กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 1100

กู้ชูหน่วนรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดมันไร้เหตุผล

“เหตุใดอาม่อถึงต้องทำเช่นนั้น?”

“เรื่องนี้......เรื่องนี้ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจ แต่ได้ยินมาว่าเขาต้องการทำขนมไส้ดอกไม้หรืออะไรบางอย่าง”

“ทำขนมไส้ดอกไม้ เหตุใดถึงต้องใช้ภาชนะมากมายถึงเพียงนั้น? เหตุใดต้องขโมยเสื้อผ้า?”

คนรับใช้ปาดเหงื่อ

“ข้าน้อย...ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ รู้เพียงแค่ว่าม่อกุ้ยจวินเผาเสื้อผ้าของเฟิงโห้วไปแล้ว เฟิงโห้วโกรธมาก จึงสั่งให้คนใช้ของเขาบุกมายังตำหนักม่อ และนำเสื้อผ้าของม่อกุ้ยจวินไปเผา”

กู้ชูหน่วนแทบจะเป็นลม

ในแต่ละวัน นางเหนื่อยล้าและไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

แต่ผู้ชายในหวังหลังของนางกลับไม่มีใครทำให้นางสบายใจเลยสักคน

“ตำหนักเว่ยหยางเล่า? เวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ทูลฝ่าบาท ห้องจำนวนมากในตำหนักเว่ยหยางถูกเผา โชคดีที่ดับไฟได้ทันเวลา ไม่ได้ถูกเผาไปทั้งหมด เวลานี้...เวลานี้เฟิงโห้วต้องการให้ฝ่าบาทมอบความยุติธรรมให้แก่เขาด้วย”

“ไปเรียกม่อกุ้ยจวินมา”

“ขอรับ”

“ไม่ต้องแล้ว ข้าไปจะหาเขาด้วยตัวเอง”

ซือม่อเฟยเป็นจอมมาร แม้จะไร้ซึ่งวรยุทธ์ แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่อาจมองข้ามได้

ครั้งที่แล้วตอนที่สู้กับฮวาอิ่ง ภาพจำเหล่านั้นยังคงฝังลึกอยู่ในดวงตาของนาง พรสวรรค์ของการสร้างค่ายกลเช่นนั้น เกรงว่าบนโลกใบนี้คงไม่มีใครเทียบเคียง

“เช่นนั้น...ทางด้านของเฟิงโห้ว...? เวลานี้เกรงว่าตำหนักเว่ยหยาง...ตำหนักเว่ยหยางคงไม่สามารถอาศัยอยู่ได้แล้ว”

กู้ชูหน่วนกำลังเดินออกไป แต่ทันใดนั้นก็หยุดชะงัก กล่าวออกมาด้วยความสงสัย “อาม่อพอคนไปยังตำหนักเว่ยหยาง? เขาต้องการเผา เหวินเส่าอี๋ก็ให้เขาเผางั้นหรือ”

“คือ...เขาพาคนไปค่อนข้างมาก แน่นอนว่าเฟิงโห้วไม่ยอมให้เขาเผา แต่หลังจากนั้น...หลังจากนั้นม่อกุ้ยจวินทะเลาะกับเฟิงโห้ว เฟิงโห้วกล่าวว่าอยากเผาก็เผา ต่อให้ตำหนักเว่ยหยางหลังนี้ถูกเผา เขาก็ยังมีตำหนักเว่ยหยางแห่งใหม่ให้อยู่ในอนาคต”

“ดังนั้น...เหวินเส่าอี๋จึงเป็นคนยุยงให้ม่อกุ้ยจวินเผามัน?”

“เรื่องนี้...ข้าน้อยเองก็ไม่แน่ใจ”

“ออกไปเถิด”

คนรับใช้ยังอยากจะถามว่าต้องชดใช้ให้กับทางฝั่งของเฟิงโห้วอย่างไร แต่เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของกู้ชูหน่วน เขาก็ทำได้เพียงเงียบปากไว้

ตำหนักม่อ

ทันทีที่กู้ชูหน่วนก้าวเข้ามาเขาก็ได้ยินเสียงไหม้อย่างรุนแรง

คนรับใช้บางคนหมอบลงบนพื้นเพื่อหยิบชามและจานที่แตก

คนรับใช้บางคนรีบไปที่ห้องครัวพร้อมฟืนในมือ

คนรับใช้บางคนวิ่งไปวิ่งมาพร้อมกับกองเสื้อผ้าในมือของพวกเขา

เป็นอย่างที่คิด ตำหนักม่อสร้างความวุ่นวายอีกเช่นเคย

แม้แต่นางเดินเข้ามา เหล่าคนรับใช้ยังไม่สังเกตเห็นเลยด้วยซ้ำ

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน สุดท้ายก็มีคนรับใช้สังเกตเห็นนาง

“ฝ่า...ฝ่าบาท ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นปี หมื่น หมื่นปี”

“ลุกขึ้นเถิด พวกเจ้ากำลังทำอะไรงั้นหรือ?”

“กราบทูลฝ่าบาท ม่อกุ้ยจวินกล่าวว่าต้องการเข้าครัวด้วยตัวเอง เพื่อทำขนม”

“ข้าเข้าใจได้ว่าต้องใช้ฟืนในการปรุงอาหาร และถ้วยชามที่แตกเหล่านี้ก็พอเข้าใจได้ แต่เสื้อผ้าที่ถืออยู่มันคือสิ่งใด?”

กู้ชูหน่วนพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อระงับความโกรธของตนเอง

ฟืนทั้งหมดในพระราชวังถูกขนมายังตำหนักม่อ

ถ้วย ชาม และภาชนะเหล่านั้นก็เช่นกัน

แตกกระจายไปทั่วพื้นของตำหนักม่อ หัวใจของนางเองก็แหลกสลายเช่นกัน

นี่มันไม่ต่างอะไรกับการนำเงินมาละลายน้ำ

เมื่อสัมผัสได้ถึงความโกรธของกู้ชูหน่วน คนรับใช้จึงพูดอย่างสั่นสะท้านว่า “คือ...กราบทูลฝ่าบาท ม่อกุ้ยจวินกล่าวว่าต้องการนำผ้ามาเป็นเชื้อเพลิง ขนมหวานที่ทำออกมาถึงมีรสชาติอร่อย”

กู้ชูหน่วนกล่าวออกมาด้วยเสียงสูง “ใช้ผ้าเป็นเชื้อเพลิง?”

บ้านของซือม่อเฟยผลิตทองคำอย่างนั้นหรือ?

ถึงได้นำผ้าไหมมาเป็นเชื้อเพลิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์