป็นปกติอีกครั้ง ไม่รู้ว่ามันจะได้ยินหรือไม่
"ฝ่าบาท เยี่ยกุ้ยเหรินฟื้นแล้วเพคะ"
"ฝ่าบาท พระสวามีก็ฟื้นแล้วเพคะ"
สาวใช้ทั้งสองคนรีบกล่าวรายงานอย่างระมัดระวังและท่านอ๋องเสวี่ยก็ดูมีความสุขอย่างมาก
"ฝ่าบาท ยาอายุวัฒนะของฝ่าบาทช่างวิเศษมากพ่ะย่ะค่ะ"
กู้ชูหน่วนกล่าว "ไปกันเถอะ ไปดูเยี่ยจิ่งหานกัน"
"ฝ่าบาท พระสวามีถือเป็นหัวหน้าของวังหลัง ฝ่าบาทควรจะเสด็จไปเยี่ยมเขาก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ"
"ทำไมหรือ เจ้าว่างมากหรืออย่างไร? เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เจ้าก็ยังมายุ่ง"
"เอ่อ.....กระหม่อมเกรงว่าพระสวามีจะไม่สบายใจ เพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นพระสวามีเอกของฝ่าบาท"
"ท่านอ๋องเสวี่ย ข้าเป็นจักรพรรดินีของรัฐปิงใช่หรือไม่?"
"แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ"
"ในเมื่อข้าเป็นบุคคลผู้มีอำนาจสูงสุด เช่นนั้น....ข้าพูดอะไรไปเจ้าก็ควรฟังข้าใช่หรือไม่?"
"ขอเพียงเป็นคำสั่งของฝ่าบาท กระหม่อมไม่มีทางปฏิเสธได้พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทต้องการให้กระหม่อมทำอะไร ฝ่าบาทตรัสสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ"
"ดีมาก เช่นนั้นเจ้าก็ไปขัดส้วมซะ"
"อ๋า......"
"อ๋าอะไรของเจ้า ข้าเป็นถึงจักรพรรดินี คิดว่าข้าจะจัดการเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ"
"กระหม่อมไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ"
"เช่นนั้นก็ไป จัดการขัดส้วมทุกที่ในวังหลวงให้หมด หากทำความสะอาดไม่ดี ข้าจะลงโทษให้เจ้าไปขัดส้วมทุกที่ในเมืองหลวงให้หมด"
ท่านอ๋องเสวี่ยไม่กล้าพูดอะไร
เขาอยากถามว่าเพราะอะไร
แต่.....
นี่คือคำสั่งแรกหลังจากที่ฝ่าบาทได้ขึ้นครองราชบัลลังก์ หากเขาไม่ปฏิบัติตาม ต่อไปจะมีขุนนางข้าราชบริพารที่ไหนยอมปฏิบัติ
แม้ว่าท่านอ๋องเสวี่ยจะไม่อยากทำมากแค่ไหน ทว่าก็เดินทางไปทำตามคำสั่งที่ได้รับ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงกู้ชูหน่วนบอกให้หยุด
ท่านอ๋องเสวี่ยดีใจอย่างมากและคิดว่าฝ่าบาทจะยกเลิกคำสั่ง ทว่าคิดไม่ถึงว่านางกลับกล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น "เจ้าต้องเป็นคนทำด้วยตัวเองเท่านั้น ห้ามให้คนอื่นช่วยเหลือ เข้าใจหรือไม่"
"เข้าใจพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปทำเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ"
สาวใช้หลิงเอ๋อร์แทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองเลยสักนิด
"ฝ่า....ฝ่าบาท ท่านอ๋องเสวี่ยเป็นถึงท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และยังเป็นท่านอ๋องเพียงคนเดียว การที่ฝ่าบาทได้ขึ้นครองบัลลังก์ก็เป็นเพราะการดำเนินการของเขา ให้เขาไปขัดส้วมเช่นนั้นจะดีหรือเพคะ?"
"ข้าคิดว่าดี ส้วมยังไม่เหม็นเหมือนปากของเขา ไปกันเถอะ ไปดูอาการของเยี่ยจิ่งหานกัน"
"อ๋า.....เราไม่ไปเยี่ยมพระสวามีก่อนหรือเพคะ?"
"ทำไมหรือ เจ้าก็อยากไปขัดส้วมด้วยอย่างนั้นหรือ?"
"ข้าน้อยไม่กล้าเพคะ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ฝ่าบาทได้โปรดให้อภัยด้วยเพคะ"
"ไปกันเถอะ"
กู้ชูหน่วนจับหลิงเอ๋อร์ลุกขึ้นและให้นางนำทาง
นิสัยของเยี่ยจิ่งหานแย่กว่าเหวินเส่าอี๋อย่างมาก
เหวินเส่าอี๋เป็นคนรูปงามและมีจิตใจดี หากพูดเกลี้ยกล่อมปลอบใจสักหน่อย ก็ยังพอจัดการได้
ทว่าเยี่ยจิ่งหาน....
เมื่อนึกถึงตอนที่เยี่ยจิ่งหานฟื้นขึ้นมาและได้รู้ว่าตัวเองถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับนาง แถมเป็นได้เพียงพระสวามีรองเท่านั้น นางแทบไม่อยากจะคิดเลยว่าเยี่ยจิ่งหานจะโมโหมากแค่ไหน
ภายในตำหนักรับรอง เยี่ยจิ่งหานจ้องมองไปที่รูปปั้นบนเตียงอย่างว่างเปล่าด้วยความงุนงง แม้แต่ตอนที่นางเดินเข้ามาและเรียกเขาอยู่หลายครั้ง เยี่ยจิ่งหานก็ไม่ตอบสนองอะไร
กู้ชูหน่วนลูบหน้าผากของเขา "คงไม่ได้เสียสติไปแล้วหรอกหรือ?"
เมื่อจับชีพจรของเขาแม้ว่ามันจะยุ่งเหยิงและมีอาการบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเสียสติไป
กู้ชูหน่วนคิดว่าเขาคงสงบก่อนเกิดพายุและอดไม่ได้ที่จะอธิบายว่า "ข้าไม่ได้ต้องการเป็นจักรพรรดินี และไม่ได้ต้องการแต่งตั้งเหวินเส่าอี๋เป็นพระสวามี อีกทั้งข้าก็ไม่ได้ต้องการแต่งตั้งให้เจ้าเป็นพระสวามีรอง เจ้าอย่าได้มองข้าผิดไป ใครเป็นคนก่อเรื่องขึ้น เจ้าก็ไปคิดบัญชีกับคนนั้น ข้าก็เป็นผู้ถูกกระทำด้วยเช่นกัน"
เยี่ยจิ่งหานไม่ตอบสนองใดๆ
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างระมัดระวัง "ไม่เช่นนั้น ข้ายกเลิกตำแหน่งกุ้ยเหรินของเจ้าก็ได้?"
เยี่ยจิ่งหานยังคงไม่ตอบสนองใดๆ
กู้ชูหน่วนรู้สึกตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่นางกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้ความโกรธของเขาลดลง
ทว่ากลับได้ยินเยี่ยจิ่งหานเหมือนกำลังถามนางและดูเหมือนกำลังพึมพำกับตัวเอง
"เจ้าว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่เหตุใดเลือดของพวกเขาถึงหลอมรวมกันได้?"
"อ๋า....."
อะไรกันเนี่ย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...