ไป๋หรานกล่าวออกมา “พวกเจ้า จับตัวนางไป”
กู้ชูหน่วนพยายามขัดขืน
คนพวกนั้นก็เข้ามาล้อมมากขึ้น คนจำนวนมากกอดนางไว้แน่น ไม่ว่าจะสลัดอย่างไรก็สลัดไม่หลุด
หากใช้พลังขึ้นมา จากต้องทำให้พวกเขาบาดเจ็บเป็นแน่
กู้ชูหน่วนจึงทำได้เพียงปล่อยวาง ปล่อยให้พวกนางมัดนางไว้และพาตัวนางไป
คนของเผ่าน้ำแข็งขี่ม้าออกไป
นางถูกมัดไว้ด้วยเชือก และถูกพวกนางลากไปทั้งแบบนั้น
กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี
หากคนพวกนี้รู้ว่านางคือหัวหน้าเผ่าของพวกนาง ก็คิดไม่ออกเลยว่าพวกนางจะตอบสนองออกมาอย่างไร
ผ่านโรงน้ำชาหลังหนึ่ง
กู้ชูหน่วนเห็นจักรพรรดิเยี่ยแสร้งทำเป็นคุณชายผู้ร่ำรวย นั่งดื่มชาอยู่ในโรงน้ำชา
นางเห็นเช่นนั้นก็ตะโกนออกไป “เสี่ยวเยี่ย นี่ข้าเอง รีบมาช่วยข้าเร็ว”
จักรพรรดิเยี่ยมองมาที่กู้ชูหน่วน จากนั้นก็มองไปยังถ้วยน้ำชาของเขา
เขาหันไปพูดกับเสี่ยวหลี่จือว่า “เหตุใดผู้หญิงคนนั้นถึงได้ตามหลอกหลอนข้าไม่ยอมปล่อย ขนาดออกมาแล้วยังเห็นนางไม่เลิก”
เสี่ยวหลี่จือตกใจ “นายท่าน เหมือนว่าจะเป็นนางจริง ๆ”
จักรพรรดิเยี่ย “ไม่ได้คิดไปเองอย่างนั้นหรือ?”
ไป๋หรานเตะนางจากด้านหลัง “ยังคิดจะเรียกให้คนช่วยอีกอย่างนั้นหรือ ไม่มีทาง รีบไปได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนกัดฟันแน่น
บัดซบที่สุด
ตั้งแต่เล็กจนโต มีใครบ้างที่กล้าเตะนาง
“เยี่ยมู่ชวน เจ้าตาบอดหรือยังไง ยังไม่รีบไล่ผู้หญิงเหล่านี้ไปอีกอย่างนั้นหรือ”
จักรพรรดิเยี่ย “ดูเหมือนว่านางกำลังเรียกชื่อข้าอยู่”
เสี่ยวหลี่จือรู้สึกหวาดกลัว “ใช่ ใช่ ใช่ขอรับ......นางช่างโอหังเสียเหลือเกินที่กล้าเรียกชื่อท่านออกมาเช่นนี้”
ไป๋หรานกล่าวออกมาว่า “ผู้หญิงคนนี้เสียสติไปแล้วหรือไง นางคิดว่าหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงนั้นคือจักรพรรดิเยี่ยหรือยังไง จักรพรรดิเยี่ยผู้สง่างามจะมาปรากฏตัวอยู่ในที่เช่นนี้ได้อย่างไร”
จักรพรรดิเยี่ย “นางก็เป็นแค่ผู้หญิงอัปลักษณ์ ผู้หญิงอัปลักษณ์ที่อวดดี แต่นางต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่นตั้งแต่เมื่อไหร่”
เสี่ยวหลี่จือ “พูดไปพูดมามันก็จริง แต่คิดไม่ถึงว่าบนโลกใบนี้จะมีผู้หญิงที่หน้าตาคล้ายคลึงกันถึงเพียงนี้ นายท่าน พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ อย่าไปสนใจเรื่องของคนอื่นเลย”
กู้ชูหน่วนโกรธเป็นอย่างมาก
จักรพรรดิน้อยพวกนี้ทำไปโดยเจตนา
จะต้องเป็นเจตนาอย่างแน่นอน
“ต่อให้มีหน้าตายที่คล้ายคลึงกันมากเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางที่เหมือนแม้กระทั่งเสียงหรอกจริงไหม”
ไป๋หรานพูดออกมาด้วยความเย่อหยิ่ง “ทำใจยอมรับเสียเถอะ ไม่มีใครช่วยเจ้าได้ทั้งนั้น”
“ข้าว่าสมองของพวกเขาคงเลอะเลือนไปกันหมดแล้ว อย่างพวกเจ้าคิดว่าจะทำอะไรข้าได้อย่างนั้นหรือ”
