เยี่ยจิ่งหานเลิกคิ้ว “ทำไม ข้าจะไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า”
แม่สาวนิสัยเสีย เขาช่วยนางไว้แท้ๆ แม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี แล้วนี่ยังคิดจะไล่เขาอีก
“ได้ยังไงล่ะ แค่ท่านทำตัวเป็นพระพุทธรูปนั่งเฉยอยู่ในสำนักศึกษาพวกเขาก็กลัวกันหมดแล้ว แล้วแบบนี้ทุกคนจะเข้าเรียนได้อย่างไร นี่ไม่ใช่ว่าข้าทำเพื่อท่านอยู่หรอกหรือ”
กู้ชูหน่วนชี้ไปที่นักเรียนซึ่งกำลังนั่งคุกเข่าตัวสั่นอยู่เต็มสำนักศึกษา แววตาเต็มไปด้วยการหยอกล้อ
เซี่ยวอวี่เซวียนและคนอื่นๆ คิดว่าเทพแห่งสงครามคงไม่ยอมจากไปง่ายๆ แต่ไม่คิดว่าเยี่ยจิ่งหานจะยกมือขึ้น ชิงเฟิงเข้าใจความหมายของเขาและเข็นรถเข็นออกไปจากสำนักศึกษาทันที
เขาทิ้งไว้เพียงประโยคเรียบๆ ประโยคเดียวว่า “ถ้าคืนนี้ไม่กลับจวนอีกละก็ มาดูกันว่าเจ้าจะรักษาขาสุนัขของเจ้าไว้ได้หรือเปล่า”
เอ่อ...
เทพแห่งสงครามจากไปง่ายๆ อย่างนี้น่ะนะ
เขามาที่นี่เพื่อช่วยแม่สาวอัปลักษณ์จริงๆ หรือ
เมื่อนึกย้อนไปถึงท่าทีที่เทพแห่งสงครามมีต่อกู้ชูหน่วนก่อนหน้านี้ เซี่ยวอวี่เซวียนก็เหมือนจะเข้าใจขึ้นมา บางทีเทพแห่งสงครามอาจไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด
มุมปากของกู้ชูหน่วนกระตุกเล็กน้อย
ขาสุนัข
ขาของนางเป็นขาสุนัขงั้นเหรอ
“เอาละ ทุกคนนั่งประจำที่ เรียนต่อได้” อาจารย์ซั่งกวนกล่าว
ทุกคนนั่งลงแล้ว ทว่าภายในใจยังรู้สึกปั่นป่วน มีหลายคนที่หันไปมองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่สงสัยใคร่จะสอบถาม
“คนต่อไป เยี่ยเฟิง”
ไม่รู้ว่าเยี่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ที่สะอาดและกลับมาตั้งแต่เมื่อไร เมื่อได้ยินเสียงเรียกเขาจึงลุกขึ้นและโค้งคำนับ จากนั้นจึงเดินไปนั่งที่ข้างโต๊ะอาจารย์
บุคลิกของเขาโดดเด่น กิริยาของเขางดงาม เมื่อสองมือสัมผัสกับสายฉิน ดวงตาที่เย็นชาของเขาก็มีแสงประกายวาบขึ้นมา
กู้ชูหน่วนขยับเข้าไปใกล้เซี่ยวอวี่เซวียนและถามว่า “ชั้นเรียนวันนี้ ทุกคนต้องออกไปดีดฉินงั้นเหรอ”
“ใช่”
“แล้วเจ้าดีดไปหรือยัง”
“มะ... มือของข้าได้รับบาดเจ็บ ท่านอาจารย์ซั่งกวนยกเว้นให้ข้าไม่ต้องเล่นเป็นกรณีพิเศษ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์