“ข้าขอร้องพวกท่านล่ะ เยี่ยเฟิงนั้นตัวคนเดียวไร้ที่พึ่ง นอกจากยายเฒ่าอย่างข้าแล้ว รอบกายเขาก็ไม่มีสหายหรือญาติใดเลย เขามิค่อยชอบพูดนัก เมื่อผู้อื่นว่าร้ายใส่เขา นอกจากนิ่งเงียบ เขาไม่มีทางพูดปกป้องตัวเองอย่างแน่นอน”
“ข้ารู้ว่าเขาไม่ได้ฆ่าคน พวกข้าเองก็อยากช่วยเขาเช่นกัน ยายเฒ่า ท่านรีบลุกขึ้นเถิด ท่านทำเช่นนี้พวกข้าแบกรับมิไหวหรอก”
กู้ชูหน่วนประคองให้นางลุกขึ้นและนั่งบนเก้าอี้อย่างบังคับ
“พวกท่าน…พวกท่านเชื่อว่าเขามิได้ฆ่าคนจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว มิเช่นนั้น พวกข้าจะมาที่นี่เพราะอันใดกัน”
ก่อนที่ท่านยายเยี่ยจะพูดเรื่องนี้กับนาง นางก็เชื่อแล้วล่ะ
มาวันนี้ท่านยายเยี่ยพูดเช่นนี้แล้ว ก็ยิ่งทำให้นางเชื่อว่าตนนั้นพูดถูก
เป็นนักดนตรีที่ใช้ชีวิตอย่างไร้อิสระและอาศัยอยู่ในส่วนลึกของความมืดมิดแล้ว มีคนนำแสงสว่างมาแก่เขาอย่างกะทันหันเช่นนี้
หากเป็นผู้อื่น คงจะทำทุกหนทาง เพื่อให้ได้แสงสว่างและอิสรภาพนั้น
แต่ทว่าเขายังคงมีหลักการของตน และยังอ่อนน้อมตอนขอระฆังวิญญาณสะบั้นจากนางด้วย
เมื่อตอนที่นางถูกไล่ล่าสังหาร ก็ออกมารับดาบแทนนางโดยไม่คิดชีวิตเลย
และครั้งที่เผ่าปีศาจมาถึง ก็ยังคงร้องขอแทนนาง โดยไม่คิดถึงผลที่ตามมาภายหลังเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...