“ใช่แล้ว เมื่อวานเกิดเรื่องใหญ่เช่นนั้นที่หอไร้กังวลเหตุใดวันนี้ไม่มีข่าวคราวเลยแม้แค่น้อย?”
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็ถามขึ้น “นี่ยังต้องเดาอีกหรือ? ต้องเป็นเทพแห่งสงครามที่ปิดเรื่องเอาไว้แล้วหน่ะสิ สำหรับพวกเขาแล้วนี่มิใช่เรื่องน่ายินดีอันใด”
“พี่ใหญ่ ท่านดูสิ นั่นไม่ใช่เยี่ยเฟิงหรอกหรือ?” จู่ๆอวี๋ฮุยก็อุทานออกมา
กู้ชูหน่วนลืมตาขึ้น แม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะสวมชุดอันหยาบกระด้างแต่หน้าตาเขานั้นหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง ทั้งร่างเต็มไปด้วยความรู้สึกของหนอนหนังสือและความเยือกเย็นหยิ่งทะนง
ใบหน้าของเขาเป็นสัดส่วนชัดเจนซึ่งช่างดูดียิ่งนัก เพียงแต่ว่าสีหน้าอันซีดเผือดปรากฏอยู่บนใบหน้านั้น
เซี่ยวอวี่เซวียนบ่นพึมพำกับตนเอง “แปลกนัก เมื่อคืนเยี่ยเฟิงไม่ได้ดีๆหรอกหรือ หรือว่าเจ้าล้มทับเขาคว่ำรุนแรงซะจนเขาหวาดกลัวล้มป่วยเสียแล้ว”
กู้ชูหน่วนกระตุกมุมปาก
นั่นนางสะดุดโดนขาโต๊ะจึงล้มลงโดยไม่ได้ตั้งใจไหม
นอกจากนี้แม้ว่าเยี่ยเฟิงจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ตนเองดูเหมือนปกติ แต่ลมหายใจของเขาไม่คงที่เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากที่พวกเขาจากไปเมื่อวานนี้ มีคนทำร้ายเยี่ยเฟิงอย่างสาหัส?
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็นึกถึงขณะที่นางล้มทับเยี่ยเฟิงเมื่อคืน ประกายแห่งความหวาดหวั่นและกลิ่นไอของการสังหารฆ่าของเขาที่แว๊บผ่านไปนั้น
หากนางคาดเดาไม่ผิดเยี่ยเฟิงน่าจะมีวิทยายุทธสินะ
ผู้ที่ไม่มีวิทยายุทธไม่มีทางมีกลิ่นไปสังหารอันรุนแรงเช่นนี้ได้ และยิ่งไม่สามารถทำให้กลิ่นไอสังหารปรากฏออกมาในชั่วขณะแล้วหายไปในทันใด
“ชายหนุ่มผู้นั้นก็คือเยี่ยเฟิงนักปราชญ์เยี่ยผู้เป็นอันดับสองในการแข่งขันชุมนุมวิชาการหรือ? หน้าตาหล่อเหลายิ่งนักแต่น่าเสียดายที่ครอบครัวของเขายากจน มิเช่นนั้นข้าจะให้ท่านพ่อของข้าไปพูดคุยเรื่องการแต่งงานกับเขาแล้ว”
“เมื่อวานนี้ในการแข่งขันชุมนุมวิชาการเขาทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่ท่านพ่อของข้าก็ไม่เห็นด้วยกับข้าที่จะแต่งงานกับผู้ยากจน”
“เขาได้อันดับสองในการแข่งขันชุมนุมวิชาการและยังเข้าสำนักศึกษาหลวง ภายหน้าเขาจะต้องเป็นขุนนางแน่ๆ แม้ว่าภูมิหลังครอบครัวจะแย่สักเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ดูย่ำแย่มากนัก”
“เมื่อวานฝ่าบาททรงพระราชทานทองคำและเงินอันล้ำค่ามากมายเช่นนั้น เจ้าว่าวันแรกที่เขามาสำนักศึกษาหลวงเหตุใดถึงได้แต่งตัวทรุดโทรมเช่นนี้ หรือว่าเขาเสียดายเงินที่จะซื้อเสื้อผ้าดีๆ?”
หญิงสาวไม่น้อยในสำนักศึกษาหลวงรวมตัวกันเป็นกลุ่มพร้อมกับชี้กันไปมา
เยี่ยเฟิงเพิกเฉยต่อคำกล่าวของผู้อื่นเพียงแค่ยืดหลังตรงแล้วเดินไปทางสำนักศึกษาทีละก้าวๆ
ร่างกู้ชูหน่วนขยับเคลื่อนแล้วเดินเคียงข้างกันกับเขา "ดูหน้าตาเจ้าไม่ค่อยดีเมื่อคืนคงจะคิดถึงข้าสินะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...