“ยังจะอวดดี เจ้าไม่เห็นหรือไงว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่กำลังถูกมัดอยู่”
“ต่อให้ไป๋จิ่นไม่อยู่ ฮวาฉี่หลัวก็ยังอยู่ไม่ใช่หรือไง? เหตุใดนางถึงได้สอนลูกศิษย์ที่ไร้สมองและอ่อนแออย่างพวกเจ้าออกมาได้”
“อ่อนแอเสียยิ่งกว่าผักปลา”
นางสามารถสังหารคนพวกนี้ได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว
“โอหัง กล้าดียังไงถึงมาว่าทูตศักดิ์สิทธิ์ฮวา”
กู้ชูหน่วนเงียบปาก รอหาโอกาสและเวลาที่เหมาะสมในการหลบหนี
“ทูตศักดิ์สิทธิ์ไป๋ เผ่าหยกรู้ว่าพวกเราอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเขาได้ส่งจดหมายมาเชิญพวกเราไปยังเผ่าหยกในฐานะแขก”
ไป๋หรานมีความสุขเป็นอย่างมาก หยิบจดหมายเชิญมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เป็นจดหมายจากเผ่าหยกจริง ๆ พวกเขาเชิญชวนพวกเราด้วยความสัมพันธ์อันดีงาม พวกเราไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ไป พวกเราไปเผ่าหยกกันเถิด ข้าจะพาพวกเจ้าไปเปิดหูเปิดตากับโลกภายนอกเสียบ้าง”
“แต่ไหนแต่ไร เผ่าหยกไม่เคยให้คนภายนอกเข้าไปด้านใน คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเราจะมีโอกาสได้เข้าไป พวกเขาเป็นถึงเผ่าโบราณที่มีอายุมากกว่าพันปี ข้าช่างรู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก”
กู้ชูหน่วนพูดอย่างเกียจคร้าน “หากข้าเป็นพวกเจ้า ข้าจะไม่ไปที่นั่น”
“เพราะเหตุใด?”
“พวกเจ้าก็เป็นคนพูดเอง แต่ไหนแต่ไรเผ่าหยกไม่เคยปล่อยให้คนนอกเข้าไปด้านใน เหตุใดพวกเขาจึงเชิญพวกเจ้าเข้าไป”
“เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ผู้อาวุโสจำนวนหนึ่งร้อยแปดท่านของเผ่าน้ำแข็งยอมพลีชีพของตนเองเพื่อขจัดคำสาปโลหิตให้แก่เผ่าหยก พวกเขากระโดดลงไปในเตากลั่นยา หัวหน้าเผ่าของพวกเราก็คือหัวหน้าเผ่าหยก เผ่าหยกเชิญพวกเราไปในฐานะแขก มีอะไรน่าแปลกอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่ อีกอย่างได้ยินมาว่าหัวหน้าเผ่าของพวกเรากลับมาแล้ว ไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะหัวหน้าเผ่ารู้ว่าพวกเราอยู่ไม่ไกล ดังนั้นจึงสั่งให้ลูกน้องมาเชิญพวกเราไป”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะออกมา “หัวหน้าเผ่าของพวกเจ้าก็ถูกพวกเจ้ามัดอยู่ไม่ใช่หรือไง”
“เจ้าพึมพำอะไรของเจ้า”
“ข้าบอกว่า ปกติแล้วจดหมายเชิญของเผ่าหยกจะมีดอกแมกโนเลียแนบมาด้วยหนึ่งดอก เมื่อหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ ดอกแมกโนเลียจะเปล่งประกายเจ็ดสี จดหมายที่พวกเจ้าได้มาไม่มีดอกแมกโนเลียแม้แต่ดอกเดียว ดังนั้นคงไม่ต้องพูดถึงแสงหลากสี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...