กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 1156

สรุปบท บทที่ 1156 เหวินเส่าอี๋: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

อ่านสรุป บทที่ 1156 เหวินเส่าอี๋ จาก กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

บทที่ บทที่ 1156 เหวินเส่าอี๋ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อี้หมิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ค่ายกลเริ่มทำงาน เปล่งแสงสีแดงอันพร่างพราว

ไป๋หรานกล่าวออกมาอย่างร้อนรน “ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลาย พวกเรามาร่วมมือกันฝ่าออกไปกันเถอะ”

ทุกคนพุ่งไปข้างหน้า แต่ถูกแสงสีขาวสะท้อนกลับมา

แต่ละคนนอนบาดเจ็บสาหัสอยู่บนพื้น ส่วนพวกที่มีวรยุทธ์ต่ำต้อยก็ถึงขั้นกระอักเลือดออกมา

อวี้ชี “มีความสามารถแค่นี้แต่คิดจะทำลายค่ายกลออกไป ฝันไปเถอะ”

ไป๋หรานกล่าวออกมา “มีอะไรน่าภูมิใจอย่างนั้นหรือ รอให้หัวหน้าเผ่าของพวกเรามา นางไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่”

“หัวหน้าเผ่าของพวกเจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า เกรงว่านางคงไม่มีวันรู้ว่าพวกเจ้าจะต้องมาจบชีวิตลงอยู่ที่นี่”

อวี้ชีกระดิกนิ้ว ค่ายกลอันแข็งแกร่งโอบล้อมพวกนาง ดูดเลือดพวกนางออกมาจากร่างกาย

ทันใดนั้นร่างสีขาวก็ปรากฏขึ้น

ค่ายกลอันยิ่งใหญ่แตกสลาย อวี้ชีถูกผลักกระเด็นไปข้างหลังด้วยความตกใจ

อวี้ชีตะโกนออกมา “พลังภายในแข็งแกร่ง เจ้าเป็นใคร?”

กู้ชูหน่วนเองก็เงยหน้าขึ้นมาคนผู้นั้น

พลังวิญญาณแห่งเซียนพลิ้วไหว อ่อนโยนและงดงาม ด้วยการเคลื่อนไหวที่สง่างาม นั่นไม่ใช่เหวินเส่าอี๋อย่างนั้นหรือ?

เพียงแต่เสื้ออาภรณ์สีขาวของเหวินเส่าอี๋นั้นกลายเป็นสีแดง ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

แค่ทำลายค่ายกลเล็ก ๆ ก็ทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดออกมา

เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น

วรยุทธ์ของเหวินเส่าอี๋แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น

ใครกันที่สามารถทำร้ายเขาจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?

ไป๋หรานเข้าไปพยุงเหวินเส่าอี๋ที่บาดเจ็บสาหัส

“เจ้า......เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เหวินเส่าอี๋เช็ดเลือดที่มุมปากพร้อมกับส่ายหน้า

เหวินเส่าอี๋กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนแรง “ค่ายกลดูดโลหิตเป็นค่ายกลต้องห้ามของเผ่าเพลิงฟ้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดเจ้าถึงใช้มันได้?”

“เจ้ารู้จักค่ายกลนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เหวินเส่าอี๋”

เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น นอกจากกู้ชูหน่วน ทุกคนต่างตกตะลึง

อวี้ชีเองก็หวาดกลัว เมื่อลุกขึ้นมาก็รีบหนีไปทันที

ไป๋หรานกล่าวออกมาว่า “เจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าอย่างนั้นหรือ ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลาย ทุกคนร่วมมือกันสังหารเขาเพื่อแก้แค้นให้กับเหล่าพี่น้องของเผ่าน้ำแข็งที่ตายไป”

ตอนแรกเหวินเส่าอี๋คิดจะไล่ตามอวี้ชีไป คิดไม่ถึงว่าคนของเผ่าน้ำแข็งน้ำเข้ามาขวาง อีกทั้งต้องคอยตรวจสอบดูว่ามีใครไล่ตามตนเองมาหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงจ้องมองและปล่อยให้อวี้ชีหนีไป

“ปัง......”

เหวินเส่าอี๋เขย่าผู้คนของเผ่าน้ำแข็ง

“ข้าไม่อยากสังหารพวกเจ้า พวกเจ้ารีบหนีไป”

“เจ้าสังหารหัวหน้าเผ่าของพวกเรา และยังสังหารพี่น้องในเผ่าน้ำแข็งอีกมากมาย ไม่ว่าอย่างไรวันนี้พวกข้าก็จะต้องสังหารเจ้าให้ได้”

เหวินเส่าอี๋ยกท้าวขึ้นและก้าวไปด้านหน้า

แต่จู่ ๆ พลังอันยิ่งใหญ่ก็พุ่งเข้ามาหาเขา

เขาพยายามป้องกันอย่างสุดความสามารถ แต่สุดท้ายก็ยังกระเด็นไปด้านหลัง

“จะหนีไปไหน”

ชายวัยกลางคนสี่คนไล่ตามมา และความแข็งแกร่งของแต่ละคนก็เป็นถึงยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับหก

หากเป็นก่อนหน้านี้ เหวินเส่าอี๋คงไม่รู้สึกกลัวพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ในดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับเยี่ยจิ่งหานและซือม่อเฟย

และเพื่อช่วยชีวิตเยี่ยจิ่งหาน ทำให้พลังของเขาอ่อนแอลงและเกือบจะตายอยู่ในสนามรบ

ไม่ง่ายเลยกว่าจะปกป้องตนเองและเอาชีวิตรอดกลับมาได้ แต่เมื่อกลับมาถึงดินแดนเยี่ยอวี่ เขากลับถูกตามล่าอย่างไม่สิ้นสุด

และถูกบุคคลลึกลับที่อยู่ในระดับปฐพีผู้นั้นโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อนึกถึงการต่อสู้ครั้งนั้น เหวินเส่าอี๋หัวใจของก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ข้าไปทำอะไรให้พวกเจ้า เหตุใดพวกเจ้าถึงจ้องจะเอาชีวิตข้า”

ชายคนหนึ่งในสี่คนนั้นกล่าวออกมา “เนื่องจากเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า และรองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าของเจ้าก็ทำสิ่งชั่วร้ายไว้กับหัวหน้าเผ่าของพวกเราไว้มากมาย”

“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง ในเมื่อซือคงช่างเหิงเป็นคนทำ เหตุใดเจ้าถึงไม่ไปคิดบัญชีกับเขา”

“เจ้าคือหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เจ้าเองก็ไม่อาจหลีกหนีความรับผิดชอบนี้ไปได้”

ทั้งสี่คนร่วมกันโจมตีอีกครั้ง

น่าเสียดายที่เหวินเส่าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เขาจึงถูกทำร้ายอย่างช่วยไม่ได้

การโจมตีของพวกเขานั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก ทำให้เหล่าพวกที่มาจากเผ่าน้ำแข็งนั้นยืนแทบไม่อยู่

พูดได้แค่ว่า “พี่ไป๋หราน พวกเขาแข็งแกร่งเกินไป พวกเราไม่อาจสู้ได้ พวกเราควรหลบไปก่อนดีหรือไม่”

“ไม่ได้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะตามหาเหวินเส่าอี๋จนพบ และเวลานี้เขาเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บสาหัส หากไม่จัดการเขาตอนนี้ หลังจากนี้ก็เกรงว่าคงจะหมดโอกาส”

ตู้ม......

เหล่าศิษย์ของเผ่าน้ำแข็งต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

พวกนางมองไม่เห็นว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแค่ว่าคนพวกนี้นั้นรวดเร็วมาก มีแสงของแรงระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกนางแสบตาจนไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้

หลังจากนั้น......

หลังจากนั้นชายชราทั้งสี่ที่เป็นถึงยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับหกก็ล้มลงกับพื้น

ใบหน้าของแต่ละคนฟกช้ำ บวมปูดราวกับหมู

จากนั้นก็มองมาที่กู้ชูหน่วน พวกนางเห็นกู้ชูหน่วนกำลังลูบกำปั้นด้วยความเจ็บปวด

แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำก็อาจทำให้พวกนางปลิวไปตามกระแสลม

“ตีจนเจ็บมือหมดแล้ว เหตุใดผิวของคนพวกนี้ถึงได้หยาบกร้านยิ่งนัก”

นี่ นี่ นี่ นี่มัน......

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ผู้หญิงคนนั้นสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดายเลยอย่างนั้นหรือ?

เช่นนั้นความแข็งแกร่งของนางต้องมากถึงเพียงใด

ไป๋หรานกลืนน้ำลาย “ยอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับหกเชียวนะ เช่นนั้นนางก็ต้องอยู่ในขั้นกลางระดับเจ็ดขึ้นไปเลยไม่ใช่หรือ?”

“ชะ......ใช่ หากนางคิดจะฆ่าพวกเรา คงง่ายกว่าฆ่าแมลงวันเสียด้วยซ้ำ”

“เจ้า......เจ้ากล้าทำร้ายพวกข้าจนมีสภาพเช่นนี้เลยอย่างนั้นหรือ?”

“จะไสหัวไปได้หรือยัง หากยังไม่รีบไสหัวไป ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะสังหารพวกเจ้า”

ชายชราทั้งสี่รู้สึกหวาดกลัวจนรูม่านตาของพวกเขาหดตัวลง จากนั้นก็รีบถอยออกไป

พวกเขาสงสัยเป็นอย่างมาก เรื่องจากผู้หญิงคนนั้นอารมณ์ไม่ดี นางถึงได้ระบายความโกรธกับพวกเขาอย่างนั้นหรือ

กู้ชูหน่วนเผชิญหน้ากับเหวินเส่าอี๋ เมื่อเห็นบาดแผลที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นทุกข์

“ข้าช่วยทายาให้เจ้า”

เหวินเส่าอี๋ผลักนางออกไปอย่างแรง เขาเดินเซไปด้านหน้า ทุกย่างก้าวที่เดินออกไป เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากร่างกายของเขา

“หากเจ้าไม่ยอมห้ามเลือด เจ้าจะเสียเลือดจนตาย”

ไป๋หรานกล่าวออกมาด้วยความโกรธ “พวกเจ้าหยุดเดี๋ยวนี้ ใครอนุญาตให้พวกเจ้าไปอย่างนั้นหรือ?”

มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุก สะบัดแขนเสื้อ สร้างค่ายกลขึ้นมากักขังเหล่าศิษย์ผู้โง่เขลาของเผ่าน้ำแข็งเอาไว้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์